หางโผล่!!! สปท.สายเสื้อแดงจ้องเสนอนิรโทษกรรม อ้างปรองดอง!!!(รายละเอียด)

หางโผล่!!! สปท.สายเสื้อแดงจ้องเสนอนิรโทษกรรม อ้างปรองดอง!!!(รายละเอียด)

17 ม.ค.60 นายสมพงษ์ สระกวี สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ด้านการเมือง กล่าวว่า เรื่องการสร้างความปรองดองวันนี้ ต้องย้อนกลับไปถึงคำสัญญาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าปี 60 จะทำ 2 อย่าง คือ

หางโผล่!!! สปท.สายเสื้อแดงจ้องเสนอนิรโทษกรรม อ้างปรองดอง!!!(รายละเอียด)

1.เดินหน้าตามโรดแมปเลือกตั้ง

2.จะมาดูรายละเอียดเรื่องนิรโทษกรรม และทำเรื่องปรองดอง ซึ่งคำว่านิรโทษกรรมของนายกฯ บอกต้องทำตามขั้นตอนกฎหมายก่อน เท่ากับว่านายกฯ ให้สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะทำ

อย่างไรก็ตาม จังหวะเวลาวันนี้เป็นยามที่ประเทศต้องทำบุญกุศลครั้งใหญ่ คล้ายงานวันฉลอง 25 พุทธศตวรรษการ เมื่อปี พ.ศ.2500 ที่มีการนิรโทษกรรมอภัยโทษครั้งใหญ่ วันนี้เป็นภาวะที่ประเทศไทยจะให้อภัยต่อการที่จะต้องถวายพระราชกุศลครั้งใหญ่ให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 และเพื่อเป็นการสร้างความปรองดองสามัคคี ภายใต้เบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ด้วย 3 - 4 ข้อที่ยกมา สังคมไทยเราเคยผ่านความแตกแยกรุนแรงมายาวนาน ถ้าได้มีโอกาสคุยกัน ไม่ต้องลงสัตยาบรรณ เพื่อหาแนวทางปรองดองเลิกแล้วต่อกัน ให้อภัยต่อกัน ตนเชื่อว่าสำเร็จ ดังนั้น คำพูดที่ชอบพูดกันว่า พอให้อภัยนิรโทษแล้วกลับมาทะเลาะกันอีก เป็นการคาดการณ์ในแง่ร้าย เราไม่ควรกลัวเกินเหตุ

ส่วนทางด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(กปปส.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่รัฐบาลเตรียมตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) โดยจะให้พรรคการเมืองต่างๆรวมถึงกลุ่มที่เห็นด้วยและเห็นแย้งกับรัฐบาลมาร่วมแสดงความคิดเห็นหาทางออกเพื่อความปรองดองของประเทศ และการเซ็นเอ็มโอยูร่วมกัน ว่า ตนในฐานะตัวแทนมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ขอสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาล ทั้งในด้านของยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เพราะสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ที่ต้องการเห็นประเทศไทยมีการปฏิรูปไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพื่อให้เป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่มีพระกษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซึ่งการตั้ง ป.ย.ป.นั้นมีหัวใจหลักใน 3 ด้านคือ ยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปประเทศไทย และการปรองดอง ซึ่งในส่วนของการสร้างความปรองดองนั้น ยอมรับว่ายังมีความกังวลอยู่

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า หัวใจหลักที่สำคัญของการปรองดองคือ จะต้องรณรงค์ให้ประชาชนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง และต้องปฏิบัติอยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งหวังว่าการปรองดองจะทำให้ทุกอย่างสงบสุข เรียบร้อย และประเทศเจริญก้าวหน้า เดินไปข้างหน้าได้ ส่วนการจับมือเซ็นเอ็มโอยูร่วมกันนั้น ตนเห็นว่าคงไม่ใช่วิธีที่จะสร้างความปรองดองได้ เพราะความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ประชาชนทุกคนในชาติต้องสามัคคีกัน และไม่เห็นด้วยหากจะมีการนิรโทษกรรม โดยอ้างความปรองดอง หรือการออกกฎหมายลบล้างความผิดต่างๆในอดีต เช่น การกระทำความผิดตามมาตรา112 การกระทำการ


 

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายสมพงษ์ สระกวี เคยกล่าวในตอนที่ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ภายหลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น สปท.ว่า เหตุที่ได้เข้ามาเป็น สปท. คงมาจากที่ได้มาช่วยงานคณะกรรมการปรองดองชุดนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เรื่องการปรองดอง การนิรโทษกรรม ทำให้ถูกเสนอชื่อเข้ามา

ความตั้งใจที่เข้ามาเป็น สปท. เพราะอยากเข้ามาผลักดัน เรื่องความปรองดองและการนิรโทษกรรม นับตั้งแต่เหตุการณ์ปี 2548 มาจนถึงทุกวันนี้ มีคนที่ต้องคดีรวมกันแล้วประมาณ  6,000 คน ความคิดของผมเห็นว่าถ้าเราจะเริ่มนับหนึ่งประเทศกันใหม่ ก็ต้องให้อภัย นิรโทษฯ ให้เขา อย่าไปมองว่าพวกที่มีคดีเคยเผาบ้านเผาเมืองจะนิรโทษฯ ไม่ได้

การเผาบ้านเผาเมืองไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อปี 2553 ย้อนไปยุค 14 ตุลา 2516 เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519  หรือยุคพฤษภาทมิฬ 2535 นักศึกษาประชาชนออกมาต่อสู้ทหารบนท้องถนน เมื่อเขามือเปล่าต่อสู้ไม่ได้ จึงต้องไปลงที่สถานที่ราชการ จึงถือว่าเป็นการเผาบ้าน เผาเมืองเหมือนกัน

แต่ต่อมาก็มีการนิรโทษกรรมให้ทั้งหมด ที่นิรโทษกรรมให้คนที่ต้องคดีเผาบ้านเผาเมืองนั้น ไม่รวมถึงระดับแกนนำ ผู้สั่งการ รวมไปถึงคดีอาญาร้ายแรงอื่น คดีทุจริต และคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ”

พิจารณาจากการสัมภาษณ์ดังกล่าวของนายสมพงษ์ สระกวีได้มีการระบุขอบเขตของการนิรโทษกรรมเอาไว้ โดยยกเว้นสำหรับบุคคลที่เข้าเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อนี้

1.ไม่รวมถึงระดับแกนนำ ผู้สั่งการ

2.ไม่รวมคดีอาญาร้ายแรงอื่น เช่น คดีทุจริต

3.ไม่รวมคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112

หางโผล่!!! สปท.สายเสื้อแดงจ้องเสนอนิรโทษกรรม อ้างปรองดอง!!!(รายละเอียด)

ส่วนทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการประชุม คสช. ว่าวันนี้ถือเป็นการประชุม คสช.นัดพิเศษ ซึ่งเป็นเรื่องการพิจารณามาตรา 44 จำนวน 2 เรื่อง เรื่องแรกที่สำคัญคือ การจัดตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคี ปรองดอง (ป.ย.ป.) ซึ่งมี 3 ด้านเพื่อขับเคลื่อนนโยบายตามยุทธศาสตร์ คือคณะทำงานด้านการขับเคลื่อนในส่วนของรองนายกรัฐมนตรี เดิมมาอยู่ในกล่องนี้ ซึ่งก็มีทั้งงานด้านฟังก์ชั่น และงานนโยบาย ส่วนที่สองคืองานด้านการปฏิรูป จะนำแผนปฏิรูปของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่าส่วนไหนรัฐบาลทำแล้ว และอะไรที่อยากให้ทำต่อ จะเอามาพิจารณา และเกลา เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ เนื่องจากมีการพิจารณาเรื่องกฎหมาย และการทำงานตามรูปแบบด้วย คณะกรรมการปรองดอง ซึ่งทุกคนให้ความสนใจในเรื่องของการปรองดอง อย่างไรก็ตาม การปรองดองอยู่ที่จิตใจของคนที่จะมาปรองดอง และคนที่จะมาพูดคุย ไม่ใช่ว่าคณะกรรมการชุดนี้ หรือตนเองจะมาบังคับได้ เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องทำ เพื่อประเทศไม่ว่าจะมาจากกลุ่มใดก็ตาม

“ขอย้ำว่ารัฐบาล คสช. และตัวผมเองไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร อย่าเข้าใจผิด หลายคนบอกว่ารัฐบาลต้องเป็นกลาง ซึ่งเราก็เป็นอยู่แล้ว ถ้าไม่เป็นกลางจะทำงานได้หรือ ซึ่งคำว่าเป็นกลางของผมคือทำงานได้กับทุกภาคส่วน ซึ่งผมให้นโยบายกับ พล.อ.ประวิตร ว่าจะต้องทำอย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่า ความเห็นของนักการเมืองที่เสนอเข้ามานั้น จะมีผลกระทบอะไรกับการทำงาน ปยป.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนิรโทษ รวมถึงเรื่องของกฎหมาย ยังไม่ได้พูดถึงในวันนี้ เราพูดแต่เพียงว่าต้องใช้หลักอริยสัจ 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ต้องให้ทุกพรรคได้พูดออกมา ทั้งเรื่องความขัดแย้ง การปรองดอง และความคิดต่างๆ ของแต่ละพรรค ทุกกลุ่มการเมือง เพราะปัจจุบัน มีทั้งพรรคการเมือง และกลุ่มการเมือง และทราบกันดีว่ามีความขัดแย้ง ขณะเดียวกัน ทุกคนต้องชี้แจงได้ว่าจะปฏิรูปประเทศ และปรองดองอย่างไร ต้องหารือด้วยว่าวันข้างหน้าเราจะอยู่กันอย่างไร ส่วนปัญหาในอดีตที่ผ่านมาค่อยไปหาวิธีแก้ไข ในทางกฎหมายก็ไปว่ากันอีกครั้ง อย่าเพิ่งเอาเรื่องของนิรโทษ หรือเรื่องอะไรมาพูดกันก่อน เพราะถ้านำมาพูดก่อนก็ทะเลาะกันทุกที ที่ผ่านมาก็มีปัญหาตั้งแต่ปี 2557 ในเรื่องนิรโทษ และการปรองดอง เอาไว้ทีหลังค่อยว่ากัน

หางโผล่!!! สปท.สายเสื้อแดงจ้องเสนอนิรโทษกรรม อ้างปรองดอง!!!(รายละเอียด)

“วันนี้เราต้องทำให้ภาคประชาสังคม ประชาชน ทุกคนในประเทศรู้ก่อนว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรค เป็นอย่างไร ต้องการอะไร และจะปฏิรูปประเทศกันหรือไม่ ที่สำคัญจะสร้างความปรองดองได้อย่างไร แล้วใครที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งไม่ใช่ผม หรือรัฐบาลนี้ รวมถึงไม่ใช่เพราะผมเข้ามาจึงทำให้เกิดความขัดแย้ง ผมเข้ามาเพื่อยุติความขัดแย้ง ซึ่งก็เห็นอยู่แล้ว ตั้งแต่ตนเองเข้ามาทุกอย่างก็เงียบ หยุดทุกอย่าง ผมถึงเข้ามาแบบนี้ ซึ่งผมก็ต้องทำหน้าที่นี้ต่อไป จนกว่าคณะกรรมการชุดนี้จะสรุปผลต่างๆ ขึ้นมาว่าจะทำอย่างไรแล้วไปดำเนินการต่อ และเรื่องแบบนี้ไม่ได้จบภายใน 1-2 วัน” นายกฯกล่าว

นายกฯกล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่าจะต้องใช้เวลาในการหารือพูดคุย ประมาณ 3 เดือน เพื่อให้ได้ข้อยุติ ว่าใครต้องการอะไร อย่างไร ปัญหาอยู่ตรงไหน แล้วก็ปฏิรูปลงมา จากนั้นไปว่ากันต่อในขั้นที่ 2 และ 3 อย่าใจร้อน เรื่องนี้ถ้าใจร้อนแล้ว มีเรื่องทุกที

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ส่วนคำสั่งมาตรา 44 อีกฉบับ เกี่ยวกับคณะกรรมการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจำเป็นต้องมีคณะทำงาน 2 ระดับ โดยระดับบนเป็น ครม.กำหนดนโยบาย ระดับล่างเป็นคณะกรรมการพื้นที่ ไม่เช่นนั้นพื้นที่ของ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จะเกิดไม่ได้ ทั้งนี้ ต้องทำให้เกิดมูลค่าในการลงทุนสร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งเดิมมีศักยภาพด้านสาธารณูปโภคอยู่แล้ว ดังนั้น ต้องขยายให้กว้างขวางขึ้น หากไม่ใช้คำสั่งมาตรา 44 ต้องรอ พ.ร.บ.อีกหลายเดือนกว่าจะออก แต่คำสั่งมาตรา 44 นั้นก็สอดคล้องกัน และวันนี้หลายประเทศสนใจที่จะมาลงทุน หลายโครงการ ถ้าเราทำเสร็จเขาก็จะตัดสินใจมาภายในปี 2560 นี้

“ฉะนั้น ขอให้ช่วยกัน อย่าเอาปรองดองมาเป็นประเด็น พอมาตีว่าปรองดองจะเสร็จสำเร็จไหม เราต้องคาดหวังว่าจะสำเร็จ อยากให้คนไทยทุกคนมองแบบนั้น แต่หากมองเรื่องปรองดอง ปฏิรูปไม่สำเร็จ แล้วจะทำอะไร ทุกคนต้องช่วยกันให้สำเร็จ ผมกำลังทำประเทศ ผมก็ต้องเชื่อมั่นว่าผมจะทำได้ จะได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับทุกคนที่ร่วมมือกับผม ไม่ใช่ผมคนเดียวที่จะไปสั่งปฏิรูปทั้งหมดไหว ข้าราชการเป็นล้านคน ทุกคนต้องมีแนวคิดเหมือนผม เราจะต้องปฏิรูปและปรองดองเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่ถูกต้องสมบูรณ์ และต้องสร้างการรับรู้กับต่างประเทศตั้งแต่วันนี้ ว่านี่คือสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำ แต่ที่เขาบอกว่ารัฐบาลไม่เปิดเวทีให้ใครพูด จริงๆ แล้วเปิดมาตลอด สื่อก็ว่าผมได้ อดีตพรรคการเมืองก็ว่าผมทุกวัน แล้วผมไปปิดกั้นตรงไหน ช่วยอธิบายสิ สื่อจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรผมก็ได้ ผมก็หงุดหงิดนิดหน่อย แต่ไม่ได้ไปทำอะไรสักอย่าง ส่วนนักศึกษาที่แสดงความเห็นกรณีอยู่ในสถานที่รโหฐานของเขา หากมีการขออนุญาตมาก็ให้ ไม่ปิดกั้นอะไร ตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องสร้างการรับรู้ให้ต่างประเทศเข้าใจ เพราะจะกลายเป็นว่าผมไปละเมิดสิทธิไม่ให้แสดงความคิดเห็น ถ้าเป็นไปโดยเจตนาบริสุทธิ์ใจ ก็ทำได้ แต่ถ้าโจมตีรัฐบาล ไม่มีประเทศไหนเขายอมหรอก หรือเราจะเอาแบบนั้น ตอนนี้ผมกำลังทำสิ่งที่แตกต่างทำไมไม่ดู ซึ่งท่านก็ต้องให้กำลังใจตนเพื่อขอความร่วมมือกับประชาชนให้ได้ ไม่ใช่ฟังทางนู้นทางนี้ แล้วมาไล่รัฐบาล ต่างชาติเขาจะเข้าใจ และมาลงทุนหรือไม่ เขาก็มาเจรจากับผมทุกประเทศ เพียงแต่รอดูว่ามันจะปรองดองกันได้ไหม นั่นคือประเด็นสำคัญที่ต้องช่วยกัน อย่ามาบอกว่าไม่สำเร็จหรอก แล้วใครที่จะเป็นคนปรองดอง ผมเหรอ” นายกฯกล่าว

หางโผล่!!! สปท.สายเสื้อแดงจ้องเสนอนิรโทษกรรม อ้างปรองดอง!!!(รายละเอียด)

นายกฯกล่าวต่อว่า ตนเป็นคนอำนวยความสะดวก จัดเวทีการพูดคุยกันให้ได้ แต่ไม่ใช่คุยกัน 3-4 คนแล้วจบ แล้วไปสู่การใช้กฎหมายเลอะเทอะไปหมด แบบนั้นไม่ได้ ประเทศชาติต้องตัดสินใจด้วย โดยประชาชน ประชาสังคม ต้องร่วมตัดสินใจ ฉะนั้น การลงสัจจะวาจา จริงๆ แล้ว ตนแปลให้เป็นแบบไทยๆ หากเป็นเอ็มโอยู ส่วนใหญ่เป็นการลงนามความร่วมมือทางด้านธุรกิจเศรษฐกิจระหว่างประเทศ แต่อันนี้เป็นเรื่องภายในประเทศ ใช้เรียกให้เบาลง ที่เขาเรียกว่าสัญญาประชาคม ที่เป็นสัจจะวาจา คือพูดแล้วต้องทำ เช่น จะไม่ขัดแย้งกันอีกต่อไป ไม่ขัดขวางการเลือกตั้ง ยอมรับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง ว่าไปตามกฎหมาย ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายหนึ่งต่อต้าน พอต่อต้านพรรคการเมืองจบ ก็มีกลุ่มการเมืองเข้ามาอีก วันนี้ตนคิดให้หมด แล้วมาถามกัน

นายกฯกล่าวว่า เรื่องการปรองดองไม่ใช่เฉพาะแค่นักการเมือง แต่มีเรื่องที่ดิน เรื่องความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม ตนสั่งการไปแล้วทำทั้งหมด ซึ่งมีประมาณ 10 หัวข้อที่ฝ่ายการเมืองพูด โดยจะให้ประชาชนรับทราบด้วย ในสิ่งที่ทุกพรรคพูด จะให้มาทีละพรรค เพราะถ้าให้มาพร้อมกันคงไม่ได้พูด ก็ทะเลาะกันอีก จึงต้องให้มาทีละพรรค ทางคณะกรรมการจะสรุปอีกทีว่าจะทำอะไรอย่างไร เรื่องกฎหมายนั้นเอาไว้ทีหลัง

หางโผล่!!! สปท.สายเสื้อแดงจ้องเสนอนิรโทษกรรม อ้างปรองดอง!!!(รายละเอียด)

Jirasak Tnews