จับผิดโกหกคำโต!? "อธิบดีดีเอสไอ" เผย "สาวใหญ่" ป่วยหอบหืดเสียชีวิต ไม่ต่ำกว่า 5 ชม. มึนหนัก!! "แชทไลน์หลุด" ก่อนตาย!!

วันที่ 1 มี.ค. 60 หลังจากมีผู้ใช้เฟสบุ๊คPhra Sanitwong Charoenrattawong ได้โพสR.I.P ศพที่ 2 ของ ม.44 เวลา 11.29 น. ได้รับแจ้งจากผู้ป่วยโรคหอบหืด ต้องการยาพ่น ซึ่งพักอยู่ที่หลังวัด ( 58 ไร่) ซึ่งปกติจากจุดรับเรื่องถึงที่พักผู้ป่วยใช้เวลาเดินทางเลียบคลองแอน 10 นาที แต่ทางหน่วยกู้ชีพรัตนเวช ติดด่านตำรวจทหาร เพราะตัดสินใจไม่ได้ ต้องถามสอบเจ้าหน้าที่ DSI เท่านั้น

และหน่วยฯรัตนเวชที่รับเรื่องจึงได้ประสานงานให้รถหน่วยกู้ชีพ 1669 ให้ไปรับคนไข้แทน แต่รถ 1669 มาตามเส้นทางไม่ถูก และไม่ได้รับอนุญาตให้รับคนไข้ที่อื่น นอกจากประตู 7 เท่านั้น อาสาสมัครรัตนเวช แจ้งว่า ต้องเสียเวลา ย้อนไปที่ประตู 7 เพื่อทำเรื่องขออนุญาต และนำทางให้รถ 1669 ไปรับผู้ป่วย เมื่อไปถึงในเวลา 12.39 น. พบผู้ป่วยได้เสียชีวิตแล้ว เสียเวลาในการติดต่อและผ่านเจ้าหน้าที่ ทั้งหมด 1 ชั่วโมง 10 นาที ระหว่างประสานงานติดต่อผู้ป่วยไม่ได้ เพราะสัญญาณโทรศัพท์ขาดๆ หายๆ (ชื่อผู้เสียชีวิต น.ส.พัฒนา เชียงแรง อายุ 48 ภูมิลำเนาจังหวัดพะเยา เป็นลูกศิษย์วัด ช่วยงานพยาบาลศูนย์รัตนเวช) 

 

ด้านเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ารับแจ้งเหตุมีผู้ป่วยโรคลมชักตอน 12.10น. จากนั้นเข้าไปถึงจุดที่ผู้ป่วยอยู่เวลา 12.35 น. ซึ่งถือเป็นขั้นตอนปกติ และไม่ได้มีการหลงเส้นทาง เพราะมีพยาบาลซึ่งอยู่ในวัดพระธรรมกายเป็นคนนำไปแต่เมื่อไปถึงพบว่า ผู้ป่วยไม่มีสัญญาณชีพแล้วจึงช่วยเหลือตามขั้นตอน จนพบว่า ผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วจึงยุติการช่วยเหลือ ทั้งนี้จากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ ประเมินว่า ผู้ป่วยน่าจะเสียชีวิตก่อนแจ้งเหตุแล้ว ส่วนจะเป็นระยะเวลานานแค่ไหนต้องรอการชันสูตรพลิกศพทั้งนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำตามขั้นตอนไม่ได้เลือกปฏิบัติตามที่ถูกกล่าวหา เบื้องต้นตำรวจได้สอบปากคำกู้ภัยและพยาบาลทั้งหมดแล้ว รอผลชันสูตรศพเพื่อ ตรวจสอบข้อมูล ก่อนหน้านี้กองอำนวยการคลองหลวง ทำข้อตกลงร่วมกับวัดพระธรรมกายว่าหากมีคนเจ็บป่วยจะต้องนำตัวมาส่งที่ประตู7เท่านั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาเข้าออกพื้นที่วัดพระธรรมกายไม่ได้ แต่ในกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ก็ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือถึงห้องพักหลังพบว่า ไม่มีใครนำผู้ป่วยออกมาได้ส่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษเก็บข้อมูลกับพยาบาลและกู้ภัยแล้ว / ส่วนที่มีข้อมูลก่อนหน้านี้ว่าเหตุดังกล่าวแจ้งให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน หรือ สพฉ. 1669 ให้เข้ามารับตัวผู้ป่วย แต่ไม่มีการประสานมา / กองอำนวยการคลองหลวง ยืนยันว่าเหตุนี้ ข้อมูลส่วนหนึ่งได้รับแจ้งจากสพฉ.และเร่งดำเนินการทันที

ต่อมาพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้ออกมาเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า หลังจากมีการอ้างว่ารถกู้ภัยไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้เนื่องจากติดด่านเจ้าหน้าที่ทหารนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานญาติผู้เสียชีวิตว่าขอให้ประสานรถโรงพยาบาลเนื่องจากผู้เสียชีวิตมีอาการหอบหืด 

 

และพ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ประสานรถพยาบาลเพื่อไปรับผู้ป่วย พร้อมกับประสานพระมหานพพรจนทราบว่าผู้ป่วยได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้นเมื่อดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบซึ่งเป็นแฟลตของเจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกาย พร้อทเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์ชันสูตรเบื้องต้นแพทย์คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ชม. รวมถึงพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักคดีพิเศษภาค ดีเอสไอ ระบุว่า รถฉุกเฉินเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุใช้เวลาเพียง 10 นาที แต่พบว่าผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วและเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 5 ชม. นั้นยังต้องตรวจสอบต่อไปว่ามีแชทไลน์ที่ผู้เสียชีวิตติดต่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อน เวลา 11.00 น. ได้อย่างไร 

 

 

ขอบคุณภาพ/ข่าว อนันต์ วิจิตรประชา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ปทุมธานี

เรียบเรียง รัตติยา