"เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ" หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th

“เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ” หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก

"เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ" หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก

ในวงศ์พระกรรมฐานสายท่าน”พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต” นั้น “หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท” จะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นที่ยอมรับเรื่องธรรมภายใน กิริยาภายนอกที่สบาย ๆ ของท่าน ท่านพระอาจารย์มั่นเป็นผู้ที่เรียกหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโทป็นองค์แรกว่า “ผ้าขี้ริ้วห่อทอง” แล้วหลวงตามหาบัวนำมาเรียกบอกเล่าให้บรรดาลูกศิษย์ฟัง หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท ท่านเป็นพระ  อุปัฏฐากหลวงปู่มั่น อยู่ถึง 3 ปี หลวงปู่มั่นถึงกับเคยเอ่ยชมหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโทว่า “เออหมู่เอ๊ย!... มีหมู่มาเล่าเรื่องการภาวนาให้เราฟังที่เชียงใหม่เว้ย... เธอปฏิบัติของเธอสามสี่ปีเหมือนเราลงที่นครนายก ‘มันลงเหมือนกันเลย’ ท่านย้ำว่าอย่างนั้น ท่านองค์นี้ภาวนา ๓ ปี เท่ากับเราภาวนา ๒๒ ปี อันนี้เกี่ยวเนื่องกับนิสัยวาสนาของคนมันต่างกัน” ซึ่งหลวงปู่มั่นบรรลุธรรมขั้นอนาคามี ใช้เวลาถึง ๒๒ปี ที่ถ้ำสาลิกา จ.นครนายก แต่หลวงปู่เจี๊ยะนั้นบรรลุธรรมขั้นอนาคา มี ที่วัดทรายงาม จ.จันทบุรี โดยใช้เวลาแค่ 3 ปี

"เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ" หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก

"เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ" หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก

ในช่วงพรรษที่43-47ของหลวงปู่เจี๊ยะอยู่ในช่วงพ.ศ.2522 – 2526 หลวงปู่เจี๊ยะท่านได้มาจำพรรษอยู่ที่วัดอโสการาม จังหวัดสมุทรปราการ หลวงปูเจ๊ยะได้อบรมสั่งสอนในเรื่องธรรมะให้แก่พระและเณรในวัด แต่พระ เณร เหล่านั้นมักไม่ค่อยเชื่อฟังใส่สิ่งที่หลวงปู่เจี๊ยะสั่งสอนเท่าไหร่นั้น เมื่อเป็นเช่นนั้นท่านก็รู้สึกสังเวชในใจ ท่านจึงคิดแสวงหาที่พักเพื่อภาวนาอยู่จำพรรษาอย่างถาวรแต่ก็ยังหาที่ไม่ได้ท่านจึงวิเวกไปทางภาคเหนือ ทางจังหวัดตาก โดยไปที่ถ้ำช้างร้องเป็นเขตแดนที่อยู่คั้นระหว่างจังหวัดตาก และจังหวัดลำพูน และที่ถ้ำช้างร้องนั้นเอง ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดและอัศจรรย์เดี่ยวกับเรื่องราวของเหล่าเทวดาอารักษ์ที่แสดงฤทธิ์ที่ถ้ำรวมไปถึงพญาครุฑที่ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนหลวงปู่เจี๊ยะที่ถ้ำช้างร้องด้วย

"เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ" หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก

เช่นพระลูกศิษย์ที่มาอยู่ก่อนไม่สำรวมก็จะมีเทวดามาเตือนและแกล้งจนแทบจะไม่สามารถอยู่ปฏิบัติกรรมฐานได้  จนต้องเจรจากันแบบน้อบน้อม หรือแกล้งหาเงินมาจะสร้างศาลาธรรมปฏิบัติให้  หรือแกล้งให้แพที่ใช้จำวัด หรือเก็บของแตกล้ม จนเกิดวุ่นวายไปหมด หรือแม้กระทั่งทำให้พระที่มาปฏิบัติทะเลาะกับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง แต่สุดท้ายก็ยอมให้ชาวบ้านมาขอร้องให้พระช่วยแก้ไข ในเรื่องราวต่าง จนกระทั่งบรรดาพระที่มาอยู่ก่อนต้องไปนิมนต์ให้หลวงปู่เจี๊ยะมาช่วยแก้ไข

"เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ" หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก

จึงได้ไปกราบเรียนพระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะและได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้หลวงปู่เจี๊ยะฟังถึงความไม่สงบที่ถ้ำช้างร้อง ฝ่ายหลวงปู่เจี๊ยะได้ฟังนั้นจึงได้มาตามคำนิมนต์ของพระรูปนั้น พอหลวงปู่เจี๊ยะมาถึงถ้ำช้างร้องในช่วงค่ำท่านก็ได้เข้าที่ทำการภาวนา ฝ่ายพระเมื่อได้มีพระอาจารย์มาอยู่ด้วยก็เกิดความสบายใจว่าเรื่องวุ่นวายคงจะไม่เกิดขึ้นอีก จนกระทั่งรุ่งเช้าหลวงปู่เจี๊ยะได้พูดกับพระเหล่านั้นว่าเมื่อคืนมีเทวดาหญิงนุ่งขาวห่มขาว เข้ามากราบและหลวงปู่ได้กล่าวกับเหล่าเทวดาว่าถ้ำแหล่งนี้เป็นสิริมงคลดี ฝ่ายพระก็ต่างคิดกันว่าพอหลวงปู่มาอยู่ด้วยเทวดาตนนั้นกับเห็นด้วยทุกอย่าง เคารพหลวงปู่เจี๊ยะมาก คงเป็นเพราะเหล่าพระ เณรนั้นเข้าไม่ถึงธรรมอย่างแท้จริงจากนั้นหลวงปู่เจี๊ยะก็ได้ทำการให้โอวาสเหล่าพระสงฆ์ไปว่าเทวดานี้เขาก็เหมือนมนุษย์นั้นแหละ เวลาจะนับถือพระรูปใด หรือจะเอาพระรูปใดเป็นอาจารย์เขา ต้องดูให้ดีและต้องทดสอบดูก่อน เรียกว่ามาแอบดู ถ้าเขาไม่ชอบก็นินทากันเลยเหมือนกัน เรื่องนี้พูดให้ใครฟังเขาก็หาว่าบ้ากันทั้งนั้น แต่มีเพื่อนพระต้องการทดสอบ จึงให้เณรเขียวไปจุดธูปแล้วอธิษฐานเณรก็เข้าไปกราบพระ จุดธูปแล้วอธิษฐานจิตว่า ถ้าถ้ำช้างร้องนี้มีเทวาศักดิ์สิทธิ์จริงขอให้จงแสดงอภินิหารเป็นที่ประจักร  เมื่อจุดธุปเทียน อธิษฐานไปได้ไม่นานนักก็เกิดฟ้าผ่าทั้งกลางวันแสก ๆ ฟ้าผ่าลงกลางแม่น้ำในหน้าแล้ง ไม่มีการตั้งเค้าของฝนแม้แต่น้อย ทั้งๆที่อากาศปกติ โดยฟ้าจะแลบก่อนจะผ่าลงมาเสียงดังสนั่นหวั่นไหวน้ำในแม่น้ำกระเด็นกลางหน้าถ้ำ เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเห็นประจักร พระองค์หนึ่งตะโกนขึ้นด้วยความตกใจว่า ‘ผีมีจริง เทวดามีจริงจนน่ากลัว’ ตั้งแต่อาจารย์เจี๊ยะก้าวท้าวเหยียบแผ่นดินเพื่อแผ่เมตตาจึงสงบสุขตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

"เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ" หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก

"เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ" หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก

ส่วนหลวงปู่เจี๊ยะเองตอนที่อยู่ถ้ำช้างร้องนั้นนอกจาก เทวดาแม่เฒ่าที่อยู่เป็นอารักษ์ที่นั้นแล้วบางคืนยังมีพวกกายทิพย์เป็นสัตย์วิเศษชนิดต่าง ๆ มาเยี่ยมและกราบพระอาจารย์เจี๊ยะ และบินมาทักทายในนิมิตภาวนา เป็นพวกครุฑ พวกเขาจะเข้ามากราบเรียนว่าเขาเป็นลูกศิษย์ท่านพ่อลี เขาเคารพท่านพ่อลีมาก วันไหนที่เขามา ในตอนเช้ามันจะมีเหตุแปลกเกิดขึ้นอยู่อย่างหนึ่งนั้นคือ งูจะต้องตาย หลวงปู่เจี๊ยะจึงบอกกระซิบกับเณรเขียวผู้ที่ไม่เชื่อให้ทราบว่า “เณร เมื่อคืนมีพญาครุฑมา ถ้าพญาครุฑมาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตาย ในทุกครั้งที่เขามา” อันนี้ก็ไม่ทราบสาเหตุได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เณรเขียวก็รู้สึกว่าจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก อันนี้จึงต้องมีการพิสูจน์ คืนไหนพยาครุฑมาต้องรีบบอกเณรก่อนว่าพญาครุฑได้มาแล้ว เณรเขียวจะคอยดูว่าจะมีงูตายเกิดขึ้นหรือไม่ พอไปดูในถ้ำพบงูนอนตายแบบไม่ทราบสาเหตุ ไม่พบบาดแผล ไม่พบรอยถูกตี ถูกจิก งูตายไปเฉยๆดังนั้นทั้งพระ ทั้งเณร ก็เชื่อในคุณธรรมของพระอาจารย์เจี๊ยะอย่างสนิทใจ เมื่อท่านออกจากถ้ำช้างร้องแล้ว ท่านก็กลับไปยังวัดอโสการาม พรรษาที่48-68 พ.ศ.2527 – 2547 ซึ่งเป็นปีที่ท่านมรรณภาพลง

"เณร! เมื่อคืนพญาครุฑมา ถ้าเขามาเมื่อไหร่จะต้องมีงูตายนะ" หลวงปู่เจี๊ยะบอกลูกศิษย์ให้ดูหลักฐานที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก

ที่มา : หนังสือ ประวัติ พระครูสุทธิธรรมรังษี หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง

          วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อำเภอสามโคก จังหวัดประทุมธานี

ข่าวโดย :  กิตติ ทีนิวส์  / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์