"สนธิญาณ" ชี้!! ระวังยุทธศาสตร์จุดไฟกองเล็ก ๆ ล้ม"คสช."เดินหน้าแล้ว กรณี"ธรรมกาย" เป็นหนึ่งในแผน ยันรัฐฯถอยโรงไฟฟ้าเป็นเรื่องดี

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

"สนธิญาณ" ชี้!! ระวังยุทธศาสตร์จุดไฟกองเล็ก ๆ ล้ม"คสช."เดินหน้าแล้ว กรณี"ธรรมกาย" เป็นหนึ่งในแผน ยันรัฐฯถอยโรงไฟฟ้าเป็นเรื่องดี เพราะปิดเงื่อนไขการแทรกซ้อน

               สนธิญาณ : ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการเรียนกับท่านผู้ชมว่าจะขอถอดรหัสต่อเนื่องจากที่คุณยุคลได้ถอดมาแล้วนะครับ เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน ต้องขออนุญาตเรียนแบบนี้นะครับว่า เริ่มจากม็อบไม่เอาถ่านที่มาชุมนุมกันจากกระบี่เนี่ยนะครับ เมื่อกี้คุณยุคลถอดรหัสจากปรากฎการณ์ที่มีกลุ่มคนซึ่งไม่ได้มาจากมวลชนที่ต่อต้านเรื่องโรงถ่านหิน โรงงานไฟฟ้าถ่านหินที่กระบี่จริงๆนะครับ ความจริงตัวม็อบจำนวนเนี่ยไม่เท่าไหร่หรอกครับในครั้งนี้เนี่ย ปรากฎการณ์ที่เราเห็นคือปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียล ก็เป็นแบบเดียวกันนะครับ ในม็อบมีคนอีกกลุ่มนึงที่มีเป้าหมายในการล้มรัฐบาลเข้าไปสอดแทรกอยู่ ผมย้ำนะครับ เป็นกลุ่มคนที่ต้องการจะล้มรัฐบาลเข้าไปสอดแทรกอยู่ ในโลกโซเชียล กลุ่มคนที่ต้องการล้มรัฐบาลนะครับก็ขยายผลจากกรณีโรงไฟฟ้านี่ทันทีนะครับ คนที่ไม่เอาถ่านในโลกโซเชียลหรือในที่ชุมนุมนะครับอาจจะมองว่า อะไร เกินไปหรือเปล่า นะ คนพวกนี้เข้ามาแฝงตัวขนาดนั้นเลยเหรอ แน่นอนครับ แกนนำก็ยอมรับว่ามีบุคคลบางส่วน แต่ถ้าเราเห็นในโลกโซเชียลเนี่ยจะชัดเจน คุณยุคล เรื่องนี้กับเรื่องธรรมกายก็เป็นเรื่องเดียวกัน ย้ำนะครับ เรื่องนี้กับเรื่องธรรมกายก็เป็นเรื่องเดียวกัน เชื่อไหมล่ะครับว่า พลเอกประยุทธ์ คือผู้ที่ขัดขวางกระบวนการการเปลี่ยนแปลง การปกครอง ซึ่งคนกลุ่มนึงคิดและต้องการให้เป็น ชัดเจนว่าคนกลุ่มนี้ ตอกย้ำนะครับ ต้องการใช้ระบบสาธารณรัฐเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครองประเทศไทยอย่างพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน คนกลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาอย่างเปิดเผย ย้ำนะครับ อย่างเปิดเผย ในแง่มุมของสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าสนับสนุนผ่านทางทูต ตั้งแต่คนก่อนไปจนถึงคนปัจจุบัน เพราะยุทธศาสตร์ชาติของพลเอกประยุทธ์ขัดขวางกลุ่มผลประโยชน์ ทุนสามานย์ และนโยบายระหว่างประเทศ ของสหรัฐอเมริกาที่กำลังเดินอยู่ ถึงแม้จะเปลี่ยนประธานาธิปดีไปแล้วก็ตามแต่ แต่ยุทธศาสตร์ของอเมริกาไม่เปลี่ยนอย่างแน่นอน อาจจะมีการปรับขยับขยายในการที่จะทำให้อเมริกาแข็งแรงขึ้น เพราะอะไรครับ เพราะยุทธศาสตร์ของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาล้วนอยู่บนผลประโยชน์ของกลุ่มทุนทั้งสิ้น แม้ทรัมป์จะประกาศว่าจะต้องกลับมาลงทุนในประเทศ แต่โอกาสที่จะต้านทานกลุ่มทุนนั้นเป็นไปได้ยาก ดังนั้นเนี่ยนะครับ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์คือปัจจัยหลักแห่งการขัดขวางเส้นทางนี้ คสช.และกองทัพ คือปัจจัยหลักในการขัดขวางเส้นทางนี้ และจากแนวทางในรัฐธรรมนูญฉบับประชามติ ยังเปิดช่องเปิดทางให้พลเอกประยุทธ์เข้ามาได้อีก ดังนั้นดูหนทางสำหรับกลุ่มนี้แล้วค่อนข้างจะมืดมน สิ่งเดียวที่จะทำได้ก็คือการก่อให้เกิดความวุ่นวายจนนำพาไปสู่สงครามทางการเมือง การจะนำพาไปสู่ทิศทางอย่างนั้นได้ ทำเฉพาะกลุ่มพลังเดิม จะเป็น นปช.หรือพรรคเพื่อไทยทำไม่ได้แล้ว แน่นอนครับ เพราะสังคมปฏิเสธและไม่ยอมรับภาพของการแบ่งฝังแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน สิ่งที่จะทำได้ก็คือสร้างจุดความขัดแย้งย่อยๆ แต่ละจุดๆๆ ให้เกิดขึ้นทั้งประเทศ ย้ำนะครับ จุดไฟกองใหญ่ นปช. มวลชนคนเสื้อแดง ไม่ได้แล้ว ประชาชนไม่รับ แต่สิ่งที่จะทำได้ก็คือมีการจุดไฟตรงไหนก็ไปหย่อน ไปเติมเชื้อ น้ำมันเข้าไป มันอาจจะถูกจุดขึ้นเป็นสิบจุดร้อยจุดทั่วประเทศ ในเรื่องเล็กๆน้อย แต่ท้ายที่สุดไฟก็จะลามเรียง จนมาต่อเป็นกองเดียวกัน นี่คือยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเดี๋ยวทีนิวส์จะนำมาเปิดเผยและแจกแจงให้เห็นถึงวิธีการที่จะสนับสนุนให้เกิดการโค่นล้มรัฐบาลอันเป็นปฏิปักษ์และขัดขวางทางแห่งผลประโยชน์ของเขา เชื่อมโยงกับกลุ่มผลประโยชน์ในประเทศ ที่มีผลประโยชน์สอดคล้องกัน วัดพระธรรมกายเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์นี้ วันนี้แตกหักแน่นอนครับ ไม่ได้หมายถึงวันวันนี้นะครับ เหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องนำพาไปสู่การแตกหัก คสช. ใช้มาตรา 44 แล้ว ใช้องคาพยพของอำนาจรัฐทุกทิศทุกทางเข้าไปแล้ว ใช้มาตราการสุดท้ายที่ดีเอสไอประกาศให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากวัด และให้คนที่อยู่ในวัดไม่ว่าจะคนธรรมดาหรือพระ ต้องมารายงานตัวแสดงถิ่นที่อยู่ ปรากฎว่าบรรดาฆราวาสและพระทั้งหลายที่เป็นแกนหลักในการต่อสู้ไม่ยอม เพราะฉะนั้นคำประกาศของดีเอสไอตามคำสั่งที่ 14 ได้รับการปฏิบัติแล้วเมื่อบ่ายสามของวันที่ผ่านมา เรียกซ้ำให้ 14 คนมารายงานตัวแล้วผลเป็น 0 ไม่มีใครมารายงานตัว อำนาจรัฐไม่มีความหมาย กฎหมายไม่มีความหมาย ถ้ายังยืนอยู่ไปแบบนี้ คสช. ก็จะไม่มีความหมาย รัฐบาลก็จะไม่มีความหมาย ไฟกองนี้ก็จะถูกจุดรอกองอื่นๆต่อไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ ดังนั้นนะครับสิ่งที่ผู้เคลื่อนไหวไม่ว่าเรื่องหนึ่งเรื่องใด แน่นอนล่ะครับ ต้องแยกแยะ ถ้าเพียงคิดจะชนะคะคานกันในเรื่องเฉพาะหน้าโดยไม่ใช้เหตุผลและข้อเท็จจริงมายันมาสู้กันมันก็จะกลายมาเป็นหนึ่งในกองไฟที่ว่า พูดก็เหมือนอวยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ก็ต้องพิจารณาดูว่าสิ่งที่ทำ มีเบื้องหลังแอบแฝง ซ่อนเร้นแบบที่นักการเมืองเคยทำหรือทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ อันนี้ดูกันได้ครับ สิ่งเหล่านี้ปิดไม่มิด ดังนั้นการตัดสินใจถอยของรัฐบาล ซึ่งเป็นการถอยตามหลักการ ถูกต้องนะครับในการที่ทำ EHIA กับ EIA ใหม่เนี่ย คำตอบที่ได้จากฝ่ายผู้ชุมนุมก็เป็นคำตอบที่น่าพอใจนะครับ และขอให้ทุกฝ่ายสรุปบนเรียนไว้นะครับ ว่ายุทธศาสตร์จุดไฟกองเล็กให้เต็มแผ่นดิน เพื่อรอให้ไฟลามเลียประสานกัน เป็นยุทธศาสตร์ที่กำลังเดินอยู่ในขณะนี้ เพราะถ้าสกัดกั้นพลเอกประยุทธ์และกองทัพได้ เลือกตั้งครั้งหน้า แน่นอนครับยังไงพรรคเพื่อไทยก็ยังจะชนะและสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน