- 22 ก.พ. 2560
เคลื่อนเสาเอกและโครงสร้างเหล็กพระเมรุมาศ จากโรงงาน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปท้องสนามหลวง
(วันที่ 22 กพ. 60 ) ขบวนรถบรรทุกโครงเหล็กประกอบพระเมรุมาศ จำนวน 5 คัน เคลื่อนขบวนออกจากโรงงานที่ ต.โพธิ์สามต้น อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมุ่งหน้าสู่ท้องสนามหลวง เเละจะมีการขนย้ายไปจนถึงวันที 24ก.พ. นี้
ขบวนรถบรรทุกโครงเหล็กสำหรับก่อสร้างพระเมรุมาศในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประกอบไปด้วยรถบรรทุกเทเลอร์ขนาดใหญ่ 5 คัน คันแรกนำด้วยรถเทเลอร์บรรทุกเสาโครงเหล็กประกอบเสาเอกพระเมรุมาศ ตามด้วยรถบรรทุกรากฐานรับน้ำหนักพระเมรุมาศ 4 คัน โดยจะเคลื่อนย้ายเหล็กบางส่วนจากโรงงาน ที เฟรม แอนด์ ทรัส ที่ตำบลโพธิ์สามต้น อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปยังท้องสนามหลวง ใช้ฤกษ์เวลา 16.49 น. และจะทยอยเคลื่อนย้ายจนถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เพื่อรองรับพิธียกเสาเอกพระเมรุมาศที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ ฤกษ์ในเวลา 10 โมง 1 นาที โดยมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
สำหรับเส้นทางขนส่งเริ่มจากโรงงานเข้าสู่ถนนสายเอเซีย และเลี้ยวเข้าถนนสาย 347 บางปะหัน-ปทุมธานี จากนั้นจอดรถพักที่ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด บางปะอิน และเวลา 21.00 น. จะเคลื่อนขบวนขึ้นทางด่วนเชียงรากน้อย ลงทางด่วนยมราช ไปยังท้องสนามหลวง
การสร้างพระเมรุมาศครั้งนี้มีขนาดใหญ่ สูงถึง 50.49 เมตร เป็นทรงบุกษก 9 ยอด เทียบความสูงเท่าตึก 18 ชั้น โครงสร้างฐานรากทั้งหมดจึงถูกวิเคราะห์และออกแบบให้มั่นคงปลอดภัยถึง 2 เท่า สามารถรับแรงลมทั้งทางตรงและด้านข้าง ต้านทานแรงสั่นสะเทือน เสาทุกต้นทำด้วยเหล็กกล่องขนาดใหญ่ มีคุณสมบัติรองรับแรงทั้ง 4 ด้านเท่ากัน เมื่อนำงานวิจิตรศิลป์มาติดตั้งไม่ทำให้โครงสร้างพลิ้วไหว สามารถต้านแรงลมบนยอดพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และพระวิสูตรหรือม่านขนาดใหญ่ โดยโครงสร้างหลักใช้เสา 4 ต้น คือ เสาเอก เสาโท เสาต้นที่ 3 และต้นที่ 4 มีขนาดเท่ากันทั้ง 4 ต้น ความสูง 23.5 เมตร หนัก 20 ตัน ซึ่งเสร็จสมบูรณ์แล้ว 100%
ความพิเศษของการวางโครงสร้างครั้งนี้ ทีมวิศวกรกรมศิลปากรออกแบบให้เสาทุกต้นของพระเมรุมาศยึดเข้ากับโครงเหล็กรับเสา หรือซูเปอร์ทรัส ขนาด 16 ตัน ความสูง 1.8 เมตร ยาว 17 เมตร แตกต่างกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยโครงเหล็กรับเสาจะวางบนฐานคอนกรีตยึดด้วยน็อตขนาดใหญ่อีกชั้น แม้จะเป็นการสร้างพระเมรุมาศแบบชั่วคราว หรือแบบน็อกดาวน์ แต่มีความมั่นคงปลอดภัยคงทนสูง
การติดตั้งโครงสร้างเหล็กและเสาพระเมรุมาศตามแผนต้องแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการประกอบงานศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ลงบนพระเมรุมาศ ซึ่งต้องดำเนินงานควบคู่กันให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด การออกแบบโครงสร้างพระเมรุมาศ นอกจากจะก่อสร้างได้รวดเร็ว ยังง่ายต่อการรื้อถอน ซึ่งโครงสร้างเหล็กทั้งหมดสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ทีมผู้จัดทำยึดแนวเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ทุกส่วนอย่างคุ้มค่าที่สุด
ขอบคุณภาพ
Rungrot Kongpiban
สำนักข่าวไทย