เชียร์ใครดี!! "บารัค โอบามา" แถลง "รัสเซีย" อยู่เบื้องหลังแฮกข้อมูล "สหรัฐฯ" ฝ่าย "ปูติน" สวนทันควัน "หยาบคาย ไร้สาระ แสดงหลักฐานมาซิ"

เอเอฟพี ได้รายงานข่าวว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ได้ทำการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวก่อนออกเดินทางไปพักผ่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่รัฐฮาวายและยังเป็นการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายของปีนี้ ก่อนที่เขาจะพ้นจากตำแหน่ง โดยสาระสำคัญของการแถลงข่าวของผู้นำสหรัฐฯ ในครั้งนี้ มุ่งไปที่การแฮกข้อมูลคอมพิวเตอร์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า เขามั่นใจอย่างมากว่าการแฮกข้อมูลเจ้าหน้าที่พรรคเดโมแครตและสถาบันต่างๆนั้นเป็นฝีมือของรัสเซียและต้องเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดเท่านั้น แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อโดยตรงว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียเป็นผู้สั่งการ แต่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียแฮกข้อมูลคอมพิวเตอร์ก็เพื่อสนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน

นอกจากนั้น ผู้นำสหรัฐฯ ยังบอกต่อว่า เขาเคยพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวกับผู้นำรัฐเซีย เมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ระหว่างการหารือนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำจี20 ที่ประเทศจีน ซึ่งเขาก็ได้บอกกับผู้นำรัสเซียขอให้เลิกทำเรื่องการแฮกข้อมูลคอมพิวเตอร์ได้แล้ว หาไม่แล้วจะเผชิญผลที่ตามมาอย่างรุนแรง นอกจากนั้น ยังเคยมีหลักฐานบางอย่างระบุว่า จีนเองก็พยายามที่จะควบคุมเรื่องการโจรกรรมไซเบอร์ หลังได้รับคำเตือนจากทางสหรัฐฯ


 

ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้บอกอีกอว่าเขาได้เตือนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรื่องการแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับจีน ด้วยการติดต่อกับไต้หวัน ซึ่งอาจเสี่ยงให้ถูกตอบโต้อย่างรุนแรง หากเขาเลิกความสัมพันธ์ที่มีมาช้านานกับจีน ส่วนเรื่องซีเรียนั้น บารัค โอบามา บอกว่า รัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และรัฐบาลอิหร่านรวมถึงผู้สนับสนุนอย่างรัสเซียจะต้องรับผิดชอบร่วมกันกับการสังหารหมู่พลเรือนที่เกิดขึ้นในเมืองอเลปโปของซีเรีย เพราะมีเลือดเต็มอยู่บนมือของพวกเขา


ผ่านไปไม่นานปรากฎว่า ทางฝากฝั่ง ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ ออกมาตอบโต้ ทันที โดยการเผยแพร่แถลงการณ์ของนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกคณะรัฐบาลรัสเซีย  เตือนไปยัง ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าควร หยุดพูดจาไร้สาระ หยาบคาย แต่ต้องแสดงหลักฐานที่ชัดเจนว่า รัสเซีย นั้นอยุ่เบื้องหลังการโจมตีไซเบอร์ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา 

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์
คลิปโดย AP , RT