"สนธิญาณ" ชี้! องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ลดอันดับความโปร่งใสไทยจาก 76 เป็น 101 "บิ๊กตู่" ต้องหาคำตอบว่าทำไม?

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 27 มกราคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : มีข่าวเล็กๆ ไม่ค่อยใหญ่นัก แต่เป็นข่าวที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องสะดุ้งสะเทือนทีเดียวครับ ทั่วทั้งโลกมีองค์กรทั้งหลายคอยตรวจสอบวัด ปรากฏว่า เรื่องตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นก็มีอยู่องค์กรหนึ่ง ชื่อว่า องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ(Transparency International) เขาจัดทำการวัดภาพลักษณ์หรือวัดดัชนีการคอร์รัปชั่นของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 176 ประเทศที่กำลังวัด เขาวัดทุกปี และปีนี้องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติได้วัดว่าประเทศไทยมีคะแนนจีพีโอ 35 คะแนน จากเต็ม 100 คะแนน ก็เท่ากับหลายๆ ประเทศในโลกนี้ เช่น ฟิลิปปินส์, ติมอร์เลสเต, เปรู, กาบอง และอื่นๆ อีกหลายประเทศ ก็ดูไม่น่าจะเป็นเรื่องน่าแปลกใจนัก ถ้าปรากฏว่าผลปีนี้ประเทศไทยได้ความน่าเชื่อถือลดลง จากเมื่อก่อนเคยปี พ.ศ. 2558 ได้อยู่ 38 คะแนน ตอนนี้เหลือเพียง 35 คะแนน ก็จะเห็นได้ว่า เราจากครั้งก่อนเคยอยู่ลำดับที่ 76 ของ 176 ประเทศ หมายความว่าดีกว่าอีก 100 ประเทศ แต่ปีนี้ลดลงมาอยู่ที่ลำดับ 101 น่าสนใจครับ การวัดแบบนี้ ภายใต้การบริหารประเทศและการดูแลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ คสช. และนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่ามีอำนาจเต็ม และตัวเองก็ได้ให้เห็นตลอดมา ผมเรียนแบบนี้ว่า ไม่เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น ปราบปรามการคอร์รัปชั่นอย่างเห็นได้ชัด การประพฤติปฏิบัติตัวก็เห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีใครไปพบเป็นการส่วนตัวได้ โดยเฉพาะที่บ้าน การพบต้องอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น และการพบก็ต้องมีบุคคลอื่นอยู่ด้วยเสมอ นี่เป็นสิ่งที่เป็นวัตรปฏิบัติ ผมเรียนว่า แต่เกิดอะไรขึ้นเมื่อปรากฏว่าดัชนีดังกล่าวไปเท่ากับสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในปี พ.ศ. 2556 ในปีนั้นประเทศไทยได้ 35 คะแนนเช่นกัน ตอนนั้นอยู่ลำดับที่ 102 หมายความว่าประเทศต่างๆ มีการขยับปรับปรุงให้ประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น น่าสนใจครับ เพราะก่อนหน้านี้เราต้องกลับมาดูว่าในปี พ.ศ. 2557 รัฐบาลและ คสช. เข้ามายึดอำนาจตอนเดือนพฤษภาคม อันดับดัชนีการคอร์รัปชั่นที่ผมเรียนว่าสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ลำดับที่ 102 ต่อมาในปี พ.ศ. 2557 เลื่อนขึ้นมาอยู่ลำดับ 85 ต้องถือว่าโอเคมาก ต่อมาในปี พ.ศ. 2558 ขยับขึ้นมาเป็นลำดับ 76 โดยทั่วไปสิ่งที่เราจะเห็นได้คือว่า พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาดูแลบริหารประเทศ ปราบปรามการคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง การทุจริตเชิงนโยบายเราเห็นอยู่ว่าลดลง แต่ต่อมาเกิดอะไรขึ้น เพราะภาพพจน์ปี พ.ศ. 2557-2558 นั้นดีขึ้น ต้องถือว่าเป็นการวัดได้ว่าการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ปราบปรามการคอร์รัปชั่น และลดการคอร์รัปชั่นนั้นดีขึ้น ในปี พ.ศ. 2558 ดูในภูมิภาคอาเซียน ประเทศสิงคโปร์มีความโปร่งใสเป็นอันดับ 1  ได้ 58 คะแนน ต่อมาอันดับ 2 ประเทศมาเลเซียได้ 50 คะแนน ส่วนอันดับ 3 คือประเทศไทย 38 คะแนน อันดับ 4 อินโดนีเซีย 36 คะแนน  อันดับ 5 คือประเทศฟิลิปปินส์ได้ 35 คะแนน คำถามนะครับ ถึงวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็มีคำตอบเหมือนกัน ทำไมผมเรียนว่าเรื่องแบบนี้ต้องมีคำตอบทั้งๆ ที่ฟังดูโดยทั่วไป พล.อ.ประยุทธ์ ก็เห็นอยู่ แต่ถามว่ามีข่าวเรื่องการคอร์รัปชั่นไหมนั้น ก็มีครับ ถ้าไม่มีดัชนีเหล่านี้ซึ่งเป็นตัวชี้วัด ไม่ใช่ว่าจู่ๆ มาฟังต่างชาติ สนธิญาณนี่เป็นอย่างไร อวยพล.อ.ประยุทธ์แต่ไปหยิบเรื่องนี้มาโจมตี พล.อ.ประยุทธ์อย่างนั้นหรือ ผมเรียนว่าไม่ใช่ครับ แต่ผมเรียนได้เลยว่าสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลทุกรัฐบาลเสื่อมทรุดลงอย่างรวดเร็วคือปัญหาเรื่องการคอร์รัปชั่น โดยปกติหัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก อันนี้ถูกต้องครับ แต่ถามว่ามีข่าวแบบนี้เล็ดลอดออกมาบ้างไหมก็มีครับ เช่น กรณีขุดลอกคลองของการทหารผ่านศึก เรื่องราวเหล่านี้บังเกิดขึ้นและวับหายไป ยังมีอีกบางกระทรวงเกี่ยวเนื่องกับการอนุมัติใบสัญญาอนุญาต  ต้องลองติดตามดูครับว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพลังงานยังมีกระทรวงไหนอีกบ้าง ก็เป็นข่าวล่ำลือกันอยู่ ซึ่งก็มีการออกมาโต้แย้งว่าไม่มีใบเสร็จ ไม่ใช่ความจริง ซึ่งผมเรียนว่า หากไม่มีไฟก็ไม่มีควันครับต้องเรียนแบบนี้ ฉะนั้นที่ต้องเรียนย้ำ เพราะเป็นคนหนึ่งที่ยกมือเชียร์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศต่อไปอีก 5 ปี แต่เรื่องแบบนี้ต้องตรวจสอบเอาจริงเอาจัง ต้องดูแลและไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง เป็นพรรคพวกที่เชิญมาเป็นรัฐมนตรี ทำอย่างนั้นไม่ได้ครับท่านนายกครับ แม้จะเป็นข่าวลือเรื่อยๆ แต่ท่านต้องมีหน้าที่ทำให้ชัดเจน ทำให้เคลียร์ จริงไม่จริงข่าวลือเรื่องไหนออกมา ต้องแจกแจง ท่านจะต้องให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องของท่านดำเนินการให้ชัด เพราะกระแสถ้าขึ้นมาแล้วนั้นจะจบยาก จะปิดยาก เป็นคำเตือนจากมิตร อย่าปล่อยข้าม อย่าผ่านเลยข่าวสารเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด