พระวีรกรรมเหนือเกล้าฯ .."สนธิญาณ"นำผู้บริหารทีนิวส์บวงสรวง"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"ครบ ๒๕๐ ปีทรงนำทัพไล่อริราชศัตรูพ้นแผ่นดินคืนเอกราชสยาม

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

เวียนบรรจบถึงวันที่  ๒๘  ธ.ค.  ของทุกปี   ประชาชนคนไทยต่างรู้สำนึกดีว่าวันดังกล่าวเป็นยิ่งกว่าความทรงจำทางประวัติศาสตร์ชาติไทยที่จะต้องจารึกไปชั่วลูกหลานในอนาคต   เนื่องจากเป็น วันคล้ายวันปราบดาภิเษก “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”   พระมหากษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชจากพม่าให้แก่ประเทศไทย   และเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรีเพียงพระองค์เดียว แต่ที่สำคัญพิเศษยิ่งกว่านั้น  ก็คือวันแห่งประวัติศาสตร์ชาติดังกล่าวได้ผ่านพ้นมาครบ  ๒๕๐  ปีพอดีในปี   ๒๕๖๐ ...

 

นับเนื่องจาก   สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  ได้แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถ  และความหาญกล้านำหล่อหลอมคนไทยที่มีหัวใจรักชาติแผ่นดิน รุกรบฟาดฟันกองทัพพม่าจนรับชัยชนะเหนือข้าศึกที่มารุกรานกรุงศรีอยุธยา   แล้วพระองค์ตัดสินพระทัยยกทัพกลับมาที่ธนบุรีเพื่อตั้งราชธานีใหม่   แล้วขนานนามว่า "กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร”     และทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่  ๒๘ ธันวาคม พ.ศ.  ๒๓๑๐  ในช่วงพระชนมายุเพียง  ๓๔   พรรษา   ทรงเฉลิมพระนามว่า สมเด็จพระบรมราชาที่ ๔    

 

การเรียนรู้ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในช่วงต่อมา   ปรากฏชัดเจนว่าแม้พระองค์จะมีชันษาไม่มาก   และไม่เคยมียศถาบรรดาศักดิ์  ด้วยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  หรือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรืออีกพระนามคือ สมเด็จพระบรมราชาที่  ๔   พระราชสมภพ เมื่อวันอาทิตย์ที่  ๑๗  เมษายน พ.ศ. ๒๒๗๗  ทรงมีพระนามเดิมว่า "สิน”   พระบิดาเป็นพ่อค้าชาวจีนแต้จิ๋ว นามว่า "นายไหฮอง แซ่แต้" พระมารดา เป็นหญิงไทยนามว่า "นกเอี้ยง”  สันนิษฐานว่า ถิ่นกำเนิดของพระองค์น่าจะอยู่แถบภาคกลาง ในกรุงศรีอยุธยามากกว่าเมืองตาก    

 

 หากแต่พระองค์ทรงมีจิตสำนึกและพระทัยแน่วแน่ที่จะทำให้แผ่นดินที่เต็มไปด้วยรอยร้าวกลับมาเชื่อมเป็นหนึ่งเดียว    ดังพระราชกรณียกิจเพื่อแผ่นดินต่อเนื่องมาโดยตลอดจนสิ้นรัชสมัย  ภายหลังปราบดาภิเษกเป็นสมเด็จพระบรมราชาที่ ๔     โดยเฉพาะการปราบปรามก๊กต่าง ๆ ที่แตกแยกเป็นฝ่าย เพื่อรวบรวมแผ่นดินให้เป็นราชอาณาจักร   และฟื้นฟูความเสียหายบ้านเมืองที่เกิดขึ้น  ภายหลังจากทำสงครามกับพม่าให้คืนกลับสู่ความเป็นราชธานีที่มีอาณาประชาราษฎร์เปี่ยมไปด้วยความสงบสุข  ร่มเย็น

 

พระวีรกรรมเหนือเกล้าฯ .."สนธิญาณ"นำผู้บริหารทีนิวส์บวงสรวง"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"ครบ ๒๕๐ ปีทรงนำทัพไล่อริราชศัตรูพ้นแผ่นดินคืนเอกราชสยาม

แผนที่แสดงอาณาเขตราชอาณาจักรสยาม ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

 

และด้วยพระเกียรติประวัติอันทรงคุณค่า กอรปกับการบรรจบครบ  ๒๕๐  ปี  วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช   “สนธิญาณ  ชื่นฤทัยในธรรม”  ผู้บริหารสำนักข่าวทีนิวส์  จึงนำคณะเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานในกองบรรณาธิการ   ซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้ “สำนักข่าวทีนิวส์” ที่เคยซวนเซเพราะผลกระทบจากกระแสความเปลี่ยนแปลงในโลกข่าวสารยุคดิจิตอล  และการเลือกจะยืนหยัดในอุดมการณ์ความเป็นสื่อมวลชนที่ไม่พึ่งพาอำนาจทางการเงินทุนสามานย์  เข้ากราบสักการะ “พระเจ้าตากสินมหาราช”   ณ  จุดที่พระองค์ท่านทรงนำไพร่พล ๕๐๐ ชีวิตต่างที่มา ต่างความคิดมาหล่อหลอมดวงใจให้เป็นหนึ่ง  ก่อนเดินหน้าทำศึกครั้งยิ่งใหญ่ในวันประวัติศาสตร์ชาติ   

 

ในโอกาสนี้   “สนธิญาณ  ชื่นฤทัยในธรรม”   ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว  บอกเล่าวัตถุประสงค์สำคัญในการเลือกมาทำพิธีบวงสรวงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช   ณ  วัดพลับ   ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี  ว่า   “ เนื่องจากวัดพลับเป็นสถานที่ที่ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"  ทรงใช้เป็นที่พักทัพจัดเตรียมกองทัพก่อนเข้าตีเมืองจันทบุรี โดยทำการทุบหม้อข้าวหม้อแกงทิ้ง และก่อน ที่จะทำการยกทัพเรือไป "กอบกู้" กรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า ก็ได้ทรงประกอบพิธีบำรุงขวัญทหาร โดยการสร้าง"พระยอดธง" แจกจ่ายและนำน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มาทำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมเหล่าทหารหาญ

 

 

 

พระวีรกรรมเหนือเกล้าฯ .."สนธิญาณ"นำผู้บริหารทีนิวส์บวงสรวง"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"ครบ ๒๕๐ ปีทรงนำทัพไล่อริราชศัตรูพ้นแผ่นดินคืนเอกราชสยาม

 

โดยกระทำพิธีปลุกเสกในอุโบสถ หลังเก่าและภายหลังจากกอบกู้กรุงศรีอยุธยาให้เป็น  "เอกราช"  คืนจากพม่าได้แล้ว "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช "พร้อมด้วยแม่ทัพนายกอง ได้เสด็จกลับมาบูรณะ วัดพลับ  พร้อมทั้งได้นำพระยอดธงที่เหลือจากการแจกจ่ายทหารมาบรรจุในพระเจดีย์กลางทรายถวายเป็นพุทธบูชา”

 

พระวีรกรรมเหนือเกล้าฯ .."สนธิญาณ"นำผู้บริหารทีนิวส์บวงสรวง"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"ครบ ๒๕๐ ปีทรงนำทัพไล่อริราชศัตรูพ้นแผ่นดินคืนเอกราชสยาม
 

หอพระไตรกลางน้ำ โครงสร้างเป็นเรือนไม้ทรงไทยขนาดกลาง หลังคาสองชั้นทรงจั่วมีระเบียงรอบหอ ตกแต่งอย่างประณีตทั้งหลัง สร้างอยู่ในสระน้ำ มีเสารองรับหลังคาเป็นของเดิม เขียนลายรดน้ำปิดทอง ได้มีการบูรณะซ่อมแซม เมื่อปีพุทธศักราช 2518 และได้ปรับปรุงบูรณะเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

 

พระวีรกรรมเหนือเกล้าฯ .."สนธิญาณ"นำผู้บริหารทีนิวส์บวงสรวง"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"ครบ ๒๕๐ ปีทรงนำทัพไล่อริราชศัตรูพ้นแผ่นดินคืนเอกราชสยาม

วิหารไม้  ประดิษฐาน พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา ตัววิหารตั้งอยู่ทางทิศเหนือหน้าวัด รูปทรงเป็นเรือนไม้สี่เหลี่ยมจัตุรัส มีฐานปูนวางพื้น หลังคาทรงจตุรมุข ตรงส่วนยอดประดับด้วยพระเจดีย์ขนาดเล็ก เครื่องลำยองหรือปั้นลม เป็นไม้แกะสลักสวยงาม

 

พระวีรกรรมเหนือเกล้าฯ .."สนธิญาณ"นำผู้บริหารทีนิวส์บวงสรวง"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"ครบ ๒๕๐ ปีทรงนำทัพไล่อริราชศัตรูพ้นแผ่นดินคืนเอกราชสยาม

สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตามตำนานกล่าวว่า ได้นำน้ำบริเวณ พระเจดีย์กลางน้ำ ณ วัดพลับ แห่งนี้ มาใช้ประกอบในการทำน้ำพระพุทธมนต์ เนื่องในงานพิธีมงคลต่าง ๆ ในครั้ง สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช ทำการกอบกู้ชาติแผ่นดิน กล่าวคือ ก่อน พระยาวชิรปรากร (สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช) จะเข้าตี เมืองจันทบูร (จันทบุรี) นั้น ได้มาทำพิธีทางพระพุทธศาสนา พาเหล่าบรรดาทหารหาญมาประพรมน้ำมนต์ที่ วัดพลับ ก่อนออกสู้รบ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ

 

ภาพประวัติศาสตร์ความฮึกเหิมในการรบเพื่อรุกรบฟาดฟันกับอริราชศัตรูให้พ้นไปจากอาณาจักนกรุงศรีอยุธยา    ณ  ลานวัดพลับ  จ.จันทบุรี   แม้จะผ่านพ้นมานานถึง  ๒๕๐  ปีแล้ว  แต่หลักฐานต่าง ๆ ยังปรากฏให้เห็นโดยทั่ว   โบสถ์วิหารเก่าแก่    บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์   ฯลฯ   ยังคงตั้งตระหง่านเคียงคู่บรมราชานุสาวรีย์  พระเจ้าตากสินมหาราช    เพื่อย้ำความทรงจำให้คนไทยไม่ลืมเลือน  ว่าแผ่นดินไทยที่เป็นปึกแผ่นมั่นคงในทุกวันนี้   มีจุดเริ่มต้นมาจากลานวัดแห่งนี้  ที่สำคัญถ้าพระเจ้าตากสินไม่ทรงมีบุญญาธิการแล้ว  พระบารมีใด ๆ ก็ไม่อาจทำให้คนไทยเพียง  ๕๐๐  คนมีหัวใจอันแข็งแกร่ง  สามารถรบพุ่งจนกองทัพพม่าล่าถอยไปจากอาณาจักรไทยได้ไม่  ??

 

พระวีรกรรมเหนือเกล้าฯ .."สนธิญาณ"นำผู้บริหารทีนิวส์บวงสรวง"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"ครบ ๒๕๐ ปีทรงนำทัพไล่อริราชศัตรูพ้นแผ่นดินคืนเอกราชสยาม

 

“หากบุญกุศลที่สั่งสมมานั้น เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาชาติบ้านเมืองและมีส่วนให้คนดี ปกครองบ้านเมือง รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระพุทธศาสนาให้เข้มแข็งเป็นศูนย์กลางให้พระอริยะเจ้า บังเกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ เพื่อนำพาผู้คนและสรรพสัตว์ทั้งหลายไปสู่พระนิพพานตามคำสั่งสอนของบรมครู "สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" แล้ว ขอให้สำนักข่าวทีนิวส์จงแข็งแกร่งและก้าวหน้าด้วยพลังปัญญาแห่งความดีงาม”   

 

ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอกราบถวายบังคมแทบเบื้องพระบาทและให้สัตย์สัญญาว่าจะเป็นส่วนหนึ่ง แห่งข้าแผ่นดินที่จะช่วยกันรักษาบ้านเมืองนี้เอาไว้ด้วยชีวิต ..  ”   (สนธิญาณ  ชื่นฤทัยในธรรม  ๒๔  ธันวาคม  ๒๕๕๙ ) 
 

 

เรียบเรียง  :  ชัชรินทร์  สำนักข่าวทีนิวส์