หมดเวลาแล้ว!! "วิลาศ" ไล่ "เสรี" ผู้ว่ากปภ.พ้นตำแหน่ง เหตุสางทุจริตไม่คืบ ถามหรือไม่กล้าเพราะที่มาไม่โปร่งใส จี้เจ้าตัว-มท1ชี้แจง

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

 

วันนี้ ( 5 ก.พ.)   นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์  แถลงข่าวความคืบหน้าในการติดตามการทุจริตในการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ว่า กำลังอยู่ในสถานะที่ย่ำแย่ทางการเงิน  โดยขณะนี้ต้องนำเงินกู้จากแหล่งต่าง ๆ มาใช้จ่ายในรายการค่าใช้จ่ายประจำ แต่ที่ดูเหมือนกับว่ายังไปได้อยู่ เพราะมีการลงทุนหลายโครงการกว่าหมื่นล้านที่ฝังท่อไว้เฉย ๆ แต่ไม่ได้ผลิตน้ำ ไม่ทำรายได้ อย่างไรก็ตามยังเป็นสินทรัพย์แต่เมื่อเสื่อมสภาพก็จะเจ๊งทันที แต่ในขณะนี้ก็เจ๊งแล้ว ซึ่งตนเคยมีความหวังกับนายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่า กปภ. คนปัจจุบัน เพราะมีภูมิปัญญาด้านวิชาการดี  จึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตเพื่อให้แก้ไขมาโดยตลอดแต่กลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ทั้งที่มีความเสียหายเกิดขึ้นจากการฝังท่อฟรี  อีกทั้งยังคงมีการประมูลต่ออีกที่เขต 3 ซึ่งตนได้ให้ข้อมูลแล้วว่ามีการฮั้วกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหาไม่ส่งพื้นที่เหมือนกับในพื้นที่อื่น ๆ มีการล็อคเสป็คและปัญหาอื่น ๆ ที่เคยเกิดขึ้นเหมือนเดิม จนตนรู้สึกว่านายเสรี ควรพ้นตำแหน่งได้แล้วเพราะครบหกเดือนแล้ว ไม่ได้ทำอะไรนอกจากออกไปเยี่ยมสาขามอบนโยบาย แต่ไม่เคยแก้ปัญหาทุจริต       
        
 

"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ท่านก็รู้ว่ามีการทุจริตแต่ทำไมไม่ทำอะไร ประมาณเดือนเศษที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่การประปาบอกผมว่าไปเจอกับรองผู้ว่าการประปาคนหนึ่งบอกว่าปัญหาที่เคยโดนกล่าวหาไม่มีทางผิดเพราะเจรจากับผู้ว่าต่อรองกันว่าจะไม่ตั้งกรรมการสอบ ขณะเดียวกันเขาจะไม่เล่นผู้ว่าฯ ในเรื่องคุณสมบัติการสมัครผู้ว่าการประปาฯ ผมก็ไม่เชื่อเพราะการสรรหามีกรรมการสรรหา จนกระทั่งสัปดาห์ถัดมาเขามายืนยันว่าเรื่องจริงไปถามรองผู้ว่าอีกคนมาแล้ว ผมก็เริ่มคิดว่าหรือว่าจะจริงเพราะผู้ว่าฯ ก็ไม่สอบจริง ๆ จึงเริ่มตรวจสอบว่าที่พูดกันเป็นไปได้ไหม  เริ่มจากเอกสารเขาบอกว่าผู้ว่าฯไปสมัครเข้ารับการสรรหาโดยเอาเอกสารว่าเคยเป็นผู้บริหารอยู่ที่บริษัทพฤกษาเรียลเอสเตรท ใช้ผลงานว่าเคยบริหารบริษัทนี้เมื่อปี 56 เมื่อตามต่อในช่วงรับการสรรหาคุณสมบัติของผู้เข้ารับการสรรหา กรณีเคยเป็นข้าราชการต้องดำรงตำแหน่งรองอธิบดีหรือเทียบเท่า ถ้าเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจต้องดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่ารองผู้ว่าการฯหรือรองผู้บริหารสูงสุด เช่นเดียวกับเอกชนต้องเป็นรองผู้บริหารสูงสุดของเอกชนและต้องเป็นบริษัทเอกชนที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท  ซึ่งตนไปค้นข้อมูลว่านายเสรีเคยเป็นผู้บริหารเมื่อไหร่ ตำแหน่งอะไรที่พฤกษาเรียลเอสเตรท พบว่าเป็นกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2536 และพ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจลงนามเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2541  หากนำรายได้ช่วงนี้ไปยื่นก็จะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่มีการร้องว่านายเสรีใช้รายได้ของพฤกษาเรียลเอสเตรทในปี 56 ที่มีรายได้ 3.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งนายเสรีไม่ได้เป็นผู้บริหารแล้ว ผมจึงสงสัยว่าตรวจผิดพลาดกันได้อย่างไร นอกจากฮั้วกัน ซึ่งถ้าทำจริงก็ต้องเอาผิดต่อไป" นายวิลาศ กล่าว
 

 

นายวิลาศ กล่าวอีกว่า  ตนได้ตรวจสอบการยื่นเสียภาษีของนายเสรีพบว่า มีการยื่นภาษีในปี 55 อ้างว่ามีรายได้จากบริษัทไดแมกซ์ผลิตสีน้ำมันและองค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะประเทศไทย ส่วนปี 56-58 มีรายได้จากมหาวิทยาลัยรังสิต 2.4-2.6 ล้าน แต่ไม่มีรายได้จากพฤกษาเรียลเอสเตรท อย่างไรก็ตามตนยังไม่ได้กล่าวหาแต่อยากให้ชี้แจงหากไม่ใช่เรื่องจริง  ซึ่งตนได้ทำหนังสือถึงประธานบอร์ดการประปาส่วนภูมิภาคให้ตั้งกรรมการสอบสวนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แถลงให้ประชาชนรับทราบ หากผิดต้องดำเนินการตามกฎหมายเพราะการยื่นเอกสารเท็จมีความผิดทางอาญา และขอข้อมูลเอกสารของนายเสรี โดยจะให้เวลาอีกหนึ่งสัปดาห์หากไม่มีความคืบหน้าจะยื่นหนังสือกล่าวหาให้ปปช.ตรวจสอบว่ามีการยื่นเอกสารเท็จ รวมทั้งเอาผิดบอร์ดที่ไม่ดำเนินการใด ๆ ด้วย ซึ่งตนจะเดินหน้าโดยไม่ยอมเจรจาต่อรองกับใครทั้งสิ้น และขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
         
นายวิลาศ กล่าวต่อว่า ยังพบการทุจริตในโครงการจ้างเหมาก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคที่ กันทราลักษ์และกันทรารมย์ จังหวัดศีรษะเกษ วงเงินกว่า 100 ล้านบาท โดยตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบทั้งสองพื้นที่ พบว่ามีการตรวจรับงาน 27 กันยายน 59 แต่วันนี้ที่กันทรารักษ์และกันทรารมย์ยังไม่ได้ใช้น้ำแม้แต่หยดเดียวอ้างว่าระบบไฟยังไม่เรียบร้อย จึงสงสัยว่าตรวจรับงานได้อย่างไร นอกจากนี้ยังพบพิรุธหลายอย่าง ตั้งแต่ไม่มีการสร้างอาคารทั้งที่หลังคาพัง ประตูปิดไม่ได้ ระบบไฟมีปัญหา และมีการให้เหตุผลว่าต้องขยายกำลังผลิตรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วยข้อมูลที่เกินกว่าความเป็นจริง ถือเป็นการโกงมโหฬาร
         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการแถลงข่าวนายวิลาศ ยังได้นำภาพการลงพื้นที่ที่กันทรลักษณ์ ซึ่งแสดงถึงสภาพปัญหาความไม่พร้อมของโครงการในหลายด้าน แต่กลับมีการตรวจรับงานไปแล้ว มาแสดงต่อสื่อมวลชนเพื่อเป็นหลักฐานอีกด้วย

 

วิทย์ณเมธา  สำนักข่าวทีนิวส์