พูดตอนบ่ายตายตอนค่ำ!!ย้อนไทม์ไลน์-หรือรู้ล่วงหน้า? "หากมีคนตายใครรับผิดชอบ"เวิร์ดดิ้งนี้พระสนิทวงศ์-ลุงอนวัชพูดตรงกันแฉศิษย์รู้ก่อนจะมีคนตาย

       จากกรณีนายอนวัช  ธนเจริญณัฐ  เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกมาตรา 44 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายห่อนจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย ด้วยการผูกคอตาย บนเสาสัญญาณโทรศัพท์ จากนั้น พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ออกมาบอกว่า ชายที่ก่อเหตุผูกคอตายบนเสาสัญญาณโทรศัพท์ ไม่ได้เป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับวัดพระธรรมกาย เพราะฉะนั้นถือเป็นความคิดส่วนตัวของผู้ชายคนนั้น แต่ก็แสดงความเสียใจด้วย

       กระนั้นเมื่อย้อนไปเวลาประมาณ 15.44 น. ของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ก่อนเกิดเหตุเศร้าสลดนั้น พบว่า พระสนิทวงค์ ได้ตั้งคำถามฝากกับสื่อมวลชนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ว่า  " ขอถามท่านผู้บริหารประเทศ ชัดๆ อีกครั้งว่า ถ้ามีพระและประชาชนเสียชีวิต จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ ลูกศิษย์ และญาติๆ จะได้ฟ้องร้องถูกตัว ขอผู้กล้าประกาศออกมาชัด ๆ"

 

       จากนั้นช่วงเย็นวันเดียวกัน เวลาประมาณ 18.11 น. ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่ง ที่ทราบชื่อต่อมาว่า นายอนวัช  ได้ปีนขึ้นไปบนเสาสัญญาณโทรศัพท์หลังตลาดกลาง บริเวณข้างวัดธรรมกาย พร้อมข่มขู่รัฐบาลว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากไม่ยกเลิกกฏหมายฉบับพิเศษ มาตรา 44 ภายในเวลา 3 ทุ่ม จะกระโดนลงมา เพราะฉะนั้นรอเก็บศพได้เลย

       จนกระทั้งเวลา ประมาณ 21.31 น. นายอนวัช ได้ตัดสินใจผูกคอตายบนเสาสัญญาณโทรศัพท์ หลังเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก มาตรา 44 อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวมีพยานผู้เห็นนายอนวัช ตั้งแต่ก่อนกิดเหตุอย่าง นายสมพงศ์ โตเฉย ซึ่งเล่าว่า เวลาประมาณ 17.30 น. เห็นชายคนดังกล่าวเดินเข้ามาภายในที่ตั้งเสา จึงตะโกนเตือนว่าจะขึ้นไปทำไม เค้าไม่ให้ขึ้น แต่ชายคนดังกล่าวไม่ฟัง เลยโทรบอกน้องสะใภ้ ที่อยู่ที่ตลาดกลางคลองหลวง น้องสะใภ้จึงแจ้งทหารให้เข้ามาดู แต่ลุงปีนขึ้นไปสูงแล้ว ก่อนเกิดเหตุการณ์ในที่สุด

 

       ขณะที่นาย สมชาย จำปาป่า ผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนหนึ่ง บอกด้วยเช่นกันว่า ชายคนดังกล่าวได้เดินมาจากด้านหลังตลาดกลางคลองหลวง พร้อมสะพายกระดาษแข็ง เดินเข้าไปภายในเสาโทรศัพท์ชุมทางคลองหลวง ก่อนปีนขึ้นไปด้านบน ซึ่งก่อนหน้านี้ ชายคนดังกล่าวได้พูดกับลูกศิษย์ที่อยู่ภายในตลาดกลางคลองหลวงว่า หากรัฐบาลไม่ยกเลิก มาตรา 44 จะทำให้ดูว่า " หากมีการสูญเสียเกิดขึ้น จะมีใครรับผิดชอบหรือไม่ พร้อมกล่าวด้วยว่า ตนเองจะนำบุหรี่ขึ้นไป 1 ซอง หากสูบบุหรี่หมดซองเมื่อไหร่จะได้เห็นดีกัน "  นี่คืเหตุการณ์เศร้าสลดที่เกิดขึ้นแล้วระหว่างที่เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามมาตรา44 เข้าดำเนินการเพื่อขอเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย  และก็มีการตั้งข้อสังเกตุอย่างมากมายหลากหลายความเห็นว่า การตายครั้งนี้เกี่ยวข้องกับวัดธรรมกายหรือไม่  พูดให้ชัดลงไปก็คือ มีบรรดาลูกศิษย์หรือพระวัดแห่งนี้มีส่วนรู้เห็นอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะคำพูดที่ดูคล้ายคลึงกัน นี่เป็นข้อสังเกตุที่ต้องติดตามหาคำตอบกันต่อไป

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์