ฟ้องชาวโลก!! "พระสนิทวงศ์" ระบุคณะศิษย์นัดประท้วงหน้าUN สวิตเซอร์แลนด์ ชี้รัฐใช้ ม.44 ย่ำยีวัด ละเมิดสิทธิมนุษยชน 

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th


วันนี้ ( 27 ก.พ.)  ที่ บริเวณแนวแผงกั้นคลองเอน ทางเข้าประตู 5 วัดพระธรรมกาย  เมื่อเวลา 10.00 น.  พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร แถลงสรุปเหตุการณ์การเข้าดำเนินการกับวัดพระธรรมกายของรัฐบาลว่า  วันนี้เป็นที่ 12 ของปฏิบัติการ โดยที่รัฐใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 60 ล้านบาท  ส่วนวัดพระธรรมกายได้รับผลกระทบ 1.สูญเสีย "เสรีภาพในการนับถือศาสนา" และการเผยแพร่ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 2.กล่องวงจรปิด ที่ประตู 1 ถูกทำลาย 5 ตัว 3.อาหารที่โรงครัวซื้อไว้ ผักสด 1 คันรถ เนื้อหมู 1 คันรถ เน่าเสีย ไม่สามราถนำเข้ามาได้ มูลค่าความเสียหาย 200,000 บาท 4.หมูของชาวบ้านที่จะมาถวายวัด ถูกยึดไป 3 ตัน ไข่หาย 2,000 ฟอง อาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไร้สาระ น่าขำ แต่เป็นเรื่องสะเทือนจิตใจของพุทธบริษัท ที่ของถวายพระสงฆ์ที่ตั้งใจด้วยจิตศรัทธาสูญหายไป 5.น้ำมันที่เตรียมไว้ ถูกสูบออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 98,000 ลิตร มูลค่าความเสียหาย 2.25 ล้านบาท
          
พระสนิทวงศ์ กล่าวว่า  กรณีน้ำมันที่ถูกยึดเจ้าหน้าที่ดีเอสไอยึดไว้ เป็นของกลางคดีอาญา คำว่าทรัพย์ของกลางในคดีอาญา คือ ทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิด, ได้มาโดยผิดกฎหมาย, ทรัพย์ของกลางได้ใช้กระทำความผิดหรือตั้งใจกระทำความผิด การเข้ามาตรวจค้น ตรวจยึด หรือกระทำการใดๆ เจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องกระทำการโดยเปิดเผย บริสุทธิ์ หากการเข้ามาตรวจยึดน้ำมันในครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้แต่ยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งก็ปิดป้ายทะเบียนรถยนต์ ชื่อบริษัทผู้ประกอบกิจการและไม่อนุญาตให้ตัวแทนของเจ้าของน้ำมันถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานในการตรวจยึด กล่าวโดยสรุปคือ ไม่ยินยอมให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่ทราบเหมือนกันว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอมีวัตถุประสงค์อะไร น้ำมันก็นำมาใช้อำนวยความสะดวกสำหรับรถในองค์กร ไม่ได้นำมาขายโกงราคา หรือเพื่อจะนำไปเป็น เชื้อเพลิงในการก่อเหตุความไม่สงบแต่อย่างไร เพียงแต่มีปริมาณที่มาก เพราะรถในองค์กรมีจำนวนมากเท่านั้นเอง หากทำการตรวจเสร็จแล้ว ทางวัดพระธรรมกายขอคืนด้วย
          
6.ถูกตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ.60 ปิดกันเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารของประชาชน เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในการรับรู้ข่าวสารของประชาชน สร้างความทุกข์ใจให้กับประชาชนที่เป็นพ่อแม่ ไม่สามารถติดต่อกับลูกพระลูกเณรในวัดได้ หรือพ่อแม่พี่น้องที่ไม่มีสามารถติดต่อญาติในวัดได้ ความทุกข์ใจของคนเป็นพ่อแม่ญาติพี่น้อง ตีเป็นมูลค่าความสูญเสียไม่ได้  7.ถูกเจ้าหน้าที่ขึ้นไปเหยียบย้ำขึ้นบน พระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ประดิษฐานพระพุทธรูปตัวแทนพระพุทธเจ้า 1 ล้านพระองค์ และที่เจ้าหน้าที่เหยียบขึ้นไป คือ โซนสังฆรัตนะ โดยปกติจะอนุญาตให้เฉพาะพระสงฆ์สามเณร ขึ้นไปนั่งสมาธิเท่านั้น แม้ญาติโยมผู้บริจาคก็ยังไม่เคยได้เดินขึ้นไปบนเจดีย์เลย  8.พระเณรและญาติโยม ขาดสอบบาลี 569 รูป/คน เพราะจากสถานการณ์ ม.44 ทำให้ไม่กล้าไปสอบ และไม่มีสมาธิไปสอบ รวมทั้ง รถเช่าไม่กล้ามารับ เนื่องจากกลัว ม.44         

          

 

9.ญาติโยมที่ได้รับบาดเจ็บ จากการปะทะ มี 1 รายบาดเจ็บสาหัส ซี่โครงหักซี่ ที่ 1-6 ไหปลาร้าหัก เลือดออกที่หู แต่โรงพยาบาลแรกรับ ไม่กล้ารับรักษา เพราะกลัว ม.44  10.ตู้คอนเทนเนอร์ปิดล้อม และปิดกันขวางทางเข้าออกตรงประตู 5 ซึ่ง รมต.สุวพันธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีการ "ปิดล้อม" แต่ในความเป็นจริง ขณะนี้ ตู้คอนเทรนเนอร์ ยังปิดขวางประตูอยู่ ทั้งนี้ จากเบาะแส วันศุกร์ที่ 24 ก.พ.60 ที่ผ่านมาพบ มีตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด 12 เมตร จำนวน 2 ตู้ ปิดทางเข้า ประตู 15 โดยมีการให้ข่าวจากเจ้าหน้าที่รัฐ อ้างว่า เจ้าหน้าที่ของทางวัดนำไปปิด ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่อย่างใด โดยหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดก็ชัดเจนว่า เป็นเจ้าหน้าที่ใช้ยานพาหนะของดีเอสไอ เป็นผู้นำตู้คอนฯ ได้นำมาวางปิดขวางประตูทางเข้า 15 ฝั่งนอกวัด  

11.วัดถูกใส่ร้ายว่า เตรียมก่อความวุ่นวายและก่อความรุนแรง ซึ่งทางวัดขอปฏิเสธ เพราะแนวทางของวัดพระธรรมกาย คือ สงบ สันติ อหิงสา ญาติโยมที่มาคือ สวดมนต์ นั่งสมาธิ  12. เตรียมมีการใส่ร้ายวัดกรณีสถาบัน ขณะนี้มีข่าวลือว่า อาจมีเจ้าหน้าที่บุกเข้ามา และโปรยใบปลิว หรือพิมพ์เอกสาร โจมตีสถาบันสูงสุด อันเป็นที่เคารพของคนไทยเพื่อใส่ร้ายวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ทางวัดให้ความเคารพต่อสถาบันชาติ ศาสนา มหากษัตริย์ มาโดยตลอด ในพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถวัดพระธรรมกาย 24 ธันวาคม พ.ศ.2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ เสด็จแทนพระองค์มาในพิธี และในพิธีหล่อรูปเหมือนทองคำ หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ได้รับพระเมตตาจาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงเสด็จมาเป็นประธานเททองหล่อรูปเหมือนด้วยพระองค์เอง เมื่อปี พ.ศ.2537 เหล่านี้ล้วน ยังความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นต่อวัดพระธรรมกายมาจนถึงปัจจุบัน
          
พระสนิทวงศ์ กล่าวต่อว่า ภาครัฐ สูญเสีย อะไรบ้าง  1.รัฐบาลนี้ทำให้มีคนตายแล้ว เพราะไม่เห็นด้วยกับการใช้ ม.44 ซึ่งยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นประเด็นวัดพระธรรมกาย โดยตรง แต่เป็นประเด็นพุทธศาสนาถูกย่ำยี และเรื่องการคณะสงฆ์ ที่ประชาชนไม่สบายใส  2. รัฐสูญเสียงบประมาณชาติ ที่มีอยู่อย่างจำกัด ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจประเทศและเศรษฐกิจโลกตกต่ำ โดยใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 60 ล้านบาท และไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไร ยังไม่นับรวมเงินเยียวยา หลังจากเหตุการณ์นี้ กรณีเกิดเหตุที่ไม่พึงประสงค์  3.รัฐสูญเสียความชอบธรรมจากการใช้ ม.44 เกินขอบเขตและไม่สมเหตุสมผล ขณะนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องตัวบุคคล คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของผิดหลักการและเรื่องพระพุทธศาสนา เพราะได้ค้นอาคารและพื้นที่อย่างละเอียดถี่ถ้วนดีแล้ว ทุกอาคาร ทุกชั้น ทุกห้อง บางอาคารไปถึง 3-4 ครั้ง เช่น อาคาร 100 ปี อาคารภาวนา อาคารดาวดึงส์ อาคาร 60 ปี เป็นต้น ทุกครั้งที่ไปตรวจค้น เจ้าหน้าที่ทำบันทึกตรวจค้นอย่างละเอียดระบุ ไม่พบเป้าหมาย และมีการเซ็นรับรองทั้งวัดและเจ้าหน้าที่ กว่า 10 ท่านว่าได้มาตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ยุติ และกลับคงกำลังเจ้าหน้าที่ 3,000-4,000 นาย ล้อมบริเวณรอบวัด และยังคง ม.44 รวมทั้ง ในวันที่ 19 ก.พ.60 ได้ประกาศพระสงฆ์สามเณรและประชาชน ออกจากวัดก่อนบ่าย 3 นั้น ประเด็นไม่ใช่ว่า ห่วงหลวงพ่อธัมมชโย แต่พระและประชาชนกลับเข้ามา เพราะห่วงพุทธศาสนา ห่วงวัดพระธรรมกาย ห่วงพระห่วงสามเณร

 

พระสนิทวงศ์ กล่าวต่ออีกว่า  ขณะนี้ยังคงมีเจ้าหน้าที่ควบคุมการเข้าออกของพระและประชาชน ทั้งๆ ที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพุทธานุญาตให้สร้างอาราม เพื่อให้สงฆ์อาคันตุกะจากจตุรทิศหรือทิศทั้ง 4 เดินทางเข้ามาพักได้เป็นปกติ การไม่อนุญาตให้พระสงฆ์จากทั่วประเทศมาพำนัก ณ วัดพระธรรมกาย เป็นการขัดต่อพุทธานุญาตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่ พุทธศาสนิกชนพึงพิจารณา ดังนั้น จึงขอให้ท่านนายกฯ เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ เห็นแก่ความสงบของประเทศชาติ เห็นแก่พระพุทธศาสนา เห็นแก่ความรู้สึกของประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ห่วงใยพระพุทธศาสนา เห็นแก่ความทุกข์ของโยมพ่อโยมแม่ของลูกพระลูกเณรที่ติดต่อข่าวสารกันไม่ได้ ได้โปรดยกเลิก ม.44 เถิด เพื่อคืนความสุขให้ประเทศและคืนความสงบให้พระพุทธศาสนา
          
" ขอย้ำว่า ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องของหลักการว่า ค้นไม่พบ แต่ไม่ยอมกลับ และยังคง ม.44 ไว้ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์สาธารณะ เพราะไม่ใช่แต่วัดพระธรรมกาย พระ และสาธุชนภายในวัด แต่หมายถึงประชาชนไทยทั่วประเทศ  ภาพลักษณ์ของประเทศที่ออกไปทั่วโลก และในวันนี้ ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายและชาวพุทธในยุโรป จะได้เดินทางไปที่องค์การสหประชาชาติ (UN) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจัดประชุมใหญ่เรื่องสิทธิมนุษยชน เพื่อประท้วงและเรียกร้อง กรณีการใช้ ม.44 กับวัดพระธรรมกาย เป็นการละเมิดสิทธิมนุษย์ชนด้วย" 

 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม: คสช.รู้ทันพวกบิดเบือนเบี่ยงประเด็น!!! "วินธัย"ยัน ม.44ไม่ทำลายศาสนา ซัดกลับพวกจ้องดิสเครดิตใช้คำคุ้นเคยมาสร้างประเด็น (รายละเอียด)

 


วิทย์ณเมธา  สำนักข่าวทีนิวส์