"สนธิญาณ" ชี้!! สัญญาณ ปฏิการ "ธรรมกาย" มาแล้ว!!!หลังนายกฯ เรียกถกด่วน 7 คีย์แมนสำคัญ รอวันปิดเกม

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 1 มีนาคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : คุณยุคลกับคุณชนุตราก็ได้รายงานสถานการณ์ความคืบหน้าของวัดพระธรรมกายกับการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เนี่ยนะครับ ให้ผู้ชมได้รับทราบกันตามลำดับแล้วเนี่ย ผมอยากจะสรุปสถานการณ์เมื่อวานนะฮะ ซึ่งต้องถือว่าเป็นสถานการณ์ที่มีความสำคัญและก็จะชี้ขาดต่อสถานการณ์ของวัดพระธรรมกายที่จะเกิดขึ้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมื่อวานเนี่ยมีเหตุการณ์สองเหตุการณ์เกิดขึ้นนะครับ เหตุการณ์แรกเนี่ยนะครับก็คือการประชุมของ คสช. ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนะครับ ซึ่งถือว่าได้ใช้ระยะเวลาในการประชุมเนี่ย ยาวนานกว่าปกติ คือปกติก็ประชุมกันประมาณ 30–40 นาที เมื่อวานเนี่ยประชุมกันชั่วโมงกว่านะครับ หลังจากการประชุม คสช. เสร็จก็มีการประชุมคณะรัฐมนตรี หลังจากนั้นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ออกมาสรุปสถานการณ์เรื่องวัดพระธรรมกายให้กับผู้สื่อข่าวได้รับทราบ แต่เรื่องมันไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้นนะครับ ปรากฎว่าตอนบ่ายสี่ คุณยุคล ท่านผู้ชมครับ ตอนบ่ายสี่เนี่ยสำคัญมากนะครับ เรียกว่าสำคัญมากกว่าตอนประชุม คสช. เพราะนายกรัฐมนตรีเนี่ยนะครับ ได้เชิญพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นะครับ นี่หนึ่ง สองนะครับ ได้เชิญพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สามได้เชิญนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สี่ได้เชิญพลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ห้าเชิญพลเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หกเชิญพันตำรวจเอกไพสิทธิ์ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และเจ็ดนะครับ เชิญพันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนายการสำนักพระพุทธศาสนา สำคัญฮะ ประชุม 7 คนนี้ คุณยุคล สำคัญครับ เป็นผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมาย ตามประกาศของคำสั่ง 44 ในทุกเม็ด ในทุกหัวข้อ ในทุกประเด็นของกฎหมายนะครับ เชิญระดับหัวหน้าหน่วยของผู้ที่จะใช้มาตรการทางกฎหมายและประชุมกัน หลังประชุมไม่มีการให้สัมภาษณ์ น่าสนใจนะครับ ถ้าหลังการประชุมไม่มีการให้สัมภาษณ์เนี่ย นี่ต้องถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่อยากจะมีการสื่อสารออกไป ว่าประชุมกันเพื่อที่จะกำหนดแผนปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด ย้ำนะฮะ ไม่มีการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนะครับ ผู้เข้าประชุมทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียด เอาล่ะครับ ท่านจะเคร่งเครียดนะครับ ท่านจะมีแผนอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่จะสะท้อนให้เห็นว่า สัญญาณรุกรบครั้งใหญ่ เกิดขึ้นแล้ว เมื่อวานตอนเย็น ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งหัวโต๊ะเองพร้อมจัดผู้ที่มีระเบียบความรับผิดชอบทุกคนนะครับ ผมก็เรียนเรื่องนี้ไปถึงผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในวัดพระธรรมกายนะฮะ ตั้งแต่พระธัมมชโย พระทัตตชีโว จนมาถึงพระสนิทวงศ์ และก็บรรดาพระคุณเจ้าทั้งหลายเนี่ยนะครับ ผมเรียนย้ำอยู่เสมอ ท่านรู้ว่า ท่านไม่สามารถจะอยู่อย่างนี้ได้หรอกครับ ท่านจะยื้ออยู่อย่างนี้ไม่ได้นะครับ ผู้ที่ดูแลบริหารประเทศก็ปล่อยไว้ไม่ได้หรอกครับ เพราะมันเหมือนกับเป็นรัฐอิสระ มันเหมือนกับการไม่เคารพกฎหมายนะครับ มันเหมือนกับกฎหมายมันมีช่องว่าง มันมีสิ่งที่เรียกว่าอำนาจรัฐซ้อนอำนาจรัฐอยู่ ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เพียงแต่ว่ารูปแบบของการใช้ก็คือการใช้มวลชน และก็ใช้พระมายันเอาไว้ ถึงยังไงท่านก็อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นประเด็นอะไรล่ะครับที่ท่านยื้อไว้เนี่ย ประเด็นอะไรที่ท่านยื้อไว้ ท่านมีวัตถุประสงค์ที่ถูกคนอื่นหลอกใช้หรือไม่ ผู้ที่ต้องการเอาสถานการณ์วัดพระธรรมกายไปใช้ในทางการเมืองหรือไม่นะครับ แต่นี่เป็นคำถามที่ผมตั้งและท่านควรจะตอบนะครับว่าท่านจะยื้อไปทำอะไร ท่านจะยื้อไป 1 วัน 1 เดือน 1 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ในส่วนว่าถ้ารอให้ทักษิณกลับมามีอำนาจยิ่งจบ ทักษิณชีวิตนี้กลับประเทศไทยได้ ผมเชื่อว่ากลับมาได้เฉพาะกระดูกเท่านั้น ไม่ได้แช่งให้เขาตายนะ หมายถึงว่าต้องอยู่เมืองนอกไปจนตายน่ะ เพราะคุณทำผิดกฎหมายมากมายเหลือเกิน และก็สิ่งที่คุณก่อเหตุกับบ้านเมือง มันไม่มีทางที่จะเดินทางกลับประเทศไทยได้ จะรอให้ทักษิณมาโปรด มาให้มีอำนาจแล้วมาถอนฟ้องเนี่ยจบไปได้เลย ทีนี้ต้องกลับมาทางฝั่งรัฐนะครับ ท่านประชุมกันแล้วนะครับ ผมก็เป็นผู้สื่อข่าวนะครับ แต่ก็จะต้องเรียนนำเสนอนะครับต่อท่านผู้ชม และเผื่อเสียงนี้นะครับไปเข้าหูฝั่งที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ผมเรียนย้ำนะครับ ย้ำอยู่เสมอว่า ตอนเรารายงานข่าวเนี่ยนะครับ เราใช้คำว่าเจ้าหน้าที่เนี่ยนะครับไปควบคุมวัดพระธรรมกาย ความจริงไม่ถูกต้องนะครับ ที่ถูกต้องไม่ใช้เพื่อการใช้ศัพท์นะครับ พื้นที่สองพันไร่เนี่ยนะครับ เราจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า มีวัดอยู่ 196 ไร่ ที่เหลือเป็นมูลนิธิ อันนี้มีนัยยะสำคัญนะคุณยุคล ท่านผู้ชมครับ นัยยะสำคัญเป็นอย่างไร วัดนะครับวันนี้จะต้องจัดการแบบวัด มูลนิธิจะต้องจัดการแบบมูลนิธิในทางกฎหมาย ในการดำเนินการในทางกฎหมายเนี่ยนะครับ ไม่ได้หมายความว่า ย้ำนะครับ ไม่ได้หมายความว่าจะหมายถึงการปฏิบัติการแต่ในพื้นที่เพียงอย่างเดียว ผมถึงเรียนนะครับว่า ถ้าสิ่งที่เรียนไปเมื่อวานว่าในหน้างานเนี่ยนะครับ ไม่ได้มีผู้บัญชาการ เขาเรียกผู้บัญชาการสถานการณ์เนี่ยนะครับ การประชุมเมื่อวานเนี่ยนะครับของบุคคลสำคัญทั้ง 7 ท่านเนี่ยนะครับ ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมพูดไปเนี่ยนะครับ อาจจะตรงหรือสอดคล้องนะครับที่จะเกิดประเด็นของผู้บัญชาการสถานการณ์ขึ้น และก็ทำให้เห็นภาพรวมทั้งหมด ภาพรวมที่ควรจะดูเนี่ย ผมถึงบอกต้องแยกเรื่องพื้นที่กับการปฏิบัติการในกฎหมายด้านอื่น เช่น ทางด้านของสงฆ์เนี่ยสามารถที่จะย้ายเจ้าอาวาสได้ นี่เอาให้ชัดซะก่อนนะครับ ท่านสามารถที่จะย้ายเจ้าอาวาสได้ เป็นเรื่องของคณะปกครองของสงฆ์ตามกฎหมายสงฆ์ วัดพระธรรมกายไม่ได้เป็นของพระที่อาจจะบอกว่าสร้างมากับมือ แต่ไม่ได้ เพราะนี่มันเป็นสมบัติของรัฐนะครับ การดูแลในฐานะเจ้าอาวาสวัดหรือในฐานะอาวาสเนี่ย ดูแลในฐานะตัวแทนของราชการภายใต้องค์กรการปกครองของสงฆ์ ภายใต้กฎเกณฑ์ทางกฎหมาย ย้ายเจ้าอาวาส นี่คือสิ่งที่ต้องทำ จำแนกออกมานะครับเรื่องตัวบุคคลเดี๋ยวค่อยพูด หนึ่ง พื้นที่ สอง ตัวบุคคล และก็สาม การดำเนินการทางด้านกฎหมายอื่นๆ ผมเรียนแล้วทางด้านของวัด จะต้องแยกนะครับ ย้ายเจ้าอาวาส และก็ส่งเจ้าอาวาสใหม่เข้าไปเพื่อดำเนินการจัดการตามสิ่งที่ควรจะเป็น หากขัดขวางก็สามารถที่จะใช้ดำเนินการตามกฎเกณฑ์ของสงฆ์ ใช้ตำรวจพระสามารถดำเนินการได้ ทางหนึ่งเนี่ยนะครับที่จะต้องจัดการคือเรื่องของมูลนิธิ ชัดเจนนะครับวันนี้ว่า มูลนิธิวัดพระธรรมกายเนี่ยนะครับ ได้ดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมาย ฝ่าฝืนกฎหมาย นะครับ โดยใช้กลไกต่างๆเนี่ยนะครับ เห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นเนี่ยนะครับ กฎหมายมูลนิธิมาตรา 130 ยืนยันว่าชัดเจนนะครับว่ามูลนิธิเนี่ยยกเลิกได้ นะครับ ยกเลิกได้เนี่ยเพราะอะไร เพราะศาลมีคำสั่งให้ยกเลิก นี่ปฏิบัติการกันตามกฎหมายนะครับ ศาลจะมีคำสั่งให้ยกเลิกมูลนิธิได้เนี่ยต้องไปตามมาตรา 131 ครับ 131 ปรากฎว่าเมื่อปรากฎว่าวัตถุประสงค์ของมูลนิธิขัดต่อกฎหมาย ดูซิเข้าไม่เข้า เมื่อปรากฎว่ามูลนิธิกระทำการขัดต่อกฎหมาย ผิดศีลธรรมอันดีแก่ประชาชน หรือเป็นอันตรายต่อความสุขของประชาชนหรือความมั่นคงแห่งรัฐ เข้าไหมฮะ เข้า ก็สองพันไร่ที่ผมบอกนะ ที่มาปฏิบัติการที่จัดการ ล้วนแต่มาจากมูลนิธิทั้งสิ้น นะครับ เงินทองเนี่ยนะครับ ที่ผู้คนไปทำบุญที่วัดพระธรรมกาย เรียนย้ำนะครับ ไปดูใบอนุโมทนานะครับ ไม่ได้ออกจากวัดหรอกครับ ออกในนามมูลนิธิ เพียงแต่มูลนิธิก็เหมือนวัด ก็คือประหยัดภาษีได้เหมือนกัน เพราะมูลนิธิไปจดให้เข้าหลักเกณฑ์ในการหักภาษีได้ เพราะฉะนั้นเนี่ยนะครับ วันนี้เงินทองที่ใช้เคลื่อนไหว ดำเนินการโน่นนี่นะฮะ มันต้องมีท่อน้ำเลี้ยงท่อเงินทั้งสิ้นล่ะครับ ต้องกลับไปสกัดท่อเงิน ก็คือเข้าไปดำเนินการจัดการ เพราะตอนนี้กฎเกณฑ์ของมูลนิธิเนี่ยนะ เข้าเกณฑ์ดังนี้แล้ว เมื่อเข้าเกณฑ์ดังนี้เนี่ยนะครับ ก็เป็นเรื่องที่นายทะเบียนกับอัยการนะครับ นายทะเบียนจากกระทรวงมหาดไทยเนี่ยนะครับ กับอัยการเนี่ยนะครับไปยื่นร้องขอต่อศาล เพื่อให้เลิกมูลนิธิ แล้วก็เข้าไปชำระบัญชี ดำเนินการหยุดเงินทองของมูลนิธิวัดพระธรรมกายและอีก 4 มูลนิธิที่อยู่ในชื่อหรือนามของทางวัดพระธรรมกายให้หมดเสียก่อน มันถึงจะสามารถที่จะหยุดก่อน ไอ้พื้นที่เนี่ย มันไม่มีความสำคัญหรอกครับนะครับ ถ้ากลไกข้างนอกเนี่ยไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวและดำเนินการต่อได้ สองประเด็นประเด็นแรกนะครับ เรื่องการทำบุญ ..

ยุคล : คุณสนธิญาณครับ สัญญาณน่าจะมีปัญหานะครับ เดี๋ยวรอคุณสนธิญาณต่อสายอีกแป๊ปนึงนะฮะ เพราะว่ากำลังจะพูดถึงเรื่องประเด็นของการถวายข้าวพระนะครับของวัดพระธรรมกายในวันเสาร์ และก็อาทิตย์ที่จะถึงนี้ ซึ่งในมิติของสถานการณ์ก็มีการประเมินนะครับว่าวัดพระธรรมกายจะใช้โอกาสนี้ในการระดมผู้คนนะครับเข้ามาที่วัดพระธรรมกายเนี่ยเพิ่มมากขึ่นหรือไม่ นั่นหมายความว่าก็จะทำให้ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เนี่ย ยากขึ้น เชิญต่อเลยครับ คุณสนธิญาณครับ

สนธิญาณ : ส่วนประการที่หมอมโนพูดนะครับ เรื่องการบูชาข้าวพระพุทธเนี่ยนะครับ ผมเข้าใจนี่เป็นการปฏิบัติการธรรมดาของชาวพุทธทั่วไปนะครับ อย่าไปก้าวล่วง เหมือนเวลาเราทำบุญที่บ้าน ทำบุญที่งานพิธีกรรมต่างๆนะ เราต้องไปถวายข้าวพระพุทธก่อน ก่อนที่จะถวายข้าวพระสงฆ์นะครับ เป็นเรื่องที่เราทำกันมา แต่วัดพระธรรมกายถือเป็นงานใหญ่ แต่มันใหญ่ไม่ได้หรอกครับ ตอนนี้ ก็คือ ยังไม่ต้องรีบในการปฏิบัติการนี่ ก็คือไม่ให้เขาเข้าเสีย ไม่ใช่เพราะการจะจัดงานใดๆทั้งสิ้นนะ ศาสนพิธีในตอนนี้เนี่ย เป็นไปเพราะเงื่อนไขทางการเมืองทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้อง ไม่เหมาะสม เพราะฉะนั้นเนี่ย พิธีกรรมในวัดเนี่ยทำอะไรก็ทำไป จะบอกว่าปิดกั้นก็ไม่ได้ เพราะคุณไปทำให้วัดมันเป็นแบบนั้น ทำให้มูลนิธิเนี่ยนะครับ ซึ่งควรจะเป็นศาสนสถานเนี่ยเป็นแบบนั้นนะครับ ส่วนประการสุดท้ายเนี่ยนะครับ ถึงพระสนิทวงศ์ซักนิดนะครับ ปัจจัยแห่งเหตุ ผมไม่บังอาจมาสอนพระ มาสอนมหาท่านอยู่โรงเรียนนะครับ ปัจจัยแห่งเหตุนะครับ ผมเรียนนะครับ พระไม่ได้มีความหมายแค่ห่มผ้าเหลืองนะครับ พูดบิดเบือนนะครับ ก็เป็นอกุศลกรรมทางด้านวจีแล้ว สิ่งที่จะต้องทบทวนให้แท้จริงว่าปัจจัยแห่งเหตุที่แท้จริงแล้วมันมาจากอะไร ปัจจัยแห่งเหตุมาจากสิ่งที่พระธัมมชโยและวัดพระธรรมกายต้องการสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับทางพระพุทธศาสนา ดูเหมือนจะมีเจตนาดีนะครับ เลยเชิญชวนให้มีการทำบุญอย่างบ้าคลั่ง การทำบุญอย่างบ้าคลั่ง จะด้วยจิตเจตนาบริสุทธิ์ไม่บริสุทธิ์ของนายศุภชัยก็ตามแต่เนี่ยนะครับ จึงไปโกงเงินคนยากคนจน เงินที่สะสม เงินของสหกรณ์มาเนี่ย มาทำบุญกับพระธัมมชโย และพระธัมมชโยรับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในทางโลก ถ้าคุณไม่เร่งระดมทำแบบนี้เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้น เมื่อทำผิดกฎหมายเขาจะไปจับ ไม่ให้จับ มันจึงเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น เห็นไหมครับ เป็นพระและบิดเบียนเนี่ย ผิด หมายความว่าอย่างรุนแรงนะครับ ผมเรียนย้ำนะครับ ห่มผ้าเหลืองอยู่ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีสถานะของความเป็นพระนะครับ เพราะสถานะของความเป็นพระมันอยู่ที่ใจ ขอบคุณมากครับ