เปิดใจ!! "ทนายวันชัย" หลังทำคดี “ครูจอมทรัพย์” เชื่อ!! ครูคือแพะ 100 % (มีคลิป)

เปิดใจ!! "ทนายวันชัย" หลังทำคดี “ครูจอมทรัพย์” เชื่อ!! ครูคือแพะ 100 % (มีคลิป)

กรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ถูกกล่าวหาขับรถชนคนเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม เมื่อปี 2548

กระทั่งศาลพิพากษาให้จำคุกเมื่อปี 2556 เป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน และได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 รวมเวลาจำคุก 1 ปี 6 เดือน จากนั้นได้เข้าร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรมในการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ จากการตรวจสอบพบว่านางจอมทรัพย์ไม่ได้กระทำความผิดจริง

ต่อมาผู้กระทำผิดตัวจริงได้ออกมายอมรับและสารภาพ ล่าสุดอยู่ระหว่างรอคำสั่งศาลเพื่อสั่งฟื้นคดี เพื่อล้างมลทินให้กับนางจอมทรัพย์

ด้านนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. เปิดเผยกับทีมข่าวสเปเชี่ยลรีพอร์ตทีนิวส์ว่าเคยเป็นทนายความให้กับนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนใน จ.สกลนคร เมื่อปี 2549 ในชั้นอุทธรณ์

โดยนางจอมทรัพย์เข้ามาหาที่สำนักงาน ได้สอบปากคำและอ่านสำนวนคดี จากการพูดคุยเชื่อว่าไม่ได้ก่อเหตุจริงๆ พอได้อ่านสำนวน มองว่ามีข้อพิรุธ 2 ประเด็น คือ

1.พยานบุคคลที่เป็นประจักษ์พยาน 2 คนให้การขัดแย้งกัน คนหนึ่งเห็นทะเบียนเลข 56 ช่วงเวลา 20.00 น. พยานอีกคนให้การว่าเห็นชายลงจากรถ มองว่าจากสภาพแวดล้อมในเวลากลางคืนไม่น่าจะเห็นป้ายทะเบียนชัด เมื่อดูผลพิสูจน์หลักฐานเชื่อเลยว่าไม่ได้ทำผิด

เพราะรถจักรยานที่ถูกชนมีร่องรอยสีเขียวติดที่ตะเกียบของรถจักรยาน และผู้เสียชีวิตกระเด็นตกมาที่ท้ายกระโปรงรถกระบะ แต่พอมาดูรถทะเบียน 56 ของนางจอมทรัพย์เป็นสีบรอนซ์น้ำตาล ไม่มีสีเขียว ไม่มีรอยบุบ ไม่มีรอยชนข้างหน้า กระโปรงไม่บุบ

แต่แปลกใจว่าพนักงานสอบสวนยังอุตส่าห์ไปเชื่อมโยงว่าสีเขียวจากกรอบทะเบียนรถ แต่ผลพิสูจน์หลักฐานตรงกรอบทะเบียนรถไม่มีรอยเฉี่ยวชนแต่อย่างใด ตรงนี้ผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ไม่มีอะไรที่จะชี้ได้เลยว่านางจอมทรัพย์เกี่ยวข้อง ในชั้นอุทธรณ์ได้ใส่ประเด็นเหล่านี้ไป จนศาลอุทะรณ์ยกฟ้อง

นายวันชัยยังกล่าวต่อว่ามาถึงชั้นศาลฎีกาทราบว่าอัยการให้น้ำหนักไปที่พยานบุคคล โดยชี้ว่าน่าเชื่อถือ เนื่องจากไม่มีความโกรธแค้นหรือขัดแย้งใดๆกับจำเลย จากคดีนี้มองว่ามีจุดบกพร่อง คือ

1.ทนายของคดีในชั้นต้นไม่รอบคอบ ไม่หาพยานหลักฐานมาต่อสู้คดีอย่างเต็มที และ

2.ตำรวจทำงานแบบรูทีน คือไม่มีการพิจารณาให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่จริงๆ คดีนี้พยานหลักฐานอ่อนมาก สามารถสั่งไม่ฟ้องได้ พยานขัดกันชัดเจน ส่วนอัยการควรต้องใช้ดุลพินิจอ่านสำนวนอย่างละเอียดเพื่อให้ความเป็นธรรม คดีนี้สะท้อนถึงความบกพร่องของกระบวนการยุติธรรม

นอกจากนี้นายวันชัยมองว่านางจอมทรัพย์มีสิทธิฟ้องร้องกระบวนการยุติธรรมทั้งตำรวจ และพยาน เพื่อเอาผิดทางแพ่งและทางอาญา โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนที่ถือว่าทำสำนวนอย่างเลินเล่อ ไม่ทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมอย่างเต็มความรู้ความสามารถ และมีความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของนางจอมทรัพย์ ว่าเธอคือแพะ 100 เปอร์เซ็นต์

แต่ท้ายที่สุดคงต้องรอความชัดเจนจากทางศาลว่าจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร หลังนางจอมทรัพย์ร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรมในการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ในครั้งนี้

ทีนิวส์ เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก ช่วงที่ 3 (17-01-60)

 

 

ภัทราพร สำนักข่าวทีนิวส์