- 02 ธ.ค. 2559
คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานบริหารและบรรณาธิการอำนวยการ บริษัท ทีนิวส์ ทีวี จำกัด โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุค โดยมีเนื้อหาพร้อมรูปภาพประกอบดังนี้ "คนสองแผ่นดิน..ในร่มฉัตร บรมราชจักรีวงศ์" ๕๘ ปีท
คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานบริหารและบรรณาธิการอำนวยการ บริษัท ทีนิวส์ ทีวี จำกัด โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุค โดยมีเนื้อหาพร้อมรูปภาพประกอบดังนี้
"คนสองแผ่นดิน..ในร่มฉัตร บรมราชจักรีวงศ์"
๕๘ ปีที่เกิดมาใต้ร่มพระบารมี "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๙ แห่งราชวงศ์จักรี ชีวิตในวัยหนุ่มใจยังรุ่มร้อน แม้ปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง แต่ด้วยมิจฉาทิฏฐิ ขาดปัญญาอย่างรอบด้าน จึงเห็นผิดเป็นชอบ เชื่อในปรัชญาและทฤษฎีของ"คอมมิวนิสต์" คิดล้มล้าง"สถาบันพระมหากษัตริย์" ตามที่ได้รับการปลูกฝังว่าเป็นสิ่งที่ขัดขวางชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนคนไทย ทั้งๆท่ีในช่วงที่กำลังเติบโตนั้น "พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙" ได้ทรงงานอย่างหนัก เสด็จไปทุกแห่งหนในผืนแผ่นดินไทย ขึ้นเขาลงห้วยบุกป่าผ่าดง แดดร้อนแผดเผาฝนตกกระหน่ำหรือแม้ยามค่ำคืน
แต่ด้วยใจที่ "มืดบอด"ทางปัญญาหาได้เห็นถึงซึ่งความจริงอันได้ประจักษ์นั้นไม่!!
ล่วงเลยเวลามาครึ่งชีวิต รู้สึกซาบซึ้งในคำสอนของ"องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" สติปัญญาดังดอกบัวที่แหวกขึ้นจากโคลนตม ความคิดเป็นสัมมาทิฏฐิ เห็นความจริงอันประจักษ์ถึงสิ่งที่"พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ "ได้ทำเพื่อประชาชน และยิ่งค้นหาความจริงย้อนลึกไปในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ได้เห็นความจริงอันแจ่มชัดว่า"สถาบันพระมหากษัตริย์"นั้น คือปัจจัยอันสำคัญที่ช่วยรักษาความเป็น"เผ่าพันธุ์ไทย"และมีพื้นแผ่นดินเป็น"ประเทศ"มีขอบเขตอันแน่ชัดที่จะประกาศให้คนทั้งโลกได้รู้ว่า นี่คือ"ประเทศไทย"
หลายเผ่าพันธุ์แม้เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีตเป็นชนชาติที่มีประวัติศาสตรและอารยธรรม แต่เพราะขาด"สถาบันพระมหากษัตริย์"อันเข้มแข็งความเป็นชาติก็ถึงกาลเสื่อมสลาย กลายเป็นคนสิ้นชาติ
ภายใต้ร่มพระบารมีของ"พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ "นอกจากพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านแล้ว ยังได้เห็นพระราชกรณียกิจของ"สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ"และสมเด็จเจ้าฟ้าพระเจ้าลูกยาเธอทุกพระองค์รวมถึงพระเจ้าหลานเธอและพระบรมวงศานุวงค์ที่ได้ทรงทุ่มเททรงงาน เพื่อผืนแผ่นดินและคนไทย
นั่นคือสิ่งที่สั่งสมและสืบทอดกันมาของ"สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย"
รู้สึกซาบซึ้งและตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่าจะจงรักภักดีและถวายชีวิตเป็นราชพีลรับใช้"สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย"
๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ก็เป็นเช่นเดียวกับคนไทยทั้งชาติท่ีรู้สึก สูญเสีย เศร้าโศก อาลัย ต่อการ "เสด็จสวรรณคต" ของ. "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" รัชกาลที่ ๙ แต่เพียงไม่กี่วันถัดมาคนทั้งโลกก็ได้ประจักษ์ว่าคนไทยรักพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ มากมายขนาดไหนและนั่นคือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นได้ได้ถึงความผูกพันของคนไทยกับ"สถาบันพระมหากษัตริย์" และไม่เพียงเท่านั้น ไทยทั้งชาติก็ได้แสดงพลังด้วยการประกาศจะสืบสาน "ตามรอยพระบาท"ที่จะสร้างชาติไทยให้เข้มแข็งด้วย การพัฒนาตามแนวทาง"หลักเศรษฐกิจพอเพียง"ร่วมกันแปรเปลี่ยนความสูญเสียเป็นพลังแห่งการสร้างสรรค์
๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ก็ถึงวัน"มหาปิติ "ที่"สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณสยามมงกุฎราชกุมาร"ได้ตอบรับ คำกราบบังคมทูลอัญเชิญ ของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติในนามประชาชนชาวไทย เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ราชการที่ ๑๐
"ข้าพเจ้าขอตอบรับเพื่อสนองพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง" คือพระราชดำรัสของพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่
"สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร"
ขอเชิญชวนคนไทยที่อยู่ใน"รัชสมัยสองแผ่นดิน" ได้ถวายความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑๐ เพื่อร่วมกันสร้างชาติไทยของเราให้เข้มแข็งแข็งแรง อย่างยังยืนตามรอยพระบาทของพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๙ ที่ได้นำทางให้เราได้เห็นมาแล้วถึง ๗๐ ปี
ขอจง ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ๑ ธันวาคม ๒๕๕๙
อ้างอิงจาก เฟสบุค Sontiyan Tnews
เรียบเรียงโดย ชนุตรา สำนักข่าวทีนิวส์