“ค่ำแล้ว” เสียงพระเสาวนีย์ของพระบรมราชินีนาถที่ตรัสเบาๆ แต่เพราะยังความห่วงใยต่อประชาชน พระองค์จึงต้องล่าช้ากว่ากำหนดการถึง ๒ ชั่วโมง

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://panyayan.tnews.co.th

ค่ำแล้ว” เสียงพระเสาวนีย์ของพระบรมราชินีนาถที่ตรัสเบาๆ แต่เพราะยังความห่วงใยต่อประชาชน พระองค์จึงต้องล่าช้ากว่ากำหนดการถึง ๒ ชั่วโมง

“ค่ำแล้ว” เสียงพระเสาวนีย์ของพระบรมราชินีนาถที่ตรัสเบาๆ แต่เพราะยังความห่วงใยต่อประชาชน พระองค์จึงต้องล่าช้ากว่ากำหนดการถึง ๒ ชั่วโมง

ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในบุษบกเหนืออุโบสถ วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันพุธที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๘

ภายหลังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามหมายกำหนดการนั้น ทรงนำแผนที่ขึ้นมากางแล้วมีพระราชกระแสกับพระราชวิทยาคม (สมณศักดิ์ในสมัยนั้นของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) ถึงแหล่งน้ำและปัญหาการขาดแคลนน้ำในตำบลกุดพิมานและตำบลใกล้เคียงด้วย แล้วเสด็จพระราชดำเนินทรงฉายภาพไปรอบอุโบสถตามพระราชอัธยาศัย และด้วยความที่ทรงชื่นชอบส่วนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่๙ นั้นทรงชื่นชอบการถ่ายรูปเป็นการส่วนพระองค์มาก และจัดเป็นงานที่ทรงกระทำเสมอเมื่อเสด็จไปในที่ต่างๆ เช่นเดียวกับการเสด็จมาในครั้งนี้

“ค่ำแล้ว” เสียงพระเสาวนีย์ของพระบรมราชินีนาถที่ตรัสเบาๆ แต่เพราะยังความห่วงใยต่อประชาชน พระองค์จึงต้องล่าช้ากว่ากำหนดการถึง ๒ ชั่วโมง

“ค่ำแล้ว” เสียงพระเสาวนีย์ของพระบรมราชินีนาถที่ตรัสเบาๆ แต่เพราะยังความห่วงใยต่อประชาชน พระองค์จึงต้องล่าช้ากว่ากำหนดการถึง ๒ ชั่วโมง

ระหว่างนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขอฉายภาพหลวงพ่อคูณ บนลานประทักษิณอุโบสถ วัดบ้านไร่

หลวงพ่อคูณจึงกล่าวออกไปว่า ถ่ายรูปนี่แสงเข้าตา.. ไม่ได้นะโยม”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสตอบออกไปว่า ไม่มีแสงหรอก หลวงพ่อ”

จากนั้นทรงจัดแต่งจีวรและสังฆาฏิของหลวงพ่อคูณให้เรียบร้อยก่อนทรงฉายภาพหลวงพ่อไว้เป็นที่ระลึก

“ค่ำแล้ว” เสียงพระเสาวนีย์ของพระบรมราชินีนาถที่ตรัสเบาๆ แต่เพราะยังความห่วงใยต่อประชาชน พระองค์จึงต้องล่าช้ากว่ากำหนดการถึง ๒ ชั่วโมง

“ค่ำแล้ว” เสียงพระเสาวนีย์ของพระบรมราชินีนาถที่ตรัสเบาๆ แต่เพราะยังความห่วงใยต่อประชาชน พระองค์จึงต้องล่าช้ากว่ากำหนดการถึง ๒ ชั่วโมง

ท่ามกลางความปลื้มปีตินั้น ทำให้กำหนดการเสด็จพระราชดำเนินกลับล่วงเลยมากว่า ๒ ชั่วโมงเศษ จากเดิมในเวลา ๑๗ นาฬิกา มาเป็นเวลา ๑๙ นาฬิกาเศษ จนทำให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถตรัสเบาๆ กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ค่ำแล้ว” แต่พระองค์ก็ยังคงมีพระราชปฏิสันถารกับหลวงพ่อคูณ แล้วเสด็จฯ เยี่ยมพสกนิกรจนทั่วถึง จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ ซึ่งเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคมลาหลวงพ่อ ในขณะนั้นหลวงพ่อจึงได้จับพระหัตถ์ของพระองค์พร้อมกำหนดจิต ถวายพระพรว่า สุคโตๆๆ”

“ค่ำแล้ว” เสียงพระเสาวนีย์ของพระบรมราชินีนาถที่ตรัสเบาๆ แต่เพราะยังความห่วงใยต่อประชาชน พระองค์จึงต้องล่าช้ากว่ากำหนดการถึง ๒ ชั่วโมง

ที่มา : http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=52058

ที่มาภาพประกอบ : http://www.dhammajak.net/

ข่าวโดย : กิตติทีนิวส์ / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์