เปิดปมลับ..ฉบับบุญระดม!!! ใครอยู่เบื้องหลังบทความฉาว BBC ไทย และชะตากรรมมืดของ "บก.นพพร" ??

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     จากกรณีบีบีซีเสนอข่าวล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยด้วยข้อความอันเป็นเท็จ จนนำไปสู่กระแสความไม่พอใจของคนไทยทั้งประเทศ นำไปสู่การบุกไปยังสำนักงานบีบีซีไทย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย แต่ปรากฏว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงก็พบเพียงแค่สำนักงานเปล่าที่ถูกปิดตาย ไม่มีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ในสำนักงานแม้แต่คนเดียว ทั้งนี้ก็เพราะมีรายงานว่าผู้บริหารบีบีซีให้พนักงานไม่เข้าออฟฟิศ เพราะเกรงในเรื่องความปลอดภัยของนักข่าวและช่างภาพที่ทำงานอยู่ในสำนักงาน

 

 

เปิดปมลับ..ฉบับบุญระดม!!! ใครอยู่เบื้องหลังบทความฉาว BBC ไทย และชะตากรรมมืดของ "บก.นพพร" ??

 

 

 

 

 

 

 

     อย่างไรก็ตามมีรายงานเกี่ยวกับเบื้องหน้าเบื้องหลังการนำเสนอข่าวล่วงละเมิดสถาบันครั้งนี้ไว้ว่า มีที่มาที่ไปจากที่สำนักงานใหญ่บีบีซีต้องการให้บีบีซีไทยแปลข่าวชิ้นนี้ที่เขียนโดยนักข่าวต่างประเทศเป็นภาษาไทย และให้เหตุผลกับบีบีซีไทยไว้ว่าเพื่อต้องการเรียกเรตติ้งให้กับสำนักข่าวบีบีซี เพราะเห็นว่าบีบีซีไทยยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร และเชื่อว่าคงไม่มีสำนักข่าวไหนกล้านำเสนอข่าวที่ล่อแหลมแบบนี้ นี่คือเหตุผลจากผู้บริหารบีบีซีสำนักงานใหญ่ แต่ในข้อเท็จจริงแล้วจะมีเบื้องหลังอะไรซ่อนอยู่อีกหรือไม่ เป็นสิ่งที่เราต้องตามขุดคุ้ยกันต่อไป

 

  เปิดปมลับ..ฉบับบุญระดม!!! ใครอยู่เบื้องหลังบทความฉาว BBC ไทย และชะตากรรมมืดของ "บก.นพพร" ??

 

 

    ส่วน นายนพพร วงศ์อนันต์ บก.บีบีซีไทยที่กำลังถูกคนไทยเพ่งเล็ง และถามหาความรับผิดชอบ หลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ก็เก็บตัวเงียบอยู่ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ พร้อมครอบครัวและปิดการสื่อสารทั้งหมดแม้กระทั่งกับคนคุ้นเคย เฟซบุ๊กที่เคยมี ก็เปลี่ยนชื่อโปรไฟล์ เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อกวนจากกลุ่มคนที่ไม่พอใจ หลายคนที่สนิทสนมกับนายนพพรและติดต่อพูดคุยกับนายนพพรก็ยืนยันว่านายนพพรไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่ไม่สามารถปฏิเสธนายใหญ่ในสำนักข่าวได้ จึงเป็นที่มาของข่าวที่จาบจ้วงล่วงละเมิดครั้งร้ายแรงนี้  และด้วยเหตุที่เกิดขึ้นนี้ คงทำให้นายนพพรไม่สามารถที่จะเดินทางกลับประเทศได้อีก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้นายนพพร เคยย้ายไปประจำสาขาของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ สิงคโปร์ แต่นายนพพรก็ทนอยู่ได้ไม่นานเพราะคิดถึงบ้าน และมาวันนี้นายนพพรคงกลับประเทศไทยยากเสียแล้ว