อย่ารีบร้อน!!! "จักรทิพย์" ขอให้รอศาลสืบพยานคดี "ครูจอมทรัพย์"ก่อน (รายละเอียด)

อย่ารีบร้อน!!! "จักรทิพย์" ขอให้รอศาลสืบพยานคดี "ครูจอมทรัพย์"ก่อน (รายละเอียด)

 พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง ความคืบหน้ากรณีการขอรื้อฟื้นคดีของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครู จ.สกลนคร หลังถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก ในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ที่ จ.นครพนม ว่าขณะนี้ให้รอกระบวนการทำงานของศาล ที่จะสืบพยานในวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งน่าจะมีความชัดเจน ตำรวจพร้อมจะสนับสนุนข้อมูลทุกๆ อย่างเต็มที่ ส่วนการพูดคุยกับพ.ต.อ. ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นั้น แนวทางเป็นไปได้ด้วยดี เนื่องจากรองปลัดยุติธรรมเป็นตำรวจมาก่อน เข้าใจกระบวนการทำงานของตำรวจดี
     
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. ติงการให้ข่าว ของตำรวจว่าออกไปในทางตำรวจไม่ใช่ที่พึ่งของประชาชน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่า คณะกรรมการสิทธิ์ควรทำงานให้ครบทุกมิติ ไม่ใช่จ้องแต่จับผิดการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ยกตัวอย่างเช่นเหตุความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ กรรมการสิทธิ์ควรไปพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังระบุว่าตำรวจมีแนวทางการปฏิบัติอยู่แล้ว หากศาลตัดสินว่า นางจอมทรัพย์ เป็นผู้บริสุทธิ์
       

 

ด้านพล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างครบถ้วน ทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสาร แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ขอรอให้ศาลมีการตัดสินเกี่ยวกับการรื้อฟื้นคดีเสียก่อน จากนั้น พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) จะเป็นผู้ชี้แจง ทั้งนี้มั่นใจว่าเมื่อตรวจสอบแล้ว การทำคดีในปี 2548 ถูกต้อง ไม่มีการกลั่นแกล้งใครทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอนถูกต้อง ละเอียดรอบคอบแล้ว หลังจากนั้นมีคนมาให้ข้อมูลที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับครู แต่เราก็ฟังไว้ แต่เป็นเพียงคำบอกเล่า เรารับฟังไม่ได้ เราต้องการพยานบุคคล หรือพยานเอกสาร ซึ่งเราได้พยานเอกสารมาเกี่ยวกับทะเบียนรถ และมั่นใจว่าการทำคดีของตำรวจในคดีนี้ ตั้งแต่ปี 48 จนผ่านการพิจารณา 3 ศาล ศาลฎีกาลงโทษ เรามั่นใจว่าทุกอย่างทำถูกต้องแล้ว

ส่วนที่มีการมองกันว่าตำรวจอาจสร้างพยานหลักฐานขึ้นมานั้น พล.ต.ท.จตุพล กล่าวว่า นั่นเป็นการมโนไปเอง เป็นกระแส อยากให้ประชาชนชนใช้วิจารณญานในการรับฟังอีกไม่กี่วันความจริงจะปรากฎแล้ว ส่วนกรณีที่พยานกลัวถูกคุกคามทาง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยเรื่องนี้ ตำรวจมีหน้าที่ให้บริการประชาชน ไม่มีหน้าที่ไปข่มขู่ใคร ใครจะพูดอะไรก็ได้แต่ขอให้รับผิดชอบในคำพูดของตัวเองด้วย หากร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกัน ตนก็ยินดีส่งกำลังตำรวจไปดูแลทุกคน รวมถึง นางจอมทรัพย์ ด้วยหากขอมาก็ให้ ยืนยันว่าไม่มีการส่งตำรวจไปติดตาม เฝ้าดู หากทำเช่นนั้นจะมองได้ว่าไปบีบกัน ตอนนี้ตำรวจทำตามหน้าที่ หากพยานมีการร้องขอมาทางตำรวจก็มีมาตรการคุ้มครองพยานอยู่แล้ว
 

 

 

เรียบเรียงโดย นาตยา เอนกธนะเศรษฐ์  สำนักข่าวทีนิวส์