น้อมกราบด้วยเศียรเกล้า! "หลวงปู่บุญฤทธิ์" อดีตนักเรียนนอกอนาคตไกล เลือกเดินทางธรรมสายกรรมฐาน เพราะเสียงหัวใจ! มาวันนี้103ปียังไม่หยุดภาวนา!

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

          น้อมกราบด้วยเศียรเกล้า! "หลวงปู่บุญฤทธิ์" อดีตนักเรียนนอกอนาคตไกล เลือกเดินทางแห่งธรรมสายกรรมฐาน เพราะเสียงหัวใจ! มาวันนี้ยังไม่เคยหยุดภาวนาจวบจนพรรษา103ปี

น้อมกราบด้วยเศียรเกล้า! "หลวงปู่บุญฤทธิ์" อดีตนักเรียนนอกอนาคตไกล เลือกเดินทางธรรมสายกรรมฐาน เพราะเสียงหัวใจ! มาวันนี้103ปียังไม่หยุดภาวนา! น้อมกราบด้วยเศียรเกล้า! "หลวงปู่บุญฤทธิ์" อดีตนักเรียนนอกอนาคตไกล เลือกเดินทางธรรมสายกรรมฐาน เพราะเสียงหัวใจ! มาวันนี้103ปียังไม่หยุดภาวนา!

          หลวงปู่บุญฤทธิ์ ท่านเป็นบุตรชายของ หลวงพินิจจินเภท และคุณแส นาม เดิมว่า บุญฤทธิ์ จันทรสมบูรณ์ ท่านเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ (แต่ในทะเบียนสำมะโนครัว ได้ลงไว้ว่าเป็นวันที่ 1 เมษายน 2459 ) ณ ตำบลท่าอิฐ อ.อุตรดิตถ์ จ.พิชัยดาบหัก ซึ่งเรียกกันในสมัยนั้น ต่อมาทางราชการได้เปลี่ยนชื่อใหม่ โดยตั้งให้ อ.พิชัยดาบหัก ขึ้นเป็นจังหวัดอุตรดิตถ์ และใช้เป็นชื่อทางการมาจนทุกวันนี้

น้อมกราบด้วยเศียรเกล้า! "หลวงปู่บุญฤทธิ์" อดีตนักเรียนนอกอนาคตไกล เลือกเดินทางธรรมสายกรรมฐาน เพราะเสียงหัวใจ! มาวันนี้103ปียังไม่หยุดภาวนา!

            หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต ท่านศึกษาเล่าเรียนมาระดับสูงจากต่างประเทศ มีความรู้ดีทั้งภาษาฝรั่งเศส และภาษาอังกฤษ เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาท่านมีโอกาสได้อ่าน หนังสือคำสอนทางพุทธศาสนาเป็นภาษาฝรั่งเศส หลวงปู่พบว่า เขาอธิบายดีมาก มีคำพูดคำโวหาร ก็เข้าใจดี เหมือนกับอ่านวิสุทธิมรรค แต่เป็นเหตุผลภาษาธรรมดาๆ และก็เข้าใจง่าย นั่นจึงทำให้ท่านสนใจในพุทธศาสนาทางเรื่องของการปฏิบัติกรรมฐานมากกว่า เพราะคำสอนสามารถหาอ่านได้ตามหนังสือทั่วไป เมื่อจบมาแล้วท่านได้ทำงานในกระทรวง และถูกย้ายให้ไปประจำอยู่ที่จังหวัดหนองคาย ทำให้ท่านได้เข้าสู่ทางธรรม ดังที่ท่านเล่าให้ฟัง ดังนี้

              “ครั้งนั้น อาตมาทำงานอยู่ที่กระทรวงริมคลองหลอดนี่แหละ ทำงานอยู่ปีกว่า นั่งทำงานชั้นบนหน้าห้องปลัดกระทรวง ต่อมาผู้ใหญ่สั่งย้ายออกไปอยู่ที่หนองคาย

ก็ตอนที่ส่งไปจังหวัดหนองคายนี่แหละ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้น ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ นี้คงไม่ได้บวชหรอก เหตุเพราะไม่เจอพระดี หรือไม่ก็คงตายไปแล้วมั้ง”

 

               เมื่อหลวงปู่ได้อาศัยอยู่ที่นั้น เช้าวันหนึ่งมองเห็นพระออกบิณฑบาต ก็ไปยืนมองดู คิดว่า “เขามาบวชกันทำไม ?”

          ขณะยืนปลงมองดูพระท่านออกรับบิณฑบาตอยู่ ก็คิดไปต่างๆ นานา-ท่านว่าเป็นเพราะท่านยังโง่ ไม่รู้ความเป็นจริงอย่างนั้น ก็เพราะว่าแรกๆ มันไม่คิดจะบวชอย่างนี้ ไม่เคยคิดเลย พระพุทธศาสนาก็เรียนรู้อยู่ มิใช่ว่าไม่รู้หลักธรรม

น้อมกราบด้วยเศียรเกล้า! "หลวงปู่บุญฤทธิ์" อดีตนักเรียนนอกอนาคตไกล เลือกเดินทางธรรมสายกรรมฐาน เพราะเสียงหัวใจ! มาวันนี้103ปียังไม่หยุดภาวนา!

            แต่แล้วเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น! ในขณะมองดูพระภิกษุรับบาตรอยู่นั้นภายในตัวของท่านเกิดมีเสียงกระซิบเสียงหนึ่งขึ้น

             โดยหลวงปู่บุญฤทธิ์เรียกเสียงนั้นว่า สังหรณ์ อันเป็นสิ่งที่เกิดได้เฉพาะบางคนเท่านั้น ซึ่งในพระพุทธศาสนาจัดว่าเป็นผู้มีอุปนิสัยแต่ปางก่อน และเสียงกระซิบนั้นบอกว่า

 

ถ้าเราบวชแล้วก็จะไม่สึก !”

 

มันแย้งกับความคิดครั้งแรก เมื่อมองดูพระภิกษุสงฆ์ออกรับบิณฑบาตว่า เขามาบวชกันทำไม ?”

น้อมกราบด้วยเศียรเกล้า! "หลวงปู่บุญฤทธิ์" อดีตนักเรียนนอกอนาคตไกล เลือกเดินทางธรรมสายกรรมฐาน เพราะเสียงหัวใจ! มาวันนี้103ปียังไม่หยุดภาวนา!

( หลวงปู่ลี กุสลธโร กับ หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต )

          ปี ๒๔๘๙ หลวงปู่บุญฤทธิ์ ตัดสินใจ สละชีวิตราชการตั้งแต่ยังหนุ่มแน่น นำตัวเข้าบวช ณ วัดศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เมื่อบวชแล้วท่านก็แสวงหาครูอาจารย์ผู้สอนกรรมฐาน  หลวงปู่เมตตาเล่าให้ฟังว่า

อาตมาเคยเห็นพระธุดงค์แบกกลดบริขาร เดินไปอย่างสงบ มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ ทั้งสายตาและกิริยาที่เดินจึงทำให้เห็นภาพประทับใจ

         ต่อมาเมื่อได้บวชแล้วได้ ๓ พรรษา อาตมาก็เดินทางขึ้นภาคเหนือ ไปอยู่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นปี พ.ศ. ๒๔๙๓ หลังจากถวายเพลิงศพหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต แล้ว

           ตอนไปภาคเหนือนั้น อาตมาอยากจะออกป่าเดินธุดงค์เหลือเกิน ได้ยินพระรุ่นพี่ท่านเล่าอย่างนั้น เล่าอย่างนี้ พูดคุยในเรื่องจิตเรื่องธรรม ก็ทำให้จิตใจฮึกเหิมใหญ่ แต่ก็ยังไม่ได้ออกธุดงค์สักครั้งเดียว

         ก็บังเอิญได้มาพบครูอาจารย์เข้าอีก วันนั้นเป็นวันวิสาขบูชาได้ยินเพื่อนพระด้วยกันบอกว่า

           “คุณอยากจะเดินธุดงค์ คุณควรไปเห็นปฏิปทาของครูบาอาจารย์เสียก่อน วันนี้ท่านจะมาชุมนุมกันที่วัดเจดีย์หลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

พอได้ยินแค่นี้ ก็ดีใจมาก ไม่รอช้า รีบเร่งไปเลยทีเดียว เวลานั้นจิตใจมันมีความเลื่อมใสศรัทธามาก

เมื่อเดินทางไปถึงก็มองเห็นภาพประทับใจเข้าอีก โอ ! น้ำตาคลอเลยทีเดียว

           พระป่าครูอาจารย์ ท่านมาประชุมกันมากมาย ไม่ได้นัดหมายกันหรอก ท่านมาของท่านเองถึง ๙๗ องค์ นั่งเรียงรายกันเต็มลานวัดนั้น มองแล้วมันชื่นตาชื่นใจ นับเป็นมงคลแก่ตนเองมาก

          ช่วงนั้นหลวงปู่บุญฤทธิ์ ยังไม่รู้จักพระกรรมฐาน จึงสอบถามพระด้วยกันว่าแต่ละองค์คือใคร ซึ่งท่านได้พบทั้งหลงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ และไปสะกิดใจที่หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ซึ่งได้รับคำบอกเล่าว่า เจอหลวงปู่ชอบได้ยาก เพราะท่านมีธุดงควัตรที่เคร่งครัด หาตัวท่านยาก และยังเป็นพระผู้ทรงอภิญญาสูงยิ่งรูปหนึ่ง...

             เมื่อหลวงปู่บุญฤทธิ์ได้ทราบดังนั้น จึงเกิดศรัทธา ด้วยอยากจะธุดงค์และอยากได้อภิญญาเช่นหลวงปู่ชอบ เนื่องจากหลวงปู่สนใจในเรื่องของการปฏิบัติมาก จึงดั้นด้นเดินทางตามหาหลวงปู่ชอบ จนพบและขอฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อเรียนธรรมะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

น้อมกราบด้วยเศียรเกล้า! "หลวงปู่บุญฤทธิ์" อดีตนักเรียนนอกอนาคตไกล เลือกเดินทางธรรมสายกรรมฐาน เพราะเสียงหัวใจ! มาวันนี้103ปียังไม่หยุดภาวนา!

 

อ่านเรื่องราวการภาวนาของหลวงปู่บุญฤทธิ์และหลวงปู่ชอบได้ที่นี่

 "หลวงปู่บุญฤทธิ์"ขอฝึกภาวนาอยู่กับ"หลวงปู่ชอบ" ที่ผาแด่นแดนทุรกันดารจนเฉียดตาย!

ผจญภัยกลางป่า...ที่ผาแด่น ! "หลวงปู่บุญฤทธิ์" ได้ยินเสียงพญานาค! เมื่อครั้งไปภาวนากับ"หลวงปู่ชอบ"

 

มาถึงวันนี้ หลวงปู่บุญฤทธิ์ ยังคงครองชีวิตใต้ร่มกาสาวพักตร์ ได้โดยมิมีด่างพร้อย จวบจนอายุถึง 103 ปี

ขอเชิญร่วมงาน อายุวัฒนมงคล 103 ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์ อ่านรายละเอียด คลิก

 

 

จินต์จุฑา รายงาน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=9076