เพื่อชีวิตคนกรุงเทพ!!! "อำนวย"สั่งกวดขันห้ามจ.ยย.วิ่งบนทางเท้า พร้อมปรับสภาพแวดล้อม ทั่วกรุงลดอาชญากรรม (รายละเอียด)

 พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังภายหลังประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ถึงกรณีที่กลุ่มคนพิการยื่นฟ้องต่อ ศาลแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายกรณีที่กทม.ไม่ดำเนินการสร้างลิฟท์อำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการในการใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยเร็วตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ที่ผ่านมาว่า ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกทม.เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าสาเหตุที่ล่าช้านั้นมาจากความบกพร่องของหน่วยงานใด หากเป็นเหตุสุดวิสัยก็ต้องหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด แต่หากเป็นความผิดพลาดของผู้บริหารสัญญาคือ เจ้าหน้าที่ของกทม. ก็ต้องพิจารณาบทลงโทษ หรือหากเป็นความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง ก็ต้องมีการปรับเงิน ตามสัญญาที่ระบุ ซึ่งหากพบว่าเป็นความผิดของใคร ฝ่ายนั้นต้องรับผิดชอบ
         
 

 

 

นอกจากนี้ยังสั่งการให้สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) จัดทำโรดแมปความคืบหน้าของแผนงาน ว่าจะต้องเสร็จจุดใด ในระยะเวลาเท่าใดบ้าง แต่ไม่จำเป็นต้องเสร็จพร้อมกันทั้ง 19 สถานี โดยคาดว่าจะเสร็จประมาณ 4-5 สถานีในเดือน มี.ค. และเสร็จทั้งหมดภายในปี 2560

 

 

 

 

 

 

 

 

ในส่วนของการปรับสภาพแวดล้อม สร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเพิ่มความปลอดภัย 234 จุด ทั่วกรุงเทพตามที่กองบัญชาตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ขอให้กรุงเทพมหานครปรับสภาพแวดล้อมบริเวณพื้นที่รกร้างต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม และเป็นการป้องกันการเกิดอาชญากรรมสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน จำนวน 234 จุด แบ่งเป็น กลุ่มกรุงธนเหนือ 16 จุด กลุ่มกรุงธนใต้ 36 จุด กลุ่มกรุงเทพเหนือ 51 จุด กลุ่มกรุงเทพใต้ 55 จุด กลุ่มกรุงเทพกลาง 32 จุด และกลุ่มกรุงเทพตะวันออก 44 จุด โดยกรุงเทพมหานครจะร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ดำเนินการ อาทิ การตัดหญ้า การปรับภูมิทัศน์ การติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะเป็นการช่วยเพิ่มความสวยงามและสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนยิ่งขึ้น โดยกำหนดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

 

 

 

ส่วนกรณีการคืนทางเท้าซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนนั้น กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากมีการจัดระเบียบผู้ค้ายกเลิกจุดผ่อนผันต่างๆ ปรากฏว่าในบางพื้นที่มีผู้ขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้าซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายเช่นกัน โดยเฉพาะใน 6 ถนนที่มีจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้ามากที่สุด ได้แก่ ถนนสุขุมวิท ถนนพระรามที่ 4 ถนนเพชรบุรี ถนนพหลโยธิน ถนนรัชดาภิเษก และถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เทศกิจทั้ง 50 เขต ดำเนินการติดตั้งป้ายและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงข้อห้ามดังกล่าว ซึ่งหากพบพื้นที่ไหนยังปล่อยให้มีจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า หากประชาชนพบเห็น หรือตนได้รับเรื่องร้องเรียนและมีหลักฐานชัดเจนจะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบและหากตรวจพบจะมีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตนั้นๆ รวมถึงกรณีวินจักรยานยนต์รับจ้างที่ตั้งอยู่บนทางเท้า ให้ใช้พื้นที่เป็นเพียงที่ตั้งวินเท่านั้นไม่อนุญาตให้จักรยานยนต์รับจ้างวิ่งบนทางเท้าเช่นเดียวกัน ซึ่งหากพบเห็นประชาชนหรือจักรยานยนต์รับจ้างวิ่งบนทางเท้า เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับปรับตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย   นาตยา  เอนกธนะเศรษฐ์   สำนักข่าวทีนิวส์