จ่อใช้ม.44 !! "ปฏิรูปตำรวจ"..รองฯวิษณุยันไม่เกี่ยวกับอำนาจสืบสวนสอบสวน

จ่อใช้ม.44 !! "ปฏิรูปตำรวจ"..รองฯวิษณุยันไม่เกี่ยวกับอำนาจสืบสวนสอบสวน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึวกรณีการวางแนวทางการออกคำสั่งมาตรา44 เพื่อปฏิรูปตำรวจ ว่า ขณะนี้ได้จัดทำแนวทางดังกล่าวและได้ส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ส่งกลับมาให้แก้ไขเพียงเล็กน้อย และคาดว่าจะสามารถออกคำสั่งได้ในไม่ช้า 

 

สำหรับคำสั่งดังกล่าวจะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ไม่เกี่ยวกับอำนาจสืบสวนสอบสวน เนื่องจากในร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา260 ได้ระบุไว้ว่าการปฏิรูปตำรวจต้องตั้งคณะกรรมการปฏิรูประบบตำรวจขึ้นมาทำหน้าที่ให้แล้วเสร็จภายใน 1ปี จึงดำเนินการก่อนไม่ได้

 

 

โดยร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2559 ฉบับลงประชามติ มาตรา 260 บัญญ้ติไว้ว่า…

มาตรา ๒๖๐ ในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายตามมาตรา ๒๕๘ ง. ด้านกระบวนการยุติธรรม (๔) ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง ประกอบด้วย

(๑) ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีความรู้ความซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรมเป็นที่ประจักษ์ และไม่เคยเป็นข้าราชการตำรวจมาก่อน เป็นประธาน

(๒) ผู้เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการตำรวจซึ่งอย่างน้อยต้องมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรวมอยู่ด้วย มีจำนวนตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด เป็นกรรมการ

(๓) ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีความรู้ความซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรมเป็นที่ประจักษ์ และไม่เคยเป็นข้าราชการตำรวจมาก่อน มีจำนวนเท่ากับกรรมการตาม(๒) เป็นกรรมการ

(๔) ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ

ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญน

เมื่อครบกำหนดเวลาตามวรรคสองแล้ว ถ้าการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ ให้การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจดำเนินการตามหลักอาวุโสตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

 

เรียบเรียง : Wila