"สนธิญาณ" ชี้ !! ซื้อขายตำแหน่งมีจริง รัฐบาลจึงต้องใช้ ม.44 "ปฏิรูปตำรวจ" โดยไม่รอเวลาตามรธน. ม.260 ที่กำหนดไว้

"สนธิญาณ" ชี้ !! ซื้อขายตำแหน่งมีจริง รัฐบาลจึงต้องใช้ ม.44 "ปฏิรูปตำรวจ" โดยไม่รอเวลาตามรธน. ม.260 ที่กำหนดไว้

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : สังคมไทยเราจะสังเกตอย่างหนึ่งได้ว่า ตอนเด็กเวลาเราร้องไห้ ผู้ใหญ่มักจะชอบขู่ว่า เดี๋ยวตำรวจมานะ เกือบทุกบ้านทุกคนขู่อย่างนี้ ทำไมถึงขู่แบบนี้ รู้สึกกันอย่างไร ตำรวจน่ากลัวใช่ไหมถึงต้องขู่ให้หยุดร้อง ตำรวจน่ากลัวน่าจะเป็นเรื่องสำหรับโจรผู้ร้าย ผู้ที่กระทำความผิดกฎหมาย นั่นเป็นภาพลักษณ์ความรู้สึกกันมา ในวงเสวนา เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 60 หัวข้อตำรวจไทยมีไว้ทำอะไร ชื่อประเด็นของคำถามนี้เจ็บปวดครับ คนที่เข้าร่วมเสวนาในวันนั้นต้องถือว่าอยู่ในระดับแถวหน้าของวิชาความรู้ อ.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต, คุณพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ทำข่าวทางด้านยานยนต์, พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรองผู้บังคับการจเรตำรวจ อยู่จเรตำรวจน่าจะรู้ดี ตอนนี้เป็นที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการปฏิรูปตำรวจสภาปฏิรูปตำรวจ, ร.ต.อ.วิเชียร ตันศิริคงคล  ประธานหลักสูตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา ก็มีการอภิปรายกันไปออกความเห็นเรื่อง ตำรวจได้มีพฤติกรรมอะไรอย่างไรต่อสังคมไทย แล้วหลังจากนั้นก็มีโพลตั้งคำถามว่าหน่วยงานไหนของภาครัฐ องค์กรไหนที่ทุจริตกับประชาชนมากที่สุด คุณคิดว่าหน่วยงานรัฐองค์กรไหนที่ก่ออาชญากรรมกับประชาชนมากที่สุด ถ้าเลือกได้คุณอยากให้รัฐบาลปฏิรูปหน่วยงานใด เป็นองค์กรแรก ประชาชนเกลียดหน่วยงานภาครัฐองค์กรใดมากที่สุด คำตอบเสียงส่วนใหญ่บอกว่า ตำรวจ คำถามคือทำไมถึงเกิดคำถามแบบนี้ขึ้น แน่นอนครับคนที่อยู่ในอาชีพตำรวจย่อมสะเทือนใจต่อประเด็นของวงเสวนา ชื่อหัวข้อตั้งกันมาแบบตำรวจไม่มีคุณค่าไม่มีความหมายหรืออย่างไร ถึงเอาประเด็นนี้มาจับเสวนากัน ด้าน พล.ต.อ.จักรทพิย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็ต้องทำหน้าที่ปกป้ององค์กรของตัวเอง ออกมาพูดว่า ทำไมไม่ถามหน่วยงานอื่นบ้างว่ามีไว้ทำไม ทหารทำไมไม่ถามบ้าง หน่วยงานอื่นๆ มีไว้ทำไม ทำไมมาถามแต่ตำรวจ ก็เป็นประเด็นว่า ท่านก็โมโหแล้วเหวี่ยงกลับนักวิชาการที่ออกมาพูดว่า "ดีนักหรือ ตำรวจที่ออกมาพูดนั้นดีนักหรือ รับราชการก็ไม่ไปถึงไหน" ก็เป็นเรื่องที่ ผบ.ตร. ท่านก็ต้องทำหน้าที่ของท่านครับ แต่ในความเป็นจริง ท่านตอบตัวเองได้เลยว่าเป็นคำถามเหมือนกับโพลไหม นี่เป็นเรื่องที่ตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องตระหนัก แน่นอนครับ องค์กรหนึ่งที่อยู่มาได้จนถึงปัจจุบันนี้ ต้องมีคนดีมากกว่าคนไม่ดีถึงอยู่มาได้ ไม่ได้หมายความว่าที่พูดกันอยู่ หรือสิ่งที่ผมกำลังอธิบาย จะหมายความว่าสำนักงานไม่ดี หรือคนใหญ่ในสำนักงานตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ดี แต่ก็มีบ้างที่ไม่ดี แต่สิ่งที่ไม่ดี..ของการเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่ง ความดีความชอบในสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่างหากครับ มีคนเคยพูดว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการซื้อขายตำแหน่งกัน" ก็มีการออกมาปฏิเสธกัน ตำรวจทั้งหลายก็ยัวะกัน ผมถามสักคำครับว่าความจริงท่านก็รู้อยู่แก่ใจใช่หรือไม่ เมื่อก่อนที่ใครจะพูดว่ามีการซื้อขายตำแหน่งก็มีการไล่ฟ้องด้วยนะครับ แต่วันนี้ฟ้องผมไม่ได้ครับ ไม่ใช่ว่าผมยิ่งใหญ่ แต่ผมมีที่อ้างอิง เรากลับมาดูกันว่าโดยข้อเท็จจริง คือพูดกันมากว่า สารวัตรเท่าไหร่ รองผกก.เท่าไหร่ ผกก.เท่าไหร่ รองผู้การฯเท่าไหร่ ผู้การฯเท่าไหร่ รองผบ.เท่าไหร่ ผบ.เท่าไหร่ ไล่เรียงกันมา จะไม่มีความจริงเลยหรือครับในการพูดกันอยู่ ในการเลื่อนชั้นตำแหน่งตั้งแต่เดิม ลูกน้องวิ่งเอาเงินไปให้เพื่อให้เลื่อนตำแหน่ง เดี๋ยวนี้มีวัฒนธรรมใหม่ เจ้านายเอาเงินมาให้ลูกน้องให้ลาออก บางคนเหลืออีก 1 ปี ก็เกษียณแล้ว อยู่ในตำแหน่งรอง ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งผู้บังคับบัญชาหลัก รองคือมีการรับผิดชอบบ้าง แต่ไม่มีโอกาสจะขึ้นตำแหน่งหลักแล้ว ดังนั้นถ้าออกไปจะมีตำแหน่งว่างครับท่านผู้ชม รองผู้การฯออกไป รองผบ.ออกไป รองผกก.ออกไป เจ้านายขอให้ออกนะครับ เมื่อออกไปก็จะว่างอยู่ตำแหน่ง ก็จะมีอัตราอีก 4-5 ตำแหน่งว่างตามมาทันที เพราะถ้าตำแหน่งรองผู้การฯว่าง จะต้องย้ายผกก.ขึ้น ตำแหน่งผกก.ว่าง ย้ายรองผกก.ขึ้น ตำแหน่งรองผกก.ว่าง สารวัตรขึ้นรองผกก. สารวัตรก็ว่าง เห็นไหมครับ ยิงปืนนัดเดียวได้นก 4-5 ตัว ท่านก็บอกว่า สนธิญาณก็พูดเกินไป แต่เป็นที่รับรู้กันครับ เป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถที่ผมจะเอามาพูดเองได้ ฉะนั้นเวลาเราพูดกันถึงเรื่องปฏิรูป เราสังเกตไหมครับว่า กระแสเสียงของประชาชนสิ่งที่นำเสนอ หน่วยงานที่นำเสนอให้ปฏิรูปแห่งแรกคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งข้อเท็จจริง คสช. รู้ครับ แต่เนื่องจากว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติถือเป็นกองทัพที่ 4 ที่ร่วมยึดอำนาจกันมา จะพูดอะไรก็เกรงอกเกรงใจกันอยู่ นี่เป็นความจริง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ลงมือทำ การดำเนินงานการประสานที่เกิดขึ้น เราจึงเห็นว่าในร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 260 ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้มีคณะกรรมาธิการปฏิรูปตำรวจ 1 ชุด เป็นผู้ดำเนินการเมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ซึ่งจะปฏิรูปตำรวจกันกี่ครั้ง ทำไม่สำเร็จสักที ครั้งนี้กำหนดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญเลย ไม่ปฏิรูปก็ไม่ได้ครับ Road Map เหลือปีเศษๆ อย่างไรรัฐธรรมนูญก็ประกาศใช้เลือกตั้ง ปฏิรูปตำรวจถูกไหมครับ คำถามต่อมาว่าทราบไหมครับว่ารัฐบาลจะใช้มาตรา 44 ปฏิรูปตำรวจเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง ก็แสดงว่ามีจริง ถ้าไม่มีจริง คสช. กับรัฐบาลจะดำเนินการปฏิรูปการซื้อขายตำแหน่งกันทำไม ที่ผมบอกว่าเมื่อกี้ผมไม่กลัวถ้าจะฟ้องผม เพราะเวลาใครพูดเรื่องตำแหน่งจะฟ้องทุกที ถ้าฟ้องผมต้องไปฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไปฟ้องอ.วิษณุก่อน ต้องฟ้อง พล.ท.สรรเสริญ โฆษกรัฐบาลก่อน ก็ออกมาพูดกันเป็นเรื่องเป็นราว แจกแจงให้เห็นว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้อ.วิษณุ รองนายกฯ รับแนวทางเพื่อไปดำเนินการตามคำสั่งมาตรา 44 ให้มีกติกาและคำตอบใช้ชัดเจนในการเลื่อนชั้นโยกย้ายตำแหน่ง ไม่ให้เป็นปัญหาเหมือนในอดีตที่ผ่านมา เหมือนที่ฝ่ายการเมืองยั้งอยู่ และมีการสั่งการในเรื่องนี้ลงไป ต้องหาแนวทางสร้างระบบที่ดีที่สุด ชัดเจนครับ อ.วิษณุก็ออกมาพูดยอมรับว่าจะต้องดำเนินการ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ถึงต้องใช้มาตรา 44 ไม่รอรัฐธรรมนูญมาตรา 260 ที่ยังเหลืออีกปีเศษ ซึ่งต้องปฏิรูปตำรวจทั้งระบบอยู่แล้ว แต่รอไม่ได้ครับ เพราะปีที่แล้วผ่านมาโยกย้ายคร่อมมาปีครึ่ง ปีกว่าย้ายคนตายมาอยู่ในตำแหน่งบริหาร ย้ายบริหารซับซ้อนกันจนวุ่นวาย เกิดจากกระบวนการที่ว่า เพราะฉะนั้นวันนี้ท่านผู้ชมดีใจกันได้แล้วว่าสิ่งที่ท่านถามหากำลังจะมาแล้ว และแสดงให้เห็นเหมือนกันว่า สิ่งที่เชียร์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มานั้นไม่ผิดหวัง