"สนธิญาณ" ชี้ !! การพูดเรื่อง "รัฐบาลแห่งชาติ" ถือเป็นการไร้เดียงสาทางการเมือง และเป็นการสร้างกระแสข่าวที่ไม่ถูกต้อง !!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 31 มกราคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

ยุคล : วันนี้คุณสนธิญาณมาในประเด็นที่มีเสียงร่ำลือกันว่า จะมีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อสมานฉันท์ หรือว่าสร้างความปรองดองระหว่างขั้วอำนาจ

สนธิญาณ : กลายเป็นประเด็นเลยครับที่นำพาไปสู่การเชื่อมโยงว่า การที่รัฐบาลและ คสช. ได้จัดการปรองดองอยากเป็นระบบเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมามีวาระซ่อนเร้นแอบแฝง วาระแอบแฝงที่ว่าคือ เพราะรัฐบาลคิดจะจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้น พอมีข่าวหลุดรอดออกไปว่า พล.อ.ประวิตร นัดคุยกับพรรคการเมืองเพื่อจะตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เมื่อวาน พล.อ.ประวิตรก็ออกมาโวยวายแบบมีน้ำเสียงโมโหนิดหน่อย บอกว่า มโนกันไปว่ากันไปทำกันไป ผมก็จะเรียนเหมือนกันว่าเรื่องรัฐบาลแห่งชาตินั้นเลิกคิดได้เลย มโนขึ้นมาเอง ไม่ว่าใครปล่อยข่าวนี้หรือพยายามเขียนข่าวอย่างไร ผมไม่ได้มาแก้ตัวแทนรัฐบาลหรอกครับ ผมไม่รู้จริงๆ หรือว่ารัฐบาลคิดหรือไม่ แต่ถ้าคิดเมื่อไหร่หายนะเกิดขึ้น ชื่อเสียงที่สร้างสมมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะละลายหายวับไปกับตา ผลงานที่ คสช. ทำมาจะกลายเป็นมวยล้มต้มคนดู ประชาชนทั้งประเทศจะไม่ยอมรับ คนที่จะมาร่วมรัฐบาลแห่งชาติได้ นั่นหมายความว่า พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย จะต้องมาจับมือกัน ทั้งสองพรรคก็จะหายนะล้มละลายสลายไปกับความเชื่อถือของผู้ที่ศรัทธาทั้งสองพรรค และที่สำคัญ ทักษิณ ชินวัตร ไม่ยินยอมหรอกครับที่จะให้เกิดรัฐบาลแห่งชาติขึ้น เว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลแห่งชาติจะนิรโทษกรรม และให้ทักษิณกลับมายังประเทศไทยโดยไม่มีความผิด ซึ่งรัฐบาลแห่งชาติไหนทำแบบนี้ก็จะมีอันเป็นไป ล้มละลายหายตายจากไปเหมือนกัน ผมบอกเลยว่ามีแต่ความวิบัติ ความเสียหายทั้งสิ้นสำหรับข่าวนี้ ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ เพราะการตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั่นหมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยต้องจับมือกันก่อน ซึ่งเป็นไปได้ไหมครับ น้ำกับน้ำมัน ก็เป็นไปไม่ได้ ผมบอกเลยว่ารวมกันก็หายวับ รัฐบาลแห่งชาตินี้ก็หมายความว่าสองพรรคนี้มาจับมือกันและให้ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เสร็จเหมือนกัน ไปไม่รอด ฉะนั้นข่าวนี้เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ ความจริงที่จะเกิดขึ้นได้ มีทางเลือก 3 ทางหลังเลือกตั้ง 1.ตั้งรัฐบาลไม่ได้เพราะสองพรรคไม่ได้เสียงเกิน 380 เสียง และมาโหวตให้กับอีกพรรคหนึ่งที่เป็นพรรคอันดับหนึ่งเพื่อรักษาแนวทางประชาธิปไตย เพราะถ้าวุฒิสมาชิกไม่โหวตเสียงก็จะไม่พอ เมื่อไม่โหวต ส.ส.จะตั้งเองก็ตั้งไม่ได้ ก็ต้องยุบสภาแล้วเลือกใหม่ให้ประชาชนตัดสินใจต่อ 2.ไม่พรรคประชาธิปัตย์ก็พรรคเพื่อไทยขึ้นอันดับหนึ่ง ได้รับเสียงสนับสนุนรวมกันแล้ว 400 เสียง โหวตกันเองให้เป็นรัฐบาลแล้วเอาพรรคเล็กเข้ามาร่วมด้วย หมายถึง ส.ส.ทั้งสภารวมใจกันไม่ฟังอำนาจวุฒิสมาชิก 500 เสียง ตกลงกันว่าใครได้เป็นอันดับหนึ่ง ให้จัดตั้งรัฐบาลและให้มี 280 - 290 เสียงขึ้นไป ซึ่งคนจะร่วมใจโหวตเป็นสัญญาประชาคม 3.พรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคเล็กแล้วเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มี 3 ทางนี้ครับ เรื่องรัฐบาลแห่งชาติเป็นการปล่อยข่าวที่ไร้เดียงสาทางการเมือง คือไม่รู้จักความเป็นจริงทางการเมือง ก็ต้องเรียนแบบนี้ เพราะฉะนั้นติดตามเถอะครับตอนนี้ไปเกาะติดกฎหมายพรรคการเมืองจะออกมาเป็นอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์เขาจะเติบโตจะมีโอกาสจะนำเสนอยุทธศาสตร์ ประชาชนจะชื่นชมนิยมชมชอบจะชนะการเลือกตั้ง ชนะพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ เขาจะเสนอชื่อให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกหรือไม่ เขาจะเสนอพรรคของเขาเองอะไรแบบนั้น ไปติดตามว่าพรรคเพื่อไทย หรือทักษิณว่าอย่างไร จะเกิดความคับแค้นแน่นอกมากยิ่งขึ้นไหม กับสภาวะที่เป็นอยู่จะสั่งสู้อย่างดุเดือดเลือดพล่านหรือไม่ การพูดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติถือเป็นการไร้เดียงสาทางการเมือง และเป็นการสร้างกระแสข่าวที่ไม่ถูกต้อง