ไม่ต้องสมมุติ!!!ย้ายแล้วครูมัดมือมัดตาเด็กอนุบาล ยอมชดใช้ค่าเสียหายหลังโดนพลังโซเชี่ยลจัดหนัก!!แต่เรื่องยังไม่จบเจอตั้งกรรมการสอบ

วันนี้ ( 23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืนหน้าล่าสุด กรณีมีการโพสต์ภาพเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล ถูกครูลงโทษด้วยการใช้เทปกาวมัดมือและปิดตาในโซเชียลมีเดีย ระบุว่า เหตุการณ์เกิดที่โรงเรียนบ้านสำโรง ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจมีการแชร์และแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสำโรง ออกมาชี้แจงว่า เป็นการสั่งสอนเชิงสมมติ ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเด็กแต่อย่างใด พร้อมเตรียมเรียกประชุมทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว นั้น

  ล่าสุด วันนี้(23 ก.พ.60)เวลา 11.00 น.ที่โรงเรียนบ้านสำโรง ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ภายหลัง การประชุมหลายฝ่าย ประกอบด้วย  นายประทักษิณ เครือผือ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสำโรง ผู้ปกครองเด็กหญิง เอ และเด็กหญิง บี (นามสมมุติ) อายุ 5 ขวบ เรียนชั้นอนุบาล 1 ,ครูกอ(นามสมมุติ) ครูชำนาญการ และครูขอ (นามสมมุติ) ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านสำโรง สองคุณครูที่อ้างเป็นการสอนเชิงสมมุติ หากถูกทำโทษ,พร้อมด้วย รอง ผกก.สภ.ชุมพลบุรี ถกเครียดภายในห้องผู้อำนวยการโรงเรียนหลายชั่วโมง โดยห้ามผู้สื่อข่าวทุกสำนัก ที่มารอทำข่าวไม่ให้เข้าร่วมสังเกตการณ์ทุกกรณี

โดยทาง นายประทักษิณ เครือผือ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสำโรง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางโรงเรียนได้มีการประชุมร่วมกันหลายฝ่ายเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย นายณรงค์ เหมือนชาติ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)สุรินทร์ เขต 2 ตัวแทนฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมพลบุรี คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านสำโรง ครูหญิง 2 คน ที่สั่งให้เด็กนักเรียนชั้นมัธยม ใช้เทปกาวปิดตาและมัดมือเด็กนักเรียนหญิงชั้นอนุบาล ทั้ง 2 คน และผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2

โดยในการประชุมกันวันนี้ ครูผู้หญิงทั้ง 2 คน ได้ยอมรับว่า เป็นผู้สั่งให้เด็กนักเรียนกระทำจริง พร้อมได้จ่ายค่าเยียวยาหรือค่าทำขวัญ ให้ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล ทั้ง 2 คน คนละ 20,000 บาท รวมเป็น 40,000 บาท พร้อมทั้งขอย้ายตัวเองออกจากพื้นที่

นายประทักษิณ เครือผือ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสำโรง กล่าวต่อไปอีกว่า อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินเยียวยา และการย้ายออกจากพื้นที่เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เรื่องความผิดทางวินัย ยังต้องดำเนินสวบสวนต่อไป โดย นายณรงค์ เหมือนชาติ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ได้ตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอ เข้ามาสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อลงโทษทางวินัยตามขั้นตอนต่อไป

 

ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์