ลากไส้เน่า"ธรรมกาย" แง้มวิมานเสพสุข-ฮาเร็มแก๊งจีวรจานบิน สุดท้ายสวรรค์ล่ม เพราะถูก"ม.44" ยุค "นายกฯ ลุงตู่" หวดใส่โครมใหญ่

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

"คนคลองเดื่อ" สำนักข่าว Tnews
 

ดูเหมือนการตรวจค้นธรรมกายรอบใหม่ด้วยอำนาจ ม.44 ของ คสช. ครั้งนี้เผยให้เห็นตับไตไส้พุงของ "มหาอาณาจักรพุทธพาณิชย์แสนล้าน" ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ออกมาชนิดคนไทยต้องตะลึง เพราะหลายคนดูแล้วนึกไม่ออกว่านี่เป็นวัดไปได้ยังไง หากน่าจะเป็นรัฐอิสระส่วนตัวของผู้มีอิทธิพลสักคนในบ้านนี้เมืองนี้ เพราะสิ่งที่พบเจอนั้นหลายสิ่งหลายอย่างเหนือคาดเกินบรรยาย โดยเฉพาะอาคารดาวส์ดึงที่อ้างว่าเป็นที่รักษา "พระเดชพระคุณหลวงพ่อ" ที่พบเจอเครื่อง Hyperbaric Chamber สีฟ้า รูปทรงเหมือนแคปซูล ซึ่งจนวันนี้ยังถกเถียงกันว่า...มีไว้ทำไม...ไว้ทำ "เบบี้เฟซ" หรือ...รักษาตัวทางการแพทย์


นอกจากนี้ ยังพบเจอห้องฟิตเนส ข้าวของเครื่องใช้จำพวกเครื่องสำอางค์ผู้หญิง...ที่ไม่ควรพบเจอในวัดอีกมากมาย...


อย่างไรก็ดี เหนืออื่นใดการตรวจค้นครั้งนี้ สังคมไทยได้พบความจริงว่า ข้ออ้างที่ฝ่ายธัมมชโยบอกว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อป่วยหนัก เดินไม่ได้ เคลื่อนย้ายไม่ได้เพราะจะอันตรายถึงชีวิตนั้น เป็นคำเท็จ-ลวงโลกแบบ 18 มงกุฏยังอาย เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น กลับปรากฏว่าไม่พบ "ธัมมชโย" ทิ้งไว้แต่เพียงเตียง หมอน ผ้าห่ม และเครื่อง Hyperbaric Chamber ที่ว่าให้ดูต่างหน้า

นอกจากนี้ ยังพบว่าลูกศิษย์ของธัมมชโยบางคน ดูแคลนสติปัญญาคนไทยทั้งชาติ โดยนายอัยย์ เพชรทอง อ้างว่า หลวงพ่อยังอยู่ที่วัด ท่านมีอิทธิฤทธิ์ มีพุทธานุภาพวิเศษ ทำให้มองไม่เห็นท่าน ทำให้มีอะไรบังตา ไม่ให้เห็น หรือหากเห็นก็เห็นเป็นอย่างอื่น หรือเจอตัวแล้วยกไม่ไหว เพราะหนักมาก เหมือนหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

ขณะพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นพระยังมุสาพูดทำนองเดียวกันว่า “พระธัมมชโยอยู่ในใจและอยู่ในยูทูบ”

อย่างไรก็ตาม การเสพสุขของสาวกธรรมกาย ดูจะเหมือนสวรรค์ล่มชั่วข้ามคืน เมื่อคราวนี้ รัฐบาล คสช. ไม่ยอมหยุดแบบตรวจแล้วก็แล้วกันเหมือน 2 ครั้งแรก คราวนี้ปูพรมตรวจค้นหา "หลวงพ่อนะจ๊ะ" ละเอียดยิบราวเอ็กซเรย์ทุกตารางนิ้ว และวันนี้ก็ล่วงเข้ามาเป็นวันที่ 4 ที่ 5 แล้ว แต่ดูเหมือนก้าวย่างของ คสช.ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด


และถึงแม้ยังไม่เจอตัวพระเดชพระคุณฯ แต่ก็เล่นเอา "ธรรมกาย" สวรรค์ล่มไปชั่วข้ามคืนทีเดียว เพราะฝ่ายบ้านเมืองตัดสินใจอายัด "ตัวตึกดาวดึงส์" อันเป็นเสมือนฮาเร็มส่วนตัวของหลวงพ่อนะจ๊ะทั้งหลังเอาไว้เพื่อดำเนินคดี

โดย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษและรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้อรรถาธิบายถึงเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า

 

โดย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษและรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้อรรถาธิบายถึงเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า


"ในส่วนข้อสงสัยเกี่ยวกับห้องพักที่ใช้รักษาอาการอาพาธของพระธัมมชโย ที่อาคารดาวดึงส์ พบอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดหนึ่งคือตู้ไฮเปอร์แบริค (Hyperbaric chamber) เป็นเครื่องให้ออกซิเจนภายใต้สภาพความกดบรรยากาศสูง ซึ่งใช้รักษาผู้ประสบเหตุจากการดำน้ำ จึงต้องมีเหตุจำเป็นในการ "อายัดอาคารดาวดึงส์ไว้" พร้อมทั้งควบคุมพื้นที่ห้ามมิให้ผู้ใดเข้า-ออกหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ และประสานขอให้ผู้เชี่ยวชาญได้เข้าตรวจสอบการใช้ตู้ดังกล่าว พร้อมคงกำลังบางส่วนไว้รักษาพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันภัยแทรกซ้อนในพื้นที่สำคัญ" พ.ต.ต.วรณัน ระบุ


 

ดูเหมือนคราวนี้ "อาณาจักรธรรมกาย" จะพบคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อตัวจริงแล้ว ...และบอกเลย...หากยิ่งดื้อแพ่ง...ทางวัดมีแต่ยิ่งเสียหาย...เพราะนั่นเท่ากับประจาน "ความเน่าใน" ของตัวเองให้สังคมได้เห็น...และคราวนี้ไม่ว่า "ธัมมชโย" จะยังอยู่หรือไม่...ก็ไม่สำคัญอีกแล้ว

 

ขอบคุณข้อเขียน : "กวนน้ำให้ใส" จากแนวหน้า

 

ภาพ : สยามดารา