- 16 ก.พ. 2560
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
(เบื้องต้น) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.08 น. เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนกำลังพลเข้าสู่วัดพระธรรมกาย ทางประตู 8 แล้ว ในขณะที่มีกำลังพล รออยู่ใกล้รั้ว อีกส่วนหนึ่ง
11.08 เจ้าหน้าที่เคลื่อนพลเข้าสู่ #วัดพระธรรมกาย ทางประตู 8 ขณะที่มีกำลังพล รออยู่ใกล้รั้ว อีกส่วนหนึ่ง #PPTVHD36 pic.twitter.com/D9H67MDDD5
— Aticha.S (@Aticha_pptv) February 16, 2017
ขณะที่ พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ถึง กรณีที่รัฐบาลออกคำสั่งใช้ ม.44 ประกาศให้วัดพระธรรมกายเป็นเขตควบคุมพิเศษ ว่า การดำเนินการนั้น เป็นคำสั่งการบูรณาการการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และทางตำรวจ เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ส่วนกำลังทหารนั้น จะดูแลพื้นที่โดยรอบด้านการอำนวยความสะดวก ให้กับผู้ที่ต้องการเดินทางออกจากวัดให้เกิดความเรียบร้อย รวมทั้งอำนวยความสะดวกการจราจรไม่ให้เกิดความวุ่นวายจนเกินไป ทั้งนี้การออกประกาศดังกล่าว ที่ผ่านมา มีหลายฝ่ายกดดันรัฐบาลให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง กับผู้ที่ถูกออกหมายจับ และมองว่าเป็นความล้มเหลวของการบัวคับใช้กฎหมาย จึงเป็นที่มาของของการออกคำสั่งตาม ม.44 เพราะการดำเนินการของเจ้าหน้าที่กับผู้ที่ถูกออกหมายจับที่อยู่ภายในวัดพระธรรมกายเป็นเรื่องยากเพราะเป็นเขตวัด และมีพุทธบริษัท ที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นโล่ในการกำบัง หากเจ้าหน้าที่จะเดินทางเข้าไปจับกุมผู้ที่ถูกออกหมายจับก็เกรงว่าจะมีผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์จนทำให้เกิดการสูญเสียต่อพี่น้องประชาชน ดังนั้นการออกกฎหมาย ตาม ม.44 ดังกล่าว จะเป็นการกำหนดเขตพื้นที่วัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ควบคุม ที่ประชาชนจะไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ถ้าไม่เกี่ยวข้องในภารกิจในขณะนั้น ส่วนคนที่อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว หากเจ้าหน้าที่ขอให้ออกนอกพื้นที่ก็ต้องออกมา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ยังสามารถควบคุม สาธารนูปโภค น้ำ ไฟ และอากาศยานไร้คนขับ ทั้งนี้การออก ม.44 เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในวัดธรรมกายได้โดยไม่มีประชาชนเข้ามาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ใจการปฏิบัติงานในการดำเนินการกับผู้ที่ออกหมายจับ
ทั้งนี้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าหากประชาชนให้ความร่วมมือตามประกาศคำสั่งนี้จะทำให้การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ไปด้วยความเรียบร้อย หากมีผู้หนุ่ง ผู้ใด จัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ก็จะถูกดำเนินการตามความผิดทางอาญาต่อไป
ส่วนขัอกังวลของการออกคำสั่งนี้ จะถูกมองว่า รัฐบาลทำเกินกว่าเหตุรึเปล่านั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ก็มีการดำเนินการทางกฎหมายเป็นเรื่องๆ แต่การดำเนินการที่ต้องเข้าไปภายมนวัดต้องผ่านประชาชนที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา แต่ขาดความรู้ ข้อมูลข้อเท็จจริงจะเป็นโล่กำบัง และอาจจะมีผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้น ทั้งนี้เพราะกฎหมายปกติไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ ท่านนายกรัฐมนตรีจึงมีการ ออกคำสั่งตาม ม.44 ในฐานะหัวหน้า คสช. บูรณาการการทำงานเพื่อให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ และเต้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ที่โดยไม่ถูกจัดขวาง หากไม่มีประชาชนอยู่ในพื้นที่ ผู้ที่ไม่หวังดีก็ไม่สามารถทำสิ่งหนึ่ง สิ่งใด ให้เกิดความจัดแย้งได้ โดยเฉพาะการกระทบกระทั่วระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน
อย่างไรก็ดีโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าพระธัมมชัยโย หากท่านใช้ดุลพินิจ พิจารณาด้านข้อกฎหมาย คงจะไม่ทำให้พุทธบริษัทได้รับความเดือดร้อย ซึ่งจริงๆทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตัดสินว่า ท่านเป็นผู้ถูกหรือผิด แต่เป็นความต้องการให้ท่านเข้าสู้กระบวนการยุติธรรม จะถูก หรือ ผิด ให้ศาละป็นผู้ตัดสิน
ส่วนรัฐบาลจะมั่นใจรึเปล่าว่าทางพระธัมมชัยโย จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมรึไม่ทาง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มั่นใจในดุลพินิจของท่าน แต่ในทางเจ้าหน้าที่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าก็สามารถบัวคับใช้กฎหมายได้ทุกพื้นที่ในประเทศไทย
เรียบเรียงโดย บุญชัย ธนะไพรินทร์