ความอึดอัดเป็นอุปสรรคหลักขวางทางปรองดอง!! "พงศ์เทพ"เผย แนวทางสร้างความปรองดองต้องเริ่มที่เปลี่ยนบรรยากาศ (รายละเอียด)

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหนึ่งในห้าคณะกรรมการศึกษา ติดตามเรื่องการปรองดองของพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 30 มกราคม ถึงความคืบหน้าในการทำงานของคณะกรรมการทั้ง 5 คนว่า ขณะนี้เราก็ติดตาม แต่ทางตนคงยังไม่มีความคืบหน้าอะไร เพราะต้องรอความคืบหน้า และความชัดเจนจากทางของคณะกรรมการภาครัฐ สำหรับการรวบรวมความเห็นของสมาชิกพรรค เรามีเจ้าหน้าที่คอยรวบรวมความเห็นอยู่ อย่างไรก็ตาม หลักการใหญ่ๆ ที่เคยพูดกัน คือเรื่องของวิธีการ วันนี้ไม่ใช่เรื่องว่าจะทำอะไร แต่เป็นเรื่องที่ว่าจะทำอย่างไร ดังนั้นวิธีการที่จะได้มาซึ่งแนวทางในการปรองดองนั้น สำคัญกว่าว่าเราจะทำอะไร เพราะวันนี้เรายังไม่รู้หรอกว่าทำอะไรแล้วจะเป็นการปรองดอง แต่วิธีการและกระบวนการที่จะนำไปสู่การปรองดองนั้นสำคัญกว่า บางคนไปมองว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไปพูดกันมากเข้า คนที่ไม่เห็นด้วยก็ยิ่งไม่เห็นด้วย ก็กลายเป็นไม่ปรองดองกันไปใหญ่ จึงต้องหากลไกและวิธีการในการนำไปสู่การปรองดองว่าควรจะต้องวางกลไกแบบไหน ทั้งนี้เราเห็นว่ากลไกที่จะนำไปสู่การปรองดอง ถ้าจะมีคณะกรรมการขึ้นมา คณะที่จะทำได้ประสบผลสำเร็จก็ควรจะเป็นคณะที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย คนที่เข้ามาเป็นคณะกรรมการหากได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายโอกาสที่จะขับเคลื่อนกระบวนการไปสู่ความสำเร็จนั้นจะมีมาก แต่ถ้าคนที่มาขับเคลื่อนขบวนการไม่ได้รับการยอมรับ ไม่มีทางหรือไม่มีโอกาสเลยที่จะสำเร็จ อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายก็มีคำถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าใครได้รับการยอมรับบ้าง เราก็ต้องดูคนที่คิดว่ามีความเที่ยงธรรม มีความเป็นกลาง รอบรู้เรื่องนี้ และเมื่อเสนอชื่อกันมาก็ลองฟังผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าคนนี้ใช้ได้หรือไม่ ถ้าทุกคนเห็นตรงกันว่าใช้ได้ก็จะได้คนที่ทำงานได้เข้ามา และเมื่อเขาไปขอความร่วมมือจากใครทุกคนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือด้วยความสบายใจ ส่วนวิธีการว่าที่ทำอย่างไรเป็นเรื่องต่อไปอีกขั้นหนึ่ง

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม : แสงสว่าง!!! "อนุปรองดอง สปท." เผยแก้ขัดแย้ง ยึดแนวทาง"ป๋าเปรม" สมัยแก้เรื่องคอมมิวนิสต์เมื่อ 30 ปีก่อน

นายพงศ์เทพกล่าวอีกว่า นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือเรื่องของบรรยากาศ เมื่อเราต้องการที่จะไปสู่ความปรองดอง ก็ต้องสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดองขึ้นมาให้ได้ก่อน เพราะไม่มีทางที่จะทำให้เกิดความปรองดองท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่อำนวย หรือบรรยากาศที่ได้รับการกดขี่ บรรยากาศแห่งความอึดอัดใจ ดังนั้นต้องสร้างบรรยากาศที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องมีสิทธิและเสรีภาพ ในการพูดจากันได้อย่างเสรี หรือพูดจากันได้อย่างเต็มที่ภายใต้หลักนิติธรรม ซึ่งถ้าถูกกดไว้ก็ไม่มีใครคิดที่จะปรองดองหรอก และกระบวนการต่างๆ ของภาครัฐก็ต้องทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรมเพื่อให้เกิดความมั่นใจ สบายใจ ส่วนคนที่อยู่ในองค์กรต่างๆและมีประวัติที่ทำให้คนเกิดความไม่สบายใจเรื่องความเที่ยงธรรม เป็นกลาง ก็อย่าไปทำหน้าที่ในคดีเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความขัดแย้ง แบบนี้ก็สามารถช่วยสร้างบรรยากาศได้ อันนี้คือความเห็นของตน ซึ่งกรรมการท่านอื่นอาจเห็นด้วยหรือเห็นต่างจากตนก็ได้

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม : ปรองดองกับใคร? ในเมื่อนักการเมืองไทยรวยค้ำฟ้า....สถิติสุดช็อค!! สส.500ครอบครัวมีทรัพย์สินเท่ากับครอบครัวประชาชนธรรมดาถึง 2 ล้านครอบครัว (รายละเอียด)

 

เรียบเรียงโดย สินีนุช ทีนิวส์