ขนหัวลุกทั้งหาด!!! พบศพ "ชาย-หญิงถูกมัดมือมัดเท้า-พันร่างติดกัน" เกยหาดชุมพร-พร้อมจดหมายลาตาย-แต่แม่บอกไม่ใช่ลายมือผู้ตาย ขณะตำรวจยังมึน?!

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

ขนหัวลุกทั้งหาด!!! พบศพ "ชาย-หญิงถูกมัดมือมัดเท้า-พันร่างติดกัน" เกยหาดชุมพร-พร้อมจดหมายลาตาย-แต่แม่บอกไม่ใช่ลายมือคนตาย ขณะ ผบก.ภ.จว.ชุมพร เผยจนท.ยังไม่สรุปคดี ต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานส่วนกลางก่อน

 

วันนี้ (4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีผู้พบศพ "นายวุฒิชัย เนียมมาลา" อายุ 32 ปีพนักงานขับรถร้านขายวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร และ น.ส.จริญา รอดสาย อายุ 25 ปีพนักงานขายหน้าร้านวัสดุก่อสร้างแห่งเดียวกัน ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยหาดทับมะพร้าวหมู่ 4 ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยสภาพศพข้อมือซ้ายฝ่ายหญิงถูกเชือกมัดติดกับข้อมือขวาฝ่ายชายมีเทปกาวขนาดใหญ่พันรอบเอวทั้งสองให้ร่างกายติดกัน ส่วนข้อเท้า 4ข้างของทั้งสองคนก็ถูกเชือกมัดติดกันด้วย ดังที่มีการนำเสนอข่าวไปบ้างแล้วนั้น

 

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำพยานและญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่ายให้ละเอียดที่สุด ส่วนการตรวจสอบวัตถุพยานคือรถยนต์ของนายวุฒิชัยที่ถูกนำไปจอดทิ้งที่ท่าเทียบเรือสะพานปลาบ้านสามเสียมหมู่ 5 ต.นาชะอัง ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ม.ค.และเจ้าหน้าที่พบกระเป๋าเงินของทั้งสองคนที่ทรัพย์สินยังอยู่ครบ สมุดที่ถูกฉีกกระดาษออกเขียนจดหมายลาตาย 1 เล่ม และม้วนเทปขนาดใหญ่ชนิดเดียวกับที่พันอยู่รอบเอวทั้งสองคน จึงสั่งให้ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ชุมพรตรวจหาดีเอ็นเอในรถ และดีเอ็นเอที่โทรศัพท์มือถือของผู้ตายโดยละเอียด เพื่อส่งไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานส่วนกลาง ส่วนจดหมายลาตายที่พบในรถ ซึ่งญาติฝ่ายชายระบุว่าไม่ใช่ลายมือของผู้ตายก็คงต้องส่งไปที่กองพิสูจน์หลักฐานส่วนกลางตรวจสอบด้วยเช่นกัน 

 

 

 

 

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม เพราะต้องรอผลตรวจสอบจากแพทย์นิติเวช และผลการตรวจสอบทางเทคโนโลยีของกองพิสูจน์หลักฐานส่วนกลาง

 

ด้านนางธรรมนูญ เนียมมาลา มารดาของ นายวุฒิชัย  กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์อะไรแล้ว ส่วนลายมือในจดหมายลาตายขอยืนยันว่าไม่ใช่ลายมือของบุตรชายแต่จะเป็นลายมือของ น.ส.จริญา หรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะไม่เคยเห็นลายมือของฝ่ายหญิงมาก่อน

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews
 

ขอบคุณภาพจาก : เดลินิวส์