"สนธิญาณ" สงสัย MOU จะแก้ปัญหาอะไรได้ "รัฐธรรมนูญ" ยังถูกทหารฉีกทิ้งได้ นักการเมืองไม่รู้หรือปัญหาเกิดจากใคร?

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 20 มกราคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : ต้องขออนุญาตมีส่วนร่วมแสดงความเห็นในเรื่องการเชิญชวนทหารมาเซ็นเอ็มโอยู(MOU) เรียนว่าท่านผู้ชมจะเป็นผู้ที่คิดพิจารณาและไตร่ตรองได้ด้วยตนเองว่าสถานการณ์ของบ้านเมืองที่ผ่านมา นักการเมืองและนักเลือกตั้งทั้งหลาย ได้สร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองจนทหารต้องออกมาช่วยคลี่คลายแก้ปัญหาใช่หรือไม่ หรือนักการเมืองบริหารประเทศช่วยกันดูแลประเทศด้วยดี แล้วมีทหารออกมาแย่งอำนาจเพราะหวังแสวงหาประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง ท่านผู้ชมคิดและพิจารณาได้ครับว่าสองเหตุผลนี้ประชาชนคิดได้ว่าเหตุผลไหนที่กองทัพต้องออกมายึดอำนาจ กลับมาดูเรื่องเอ็มโอยู ทั้งที่ พล.อ.ประวิตร อยากให้แกนนำ ตัวแทนพรรคมาเซ็น หรือเรื่องที่นักการเมืองทั้งพรรคประชาธิปัตย์โดยคุณกษิต ภิรมย์ พรรคเพื่อไทยอยากให้ทหารมาเซ็น มีความหมายที่แท้จริงในการที่จะทำให้ประเทศยุติปัญหาลง หรือป้องกันปัญหาทางการเมืองเกิดได้ในอนาคตได้จริงหรือไม่ ประเทศไทยกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดคือกฎหมายรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายใหญ่ที่สุดบ่งบอกว่าประเทศชาตินี้เป็นอย่างไร ยังถูกฉีกได้เลย ถูกไหมครับ ถ้ารัฐธรรมนูญยังถูกฉีกได้จะนับอะไรกับเอ็มโอยู กฎหมายเขียนเอาไว้ชัดเจนว่าห้ามทุจริตคอร์รัปชั่น ห้ามโกงเลือกตั้ง แต่ที่ทุจริตคอร์รัปชั่นกันมาตลอดยาวนานเมื่อนักการเมืองบริหารราชการแผ่นดิน บริหารประเทศ ทำไมถึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย เป็นไปได้หรือครับที่คนเหล่านี้จะมาเกรงกลัวเอ็มโอยู หรือเอ็มโอยูจะมีความหมาย ผมสรุปง่ายๆ ว่าเรื่องเอ็มโอยู พล.อ.ประวิตรเปิดออกมาอาจจะอยากให้เกิดภาพรวมของสถานการณ์ที่ให้ดูดีๆ กันหน่อยว่ามีพยายามจะตกลงกัน พล.อ.ประยุทธ์เรียกว่าพันธะสัญญาใจ แต่ไม่มีความหมายหรอกครับ ผมเรียนต่อว่าการปรองดองใดก็ตามแต่ที่คิดแล้วไม่ลงถึงประชาชน เจ้าของประเทศที่แท้จริงมาอยู่กันแต่นักการเมืองแกนนำนั้นไม่มีทางสำเร็จหรอกครับ ปัญหาการเมืองในระยะที่ผ่านมาเป็นเพราะประชาชนเขาแสดงออกถึงความไม่พอใจในพฤติกรรมที่นักการเมืองทำ และสิ่งที่ต้องกลับไปดูคือรากฐานพฤติกรรมของนักการเมืองที่ทำคืออะไร เป็นวงจรอุบาทว์ กลไกการเลือกตั้งที่เปิดขึ้นมาแม้กฎหมายที่กำหนดว่าห้ามใช้เงินเกินที่กฎหมายกำหนด แต่เอาเข้าจริงการเลือกตั้งแต่ละครั้งไม่ว่าพรรคการเมืองไหนก็ตามก็ยังใช้เงินเกินตามที่กฎหมายกำหนด 100 เท่า 1,000 เท่า เป็นที่รับรู้กันหมดว่าถ้านักเลือกตั้งเกรดเอ พื้นที่เกรดเอ จะได้ 30-50 ล้านบาทต่อผู้สมัคร ลำดับถัดมาจะได้ 20-30 ล้านบาทต่อผู้สมัคร ซึ่งจะจริงไม่จริงนักการเมืองรู้ดีแก่ใจ ไม่ว่าจะเป็นคนภาพพจน์ดีหรือภาพพจน์เลวก็ตามแต่ รู้ว่าเป็นเรื่องจริงทางการเมือง ไม่เชื่อให้ไปสาบานต่อวัดพระแก้วดูสิครับ เมื่อจะต้องใช้เงินขนาดนี้ถามว่านักการเมืองทั้งหลายเอาเงินจากไหนมาใช้ในการเลือกตั้ง ควักเงินจากกระเป๋าตัวเอง จากที่พ่อแม่ตัวเองสร้างสมมาหรือครับ ก็ไม่มี ก็เอามาจากการสนับสนุนของบริษัทขนาดใหญ่นั่นทางที่หนึ่ง ส่วนทางที่สองยามที่ตัวเองเป็นรัฐบาลก็ทุจริตคอร์รัปชั่นกวาดเอาเงินมาสะสมไว้ในการเลือกตั้งข้างหน้า เพื่อช่วงชิงอำนาจมาอยู่ในมือตัวเอง เพื่อต้องการบริหารประเทศให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ หลายคนเป็นคนดีครับมีความตั้งใจแบบนั้น แต่สถานการณ์และภาวะรอบข้างก็บีบคั้น เพราะถ้าไม่ทำเช่นนี้การเลือกตั้งข้างหน้าก็ไม่มีโอกาสชนะ เมื่อกลไกเดินไปแบบนี้ จึงทำให้ประชาชนเดินออกมาประท้วงคัดค้าน ต้องดูล่ะครับว่าในช่วงที่ผ่านมาทหารเขามายุ่งอะไร ตอนที่วุ่นวายกันขนาดนั้น ตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกดูหมิ่นถูกดูแคลนจากฝ่ายที่ต่อต้านคุณทักษิณ ชินวัตร ด้วยซ้ำไป พูดแล้วหาว่าอวยกัน ด่าพล.อ.ประยุทธ์ สาดเสียเทเสียว่าไม่ออกมายึดอำนาจ  ไม่ออกมาจัดการเสียที เพราะคนออกมาชุมนุมเป็นล้านคนแล้วแต่พรรคเพื่อไทยไม่ตระหนัก บริหารประเทศอยู่คิดว่าคนที่ออกมาชุมนุมเพราะคุณสุเทพพาออกมา ไม่ยอมรับความจริงว่าไม่ใช่เพราะคุณสุเทพหรอก เป็นเรื่องที่ชาวบ้านประชาชนเขาทนไม่ได้ นักการเมืองไม่เคยยอมรับ วันนี้ที่มาพูดมาถกเถียงมาแสดงความเห็นเพื่ออะไรครับ ก็เพื่อให้ตัวเองกลับไปมีอำนาจ เพราะเรายังติดอยู่กับกรอบประชาธิปไตย ติดอยู่ในหล่มประชาธิปไตย เราจะต้องทำไปตาม Road Map เพราะมีมหาอำนาจใหญ่บีบคั้นเราอยู่ เห็นประเทศจีนไม่มีนักการเมืองหน้าไหนจะได้ขึ้นมาครองอำนาจเผด็จการพรรคคอมมิวนิสต์ยึดครองประเทศมาอย่างยาวนาน พาประเทศเข้มแข็งเติบโต ไม่มีใครกล้าให้จีนมาทำ Road Map ประชาธิปไตยหรอกครับ แต่อย่างว่าครับนี่คือความจริงที่เรายอมรับกันแต่เราไม่มีทางแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต่อไปได้หรอกครับ เพราะพฤติกรรมนักการเมืองที่เราเห็นที่แสดงออกมานั้นยังไม่ใช่ เขายังคิดแต่เรื่องของการจะก้าวมาสู่อำนาจหลังจากเลือกตั้งต่อไป ผมเชียร์ให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ไปอีกนานๆ