สหรัฐฯลองของจีนหรือเปล่า!! "สหรัฐฯ" แถลง เกิดการ เผชิญหน้า ขึ้นแล้วในทะเลจีนใต้ ระหว่าง "สหรัฐฯ" กับ "จีน"

ร.อ.เจฟฟื เดวิส โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ว่าเกิดการเผชิญหน้า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว กรณี ของ ร.อ.เจฟฟื เดวิส โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ  ว่าเกิดการเผชิญหน้า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระหว่างเครื่องบินลาดตระเวนปราบเรือดำน้ำ พี-3 โอไรออน ของกองทัพเรือสหรัฐฯ  ซึ่งกำลังปฏิบัติการลาดตระเวนอยู่ในอาณาเขตน่านฟ้าสากลเหนือแนวปะการังสการ์โบโรห์ ในทะเลจีนใต้ กับเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศรุ่น เคเจ-200 ของกองทัพจีน โดยเครื่องบินทั้งสองลำอยู่ห่างกันไม่ถึง 300 เมตร ซึ่งถือว่าเป็น ระยะอันตราย แต่ทางสหรัฐฯ ก็เชื่อว่า เหตุการณ์ ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้น โดยไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด  และนับเป็นครั้งแรก ตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์  ขึ้นมาเป็นผู้นำ สหรัฐฯ ส่วนนักบินของทั้งสองฝ่ายแสดงออกอย่างเป็นมืออาชีพ  ส่งผลให้สามารถร่วมกันควบคุมสถานการณ์ได้ แม้ระยะห่างของเครื่องบินทั้งสองลำถือว่าใกล้กันมากก็ตาม ซึ่งสหรัฐฯ ได้แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้จีน ได้รับทราบแล้ว

 

สหรัฐฯลองของจีนหรือเปล่า!! "สหรัฐฯ" แถลง เกิดการ เผชิญหน้า ขึ้นแล้วในทะเลจีนใต้ ระหว่าง "สหรัฐฯ" กับ "จีน"

 

 

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์สายตรงถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้ให้สัญญาว่า การที่ทางด้านผู้นำจีน ได้ขอให้ยึด ยึดถือตามแนวทางปฏิบัติของหลักการจีนเดียว ที่รัฐบาลสหรัฐฯ นั้นได้ให้การเคารพเสมอมา ตลอดระยะ 4 ทศวรรษ ซึ่งหลักการดังกล่าวนั้น ทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ให้คำมั่นว่าจะยังคงรักษา แนวทางปฎิบัติดังกล่าวต่อไป  นอกจากนั้นแล้ว  ทั้งสองยังได้พูดคุยถึงเรื่อง การฟื้นฟูความสัมพันธ์และยกระกับความร่วมมือในหลายมิติ บรรยากาศของการสนทนาเป็นไปอย่าง อบอุ่นและดั่งมิตร โดยต่างฝ่ายต่างใช้โอกาสนี้กล่าวเชิญกันและกันให้เดินทางเยือนอย่างเป็นทางการด้วย เพื่อจะได้มีการหารือกันอย่างละเอียดและเป็นแบบเต็มคณะต่อไป

นายลู่ คัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงประจำวันพฤหัสบดี ว่ารัฐบาลจีนมีความยินดีและซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้รับสาส์นจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ซึ่งส่งมอบคำอวยพรถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และชาวจีนทุกคน เนื่องในโอกาสวันตรุษจีนที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีการระบุถึง การฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์
 

เพราะก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ดำเนินการส่งสาส์นถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน โดยมีสาระสำคัญคือการขอบคุณต่อการที่ผู้นำจีนแสดงความยินดี ต่อการรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 มกราคม  ที่ผ่านมา และ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ใช้โอกาสเดียวกันนี้ ส่งคำอวยพรปีใหม่แก่ชาวจีนเนื่องในโอกาสวันตรุษจีน พร้อมทั้งแสดงความหวังในการ ฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ กับจีนด้วย 

 

ในขณะที่ ล่าสุดนั้น กระทรวงการต่างประเทศ ของจีน ยังไม่แสดงท่าทีต่อสาส์นฉบับดังกล่าวของผู้นำสหรัฐฯ  โดยเคยเผยว่าทั้งสองประเทศ ติดต่อกันอย่างใกล้ชิด แต่ในรายชื่อผู้นำรัฐบาลที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ สนทนาทางโทรศัพท์ด้วยตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ยังไม่ปรากฏชื่อของผู้นำจีน  ท่ามกลางการจับตาอย่างใกล้ชิดของทุกฝ่าย เกี่ยวกับทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก ว่าจะเป็นไปในแบบใด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โจมตีจีนมาโดยตลอด โดยเฉพาะในเรื่องของการทำการค้า การลงทุน ขนาดที่นักวิจารณ์ นั้นเกรงว่า ทั้งสองจะสู้กันด้วยสงครามการค้า

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์