หลักฐานแจ่มขนาดนี้!! "ชูชาติ" อดีตผุ้พิพากษาศาลฎีกา ชี้เหตุคนห่มเหลืองชิงกล้องจนท.ดีเอสไอผิดอาญาชัด พวกทำร้ายตร.ก็ด้วยเลิกอ้างเป็นสงฆ์เสียที

จากกรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ทั้งทหาร ตำรวจ โดยวันนี้ถือว่าเป็นวันที่ 6 แล้วที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายเพื่อดำเนินการจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จนทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ตามมาทั้งเกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และพระลูกศิษย์ธรรมกายนั้น

ล่าสุด นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษา หัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้โพสต์ข้อความแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวใช้ชื่อ "Chuchart Srisaeng" ระบุว่า...

 

 

 

 

.....ดูข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณวัดพระธรรมกายคือ
.....1 เมื่อวานวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2560 ผู้ที่แสดงตนว่าเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาแต่ใช้หน้ากากอนามัยปิดหน้าท่านหนึ่งเข้าไปกอดร่างกายเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอซึ่งเป็นผู้หญิงเพื่อแย่งชิงกล้องถ่ายรูปและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่คนนั้นได้รับบาดเจ็บด้วย อันเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ และพยายามชิงทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296 และมาตรา 339, 80 ตามลำดับ

 

 

 

 

 

.....2 วันนี้ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 8 นาฬิกาเศษ ผู้ที่แสดงตนว่าเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาแต่ใช้หน้ากากอนามัยปิดหน้ากลุ่มหนึ่งและบางท่านใส่แว่นตาดำด้วยร่วมกับประชาชนที่มีหน้ากากอนามัยปิดหน้าเช่นเดียวกัน ได้ร่วมกันใช้กำลังผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าอยู่ที่ประตู 6 และประตู 7 เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปในวัดพระธรรมกาย โดยที่บางท่านได้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ อันเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296

 

 

 

 

 

 

.....พุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนาและยึดถือคำสั่งสอนของพระพุทธองค์เป็นสรณะ ย่อมทราบกันดีว่าพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าวข้างต้นเป็นการกระทำที่ไม่ได้เป็นไปตามพระธรรมวินัยที่พระพุทธองค์ได้บัญญัติไว้และไม่ใช่วัตรปฏิบัติของพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อท่านทั้งหลายดังกล่าวข้างต้นไม่ยอมปฏิบัติตามพระธรรมวินัยรวมทั้งมีการกระทำความผิดต่อกฎหมายอาญาด้วย จึงไม่ควรแสดงตนหรืออ้างว่าเป็นพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาอีกต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

เรียบเรียง : นิตติยา  สำนักข่าวทีนิวส์
ขอบคุณที่มา : Chuchart Srisaeng