ดีเดย์วันนี้ถึงเวลาบุก !!! "ศิษย์ธรรมกาย" ตั้งท่ารอเลย ...ของจริงมาแรง "ดีเอสไอ-พศ.ฎ เต็มคณะเคลื่อนไป "วัดพระธรรมกาย" (รายละเอียด)

นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการเดินทางไปวัดพระธรรมกายพร้อมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะเดินทางเข้าวัดพระธรรมกายอีกครั้งในช่วงบ่ายประมาณเวลา 15.00 น. เนื่องจากพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีท่านติดศาสนกิจ โดยวันนี้มีการนัดท่านเจ้าคุณที่วัดเขียนเขต จากนั้นรวบรวมเต็มคณะและจะเคลื่อนไปวัดพระธรรมกาย

ภาพ พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต

เมื่อถามว่าการเดินทางเข้าวัดพระธรรมกายของดีเอสไอวันนี้จะมีพระนำเข้าไปใช่หรือไม่ นายพนม กล่าวว่า ขอเรียนว่าการไปครั้งนี้เราไปเพื่อเจรจาต้องถือว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้ชวนทางดีเอสไอเข้าไปไม่ใช่ทีมจับกุมแต่เป็นทีมเจรจา ซึ่งผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย คือท่านพระราชภาวนาจารย์ (เผด็จ ทตฺตชีโว)ที่มีการแต่งตั้งเมื่อเดือน ก.ค.59 ต้องยึดตามหลักฐานของทางราชการ อย่างไรก็ตามอาจจะมีข้อความสร้างความสับสนอยู่บ้างเรื่องคำสั่งของวัดพระธรรมกาย ที่มีคำสั่งที่9 /2559 แต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาสเป็นการแต่งตั้งชั่วคราวในกรณีเจ้าอาวาสอยู่ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ท่านก็เลยตั้งผู้รักษาการณ์แทนขึ้นในบางช่วง

  ผู้สื่อข่าวถามว่า จะได้พบตัวแทน หรือพบกับพระราชภาวนาจารย์ (เผด็จ ทตฺตชีโว)นายพนม กล่าวว่า ตั้งใจที่จะพบกับผู้รักษาการเจ้าอาวาสท่านพระราชภาวนาจารย์ (เผด็จ ทตฺตชีโว) ส่วนจะได้เจอหรือไม่ นั้นก็ต้องเอาใจช่วยกัน ซึ่งตนได้เคยเจอกับพระราชภาวนาจารย์ (เผด็จ ทตฺตชีโว)และได้คุยกันมาบ้างแล้ว ที่เรื่องไม่จบเนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนไป เดิมคือเรื่องสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น แต่เมื่อมีเรื่องของการบุกรุกป่าก็ทำให้มีความสลับซับซ้อนขึ้น คราวนี้การเจรจาจะคุยกันทุกคดี คาดว่าวันนี้จะได้เจอฝ่ายกฎหมายของทางวัดซึ่งเป็นพระคุณเจ้าที่ดูแลเรื่องฝ่ายกฎหมาย คือพระสุธรรม สุธัมโม และจะขอคุยกับผู้มีอำนาจในการตัดสินใจด้วยรวมทั้งทนายความของทางวัดด้วย

 

ภาพ พระราชภาวนาจารย์ (เผด็จ ทตฺตชีโว)

  ต่อข้อถามว่า จะขอไปเยี่ยมพระธัมมชโยด้วยด้วยหรือไม่ นายพนม กล่าวว่า จะขอเข้าเยี่ยมด้วย แต่ไม่รู้จะได้หรือไม่ ส่วนมีสัญญาณตอบรับหรือไม่ในการขอเยี่ยมอาการอาพาธนั้น เราไม่ได้ลงลึกขนาดนั้น ครั้งนี้ที่เราไปเบื้องต้นจะเจรจาเรื่องข้อกฎหมาย ปัญหา และนำเอกสารที่อัยการพิเศษแจ้งผ่านมาทางพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไปมอบให้

 

 

ดีเอสไอ รอ พศ. เจรจา ยันมีแผนรับมือหากไม่เป็นผล

ขณะที่ พันตำรวจเอกไพสิฐ วงเมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เผยถึงแนวทางการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ว่าวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ไปพร้อมกับ นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางเจ้าเจรจากับทางวัดพระธรรมกาย ช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อตอดต่อให้พระธัมมชโย ยินยอมเข้ามอบตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ทางดีเอสไอได้ทำหนังสือถึง เจ้าคณะใหญ่ หน.กลาง เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ทั้ง 3 ส่วนแล้ว แต่รอการตอบรับอยู่ สำหรับดำเนินการขั้นตอนต่อไปขึ้นอยู่กัยการเจรจาต่อลองในบ่ายวันนี้ หากไม่สำเร็จก็จะเตรียมดำเนินการตามแผนที่วางไว้

ซึ่งดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ คนละส่วนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มีการประสานงานร่วมกันตลอดมา โดยมีการประเมินสถานะการณ์อย่างต่อเนื่องและปฏิบัติงานอย่างเหมาะสม ส่วนภาพที่ปรากฏของรถดีเอสไอเข้าตรวจสอบรอบวัดพระธรรมกายเมื่อวานที่ผ่านมาเป็นส่วนหนึ่งของการข่าว

ส่วนการดำเนินคดี อธิบดีดีเอสไอยืนยันว่าจะทำตามขั้นตอนของกฏหมายและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมระบุว่าต้องการให้พระธัมมชโยมอบตัว

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจ กล่าวถึงการดำเนินการกับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หลังศาลจังหวัดสีคิ้ว ได้อนุมัติหมายจับ คดีบุกรุกพื้นที่ป่าก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่จ.นครราชสีมา และอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องฐานร่วมฟอกเงิน-รับของโจร ทุจริตสหกรณ์ยูเนียนคลองจั่น โดยพ้นกำหนดที่ตำรวจขีดเส้นตายให้พระธัมมชโยมามอบตัว ว่าเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เรียกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รวมทั้งสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เกี่ยวข้องมาประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ส่วนขั้นตอนต่อไปก็คงต้องรอ หากพระธัมมชโย ไม่มาตามนัด พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็มีขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้วส่วนจะมีการดำเนินการจับกุมพระธัมมชโยหรือไม่นั้น ต้องรอดูสถานการณ์ เนื่องจากการนำกำลังเข้าไปจับกุมไม่สามารถทำได้ตลอด และยอมรับว่าตนมีความเป็นห่วงในเรื่องการปะทะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตอนนี้จึงให้ สำนักพระพุทธศาสนา เข้ามาช่วยอีกทางหนึ่ง โดยมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อน สังคมสามารถตัดสินได้อยู่แล้วว่าใครเป็นอย่างไร

 

ส่วนกรณีนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์ ออกมาระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ เข้าข่ายดูหมิ่นเจ้าพนักงานหรือไม่นั้น ต้องดูรายละเอียดของคำพูดว่าเข้าข่ายหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายก็จะดำเนินการ แต่ดูแล้วเป็นการกดดันเจ้าหน้าที่มากกว่า พร้อมกับขอให้สื่อนำเสนอข่าวอย่างเป็นกลาง ให้ความเป็นธรรมด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่การเอาไปเปรียบเทียบว่าเป็นการปิดล้อมจับมาเฟีย หรือผู้มีอิทธิพล เป็นคนละเรื่องกัน เนื่องจากมาเฟียหรือผู้มีอิทธิพล ต้องมีกำลัง มีอาวุธ พร้อมต่อสู้ ส่วนพระธัมมชโย มีลูกศิษย์ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การดำเนินการต่างๆมีขั้นตอนตามกฎหมายอยู่แล้ว ยืนยันว่าคดีจะไม่ยืดเยื้อ ส่วนจะสามารถได้ตัวพระธัมมชโยภายใน 1-2 เดือนนี้หรือไม่นั้น ก็ต้องอยู่ที่ตัวพระธัมมชโย ว่าจะมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไร

 

 

เรียบเรียงโดย ชนุตรา สำนักข่าวทีนิวส์