ไม่ต้องเอ่ยชื่อก็รู้ว่าพรรคไหน!!! "ยะใส" ห่วงการเมืองผสมโรงธรรมกาย-เขย่าจนสถานการณ์เกิดความรุนแรง ชี้ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล และอาจเพลี่ยงพล้ำได้ เพราะธรรมกายพยายามช่วงชิงมวลชน สร้างความเห็นอกเห็นจากสังคม
วันนี้ (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคมมหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงกรณีปัญหาธรรมกายที่กำลังเป็นประเด็นใหญ่ทางการเมืองวานนี้ว่า กรณีธรรมกายยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล และอาจเพลี่ยงพล้ำได้ในที่สุด เพราะในขณะนี้ชัดเจนว่าทางวัดพระธรรมกายพยายามเล่นเกมยืดเยื้อ และพยายามช่วงชิงมวลชนสร้างความเห็นอกเห็นใจความสงสารจากสังคมมากขึ้น ขณะนี้ก็เห็นชัดว่ามีประเด็นปัญหาใหม่ๆเกิดขึ้นจนทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่กลับไปเป็นฝ่ายตั้งรับในหลายๆครั้ง
"เท่าที่เห็นดูเหมือนการสนธิกำลังกันของตำรวจ ดีเอสไอและทหารยังขาดเอกภาพ ใช้กำลังค่อนข้างเปลืองแต่ขยับเดินหน้าไปได้ช้า จนประชาชนบางส่วนก็เริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จนมาตรา 44 ถูกตั้งคำถามมากขึ้น สถานการณ์แข่งกันอึดแบบนี้อาจทำให้มีความเสี่ยงตามมาและอาจเปิดช่องให้กลุ่มการเมืองบางกลุ่มเข้ามาฉวยโอกาสผสมโรง ต่อเติมสถานการณ์ให้บานปลายออกไปได้เช่นกัน เพราะต้องไม่ลืมว่าวัดธรรมกายมีสายสัมพันธ์ค่อนข้างแนบแน่นก้บพรรคการเมืองบางพรรค น่าเป็นห่วงหากการจัดการกับปัญหาวัดธรรมกาย ยิ่งทอดยาวออกไปก็ยิ่งจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการปรองดอง และบรรยากาศของการปฏิรูปประเทศอย่างแน่นอน" รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมฯ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุ
อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews
