เล่นกันเองซะแล้ว!! "โดนัลด์ ทรัมป์" เล่นแรงออกโรงจวก "ยูเอ็น" ไร้น้ำยา ก็แค่องค์กรสังสรรค์ รื่นเริง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้วิจารณ์การทำงานขององค์กรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าเป็นเพียงองค์กร ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อคนกลุ่มหนึ่งมาสังสรรค์

เอพี ได้รายงานข่าวว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้วิจารณ์การทำงานขององค์กรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าเป็นเพียงองค์กร ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อคนกลุ่มหนึ่งมาสังสรรค์ สนุกสนานกันเท่านั้น และยังย้ำว่า องค์กรแห่งนี้จะต้องเปลี่ยนแปลงไปหลังจากตัวเขา นั้นขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ โดยความเห็นดังกล่าวนั้นมีขึ้นหลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ลงมติให้ประณามรัฐบาลอิสราเอล ที่อนุมัติการสร้างชุมชนใหม่ชาวยิว ในเขตเวสต์ แบงค์ และเยรูซาเลมตะวันออก ที่กำลังเป็นประเด็นพิพาทกับชาวปาเลสไตน์

 


    ทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ เขียนข้อความในทวิตเตอร์  ว่า ยูเอ็นเคยมีศักยภาพมหาศาล แต่ขณะนี้ได้กลายเป็น "เพียงแค่สโมสรสำหรับประชาชนมารวมตัวกัน พูดคุย และสังสรรค์รื่นเริง" ก่อนหน้านั้น นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเตือนถึงยูเอ็น ว่า "สิ่งต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงไป หลังจากวันที่ 20 ม.ค." ซึ่งเขาหมายถึงวันที่เขาจะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา


    

การตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่งดออกเสียงระหว่างการลงมติของยูเอ็นเอสซีโดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ใช้สิทธิยับยั้ง หรือวีโต้  เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์กับผู้นำอิสราเอล ที่เย็นชามานานหลายปี

 นายโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า เขาต้องการเป็นกลาง ในประเด็นปัญหา อิสราเอล-ปาเลสไตน์ แต่ท่าทีเขาสนับสนุนอิสราเอลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี และกล่าวโจมตีชาวปาเลสไตน์ เขาระบุว่าโดนควบคุม โดยกลุ่มติดอาวุธ


    การทวีตเกี่ยวกับยูเอ็นในครั้งนี้ ถือเป็นการเมินเฉยต่อผลงานจำนวนมากขององค์กร ที่มีสมาชิก 193 ประเทศ โดยในปีนี้ยูเอ็นเอสซีอนุมัติมติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายกว่า 70 มติ รวมถึงมติคว่าบาตรใหม่ต่อเกาหลีเหนือ มาตรการต่างๆ ในการแก้ไขกรณีพิพาท และการอนุมัติภารกิจรักษาสันติภาพทั่วโลก นอกจากนั้น สมัชชาใหญ่ยูเอ็นยังอนุมัติมติหลายสิบมติ ในประเด็นปัญหาต่างๆ เช่น ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือและอิหร่าน หรืออนุมัติการสอบสวนตามข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามในซีเรีย เป็นต้น

 

เล่นกันเองซะแล้ว!! "โดนัลด์ ทรัมป์" เล่นแรงออกโรงจวก "ยูเอ็น" ไร้น้ำยา ก็แค่องค์กรสังสรรค์ รื่นเริง

ก่อนหน้านี้ทางด้าน นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ไม่พอใจรัฐบาลสหรัฐฯ ที่งดออกเสียงในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) จนทำให้ที่ประชุมผ่านร่างมติคัดค้านการสร้างอาณานิคมของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเลมตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ของปาเลสไตน์

นายกฯอิสราเอลกล่าวว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่ได้ทำตามคำมั่นที่ปฏิบัติมาอย่างยาวนานว่าจะไม่เปิดทางให้สหประชาชาติใช้มาตรการกับอิสราเอลในประเด็นความขัดแย้งกับปาเลสไตน์

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้เรียกนายแดเนียล ชาปิโร เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอลเข้าพบ ภายหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ประชุมยูเอ็นเอสซี ได้ผ่านมติด้วยคะแนนเสียง 14 ต่อ 9 สั่งให้อิสราเอลยุติการก่อสร้างอาณานิคมในทุกพื้นที่ และระบุว่าเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเลมตะวันออกเป็นดินแดนที่ปกครองโดยปาเลสไตน์

 

นอกเหนือจากเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แล้ว กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลยังเชิญเอกอัครราชทูตอีก 10 ประเทศจาก 14 ประเทศสมาชิกของยูเอ็นเอสซีที่ออกเสียงเห็นชอบกับร่างมติ ให้เข้าพบแยกต่างหากด้วย ได้แก่ อียิปต์ซึ่งเป็นผู้เสนอร่างมติ สหราชอาณาจักร จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น อุรุกวัย สเปน ยูเครน และนิวซีแลนด์  ซึ่งการเชิญเอกอัครราชทูตเข้าพบในวันเดียวกันเป็นจำนวนมากขนาดนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองระหว่างประเทศที่พบได้ไม่บ่อยนัก

 

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้แถลงหลังเสร็จ สิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี ประณามรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ว่าอยู่เบื้องหลัง การผ่านมติหมายเลข 2334 ของยูเอ็นเอสซี ด้วยการปฏิเสธวีโต้และใช้สิทธิ์งดออกเสียง ส่งผลให้ที่ประชุมสามารถมีคำแถลงประณามอิสราเอลเรื่องนิคมชาวอิสราเอลได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2522  

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล บอกว่านี่เป็นเรื่องที่น่าละอาย ดังนั้นเรื่องดังกล่าวไม่มีผลผูกพันในทางกฎหมายและจะสั่นคลอนการเจรจาสันติภาพเกี่ยวกับหลักการ 2 รัฐอย่างแน่นอน พร้อมทั้งกล่าวย้ำว่าอิสราเอลไม่มีทางยอมรับ และประกาศทบทวนความสัมพันธ์กับสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) 

ส่วนทางด้านสหรัฐฯ ก็ได้ออกมายืนยันว่าสหรัฐฯไม่เคยมีเจตนากลั่นแกล้งอิสราเอล แต่ยังคงเชื่อว่าการเดินหน้าขยายอาณาเขตที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้นจะยิ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านความมั่นคงในภูมิภาค ซึ่งนายจอห์น แคร์รี รมว.กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์สายตรงไปอธิบายแก่ผู้นำอิสราเอลอีกครั้งแล้ว

 

เล่นกันเองซะแล้ว!! "โดนัลด์ ทรัมป์" เล่นแรงออกโรงจวก "ยูเอ็น" ไร้น้ำยา ก็แค่องค์กรสังสรรค์ รื่นเริง

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์