"ทีนิวส์" ล้วงข้อมูลเชิงลึก"รองปลัดยุติธรรม คดี“ครูจอมทรัพย์” มั่นใจพยานหลักฐานใหม่ พลิกคำตัดสินได้

"ทีนิวส์" ล้วงข้อมูลเชิงลึก"รองปลัดยุติธรรม คดี“ครูจอมทรัพย์” มั่นใจพยานหลักฐานใหม่ พลิกคำตัดสินได้

จากกรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครูใน จ.สกลนคร ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน ในคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่ จ.นครพนม แต่ภายหลังมีหลักฐานใหม่เชื่อได้ว่าไม่ใช่ผู้กระทำผิดตัวจริง จนศาลจังหวัดนครพนมมีคำสั่งไต่สวนคดีนี้อีกครั้ง

ล่าสุดมีข้อมูลจากตำรวจชุดสอบสวนออกมาว่า นางจอมทรัพย์ ได้มีการว่าจ้างให้บุคคลมารับสารภาพแทน โดยตำรวจได้มีพยานสำคัญเป็นชายคนที่นางจอมทรัพย์ต้องการว่าจ้างให้มาสารภาพ แต่เมื่อนางจอมทรัพย์มาทราบภายหลังว่าชายที่ตนจะว่าจ้างนั้นขับรถไม่เป็นจึงไม่ได้ว่าจ้างชายคนดังกล่าว

พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเข้ามาติดตามคดีนี้และเตรียมรวบรวมข้อมูลจากตำรวจในพื้นที่ก่อนจะแถลงตอบโต้ว่า นางจอมทรัพย์ คือผู้กระทำผิดตัวจริง ขณะที่ พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามคดีด้วยเช่นกัน

ซึ่งก่อนหน้านี้ นางจอมทรัพย์เคยกล่าวเอาไว้ว่าคนขับรถตัวจริงได้ยินยอมสารภาพแล้ว และวันเกิดเหตุเธออยู่ที่บ้านกับครอบครัวอีกด้วย อีกทั้งนางจอมทรัพย์ได้เคยกล่าวด้วยว่าเพื่อนได้ไปเกลี้ยกล่อมและคุยกับคนขับรถว่าเคยขับรถชนคนตายไหม ซึ่งคนขับรถก็เล่าให้ฟัง โดยมีการอัดคลิปและถ่ายภาพไว้

 

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2559 ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ทีมข่าวสเปเชี่ยลรีพอร์ตทีนิวส์ลงพื้นที่สัมภาษณ์พิเศษ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ในคดีถูกกล่าวหาขับรถชนคนตาย

กระทั่งศาลพิพากษาให้จำคุกเมื่อปี 2556 เป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน และได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 รวมเวลาจำคุก 1 ปี 6 เดือน จากนั้นได้เข้าร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรมในการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ จากการตรวจสอบพบว่านางจอมทรัพย์ไม่ได้กระทำความผิดจริง

ว่า"ขณะนี้คดีของนางจอมทรัพย์อยู่ในขั้นตอนการรื้อฟื้นคดี สำหรับข้อมูลเรื่องหลักฐานและพยาน ทางรองปลัดกระทรวงยุติธรรมตนปฏิเสธให้ข้อมูลเนื่องจากขณะหลักฐานทั้งหมดได้ถูกส่งไปยังศาลเป็นที่เรียยร้อยแล้ว"

นอกจากนี้เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงพยานหลักฐานที่ทาวกระทรวงยุติธรรมมีอยู่นั้นสามารถพลิกคำตัดสินของศาลได้หรือไม่ ทางรองปลัดกระะทรวงยุติธรรมกล่าวว่า"กระทรวงยุติธรรมได้ทำหน้าที่ในส่วนของการหาพยานหลักฐานใหม่ ที่เชื่อว่าสามารถเปลี่ยนแปลงคำตัดสินของศาลทั้ง 3 ศาลได้ คือ ศาลชั้นต้นและศาลฎีกา ส่วนศาลอุทรณ์ได้ยกฟ้องนางจอมทรัพย์

ซึ่งในขั้นตอนนี้ทางกระทรวงได้ทำหน้าที่ที่ให้ประชาชนได้เข้าถึงความเป็นธรรมให้มากที่สุดและในกระบวนการยุติธรรมส่วนใดที่สามารถหยิบยื่นความเป็นธรรมให้กับครูจอมทรัพย์ได้ทางกระทรวงยุติธรรมก็จะทำอย่างเต็มที่"

นอกจากนี้ทางกระทรวงยุติธรรมยังมีหน้าที่บริหารจัดการและอำนวยความยุติธรรมให้กับประขาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมกล่าวโดยรวมคือ"ทางกระบวนการยุติธรรมจะหยิบยื่นและให้ความยุติธรรมให้ถึงมือประชาชนให้มากที่สุดและเป็นสิ่งที่ทางกระทรวงต้องทำ"

ทั้งนี้รองปลัดกระทรวงยุติธรรมยังกล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากให้สังคมนำเรื่องคดีดังกล่าวไปตัดสินกันเอง อยากให้รอความชัดเจนเรื่องดังกล่าวระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ นี้ ว่าศาลนั้นจะมีคำวินิจฉัยคดีนางจอมทรัพย์อย่างไรเพราะทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนของศาลแล้ว

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีความมั่นใจในพยานหลักฐานมากแค่ไหน รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า “ให้ดูจากรอยยิ้มของผมเท่านั้นเองว่าผมมีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหน”

และเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่าได้มีการพูดคุยกับนางจอมทรัพย์บ้างหรือไม่ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า"ตนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นคอยดูแลนางจอมทรัพย์แล้ว และล่าสุดทราบว่ายังคงมีกำลังใจที่ดี"

ภัทราพร สำนักข่าวทีนิวส์