- 02 ก.พ. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
เป็นที่ทราบและเห็นกันอยู่ทั่วไปว่า หากพูดถึงวงเวียนส่วนใหญ่จะมีการสร้างเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดหรือสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ แต่หากใครขับรถสัญจรผ่านไปบริเวณสี่แยกบ้านหนองปรือ ตำบลสวายจีก อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ก็จะพบกับสิ่งที่แตกต่างออกไป เพราะจะได้พบรูปปั้นยักษ์ตา สูงประมาณ 4 เมตรตั้งเป็นวงเวียนอยู่กลางสี่แยกด้านทิศใต้ของวัดหนองปรือ และยักษ์ยายตั้งอยู่ทิศเหนือของวัด
ทั้งนี้ ยักษ์ทั้ง 2 ตนจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน โดยจะมีพวงมาลัย ดอกไม้ ธูปเทียนและเครื่องเซ่นคาวหวานที่ผู้มีคนนำไปกราบไหว้และบนบานสานกล่าวตามความเชื่อว่ายักษ์ตา-ยาย ทั้ง 2 ตนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านที่คอยปกปักษ์รักษาไม่ให้เกิดเหตุร้ายรุนแรงในหมู่บ้าน ขณะที่หลายคนก็ไปกราบไหว้บนบานขอโชคลาภ และขอพรให้ค้าขายดีการงานเจริญก้าวหน้า แม้กระทั่งสอบเข้าเรียนและสอบบรรจุก็ไปกราบไหว้เช่นกัน หลายคนก็สมหวังในสิ่งที่ขอแต่บางคนที่พูดจาหลบหลู่ก็จะมีอันเป็นไปเช่นกันจึงทำให้ชาวบ้านเคารพบูชาและเชื่อว่ายักษ์ตา-ยายทั้ง 2ตนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแต่ละปีก็จะพากันทำพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้เสมอ
โดย น.ส.กุลยา เสรีสงแสง แม่ค้าขายของชำ กล่าวว่าจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านทราบว่าผู้ที่ก่อสร้างรูปปั้นยักษ์ตา-ยาย ทั้ง 2 ตน คือ “หลวงปู่ด่อน” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองปรือ ซึ่งได้มรณภาพไปแล้วโดยยักษ์ตา-ยายสร้างมาแล้วกว่า 80 ปีหลังจากสร้างเสร็จก็ได้อัญเชิญเทวดามาสถิตตามความเชื่อเพื่อให้ปกปักษ์รักษาคุ้มครองภัยอันตรายให้กับหมู่บ้านจากนั้นก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นในหมู่บ้านทำให้ชาวบ้านต่างเคารพบูชา
ด้านนายบุญถึง เพประโคน และนางสวาท วันสารัมย์ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเกิดมาก็เห็นยักษ์ตา-ยาย ทั้ง 2 ตนแล้วซึ่งทราบว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดหนองปรือเป็นผู้ก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านซึ่งเดิมจะตั้งอยู่ริมสระน้ำแต่หลังจากมีความเจริญมากขึ้นก็ถูกย้ายมาตั้งเป็นวงเวียนกลางสี่แยกจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้กราบไหว้ขอพรให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัยนั่นเอง
