ยิ่งนานวัน..กบฏผีบุญก็ยิ่งเป็นที่เอือมระอาของคนไทย"พุทธะอิสระ"ลากไส้ อลัชชีธัมมชโย"ทำตัวขี้ขลาด..เอาประชาชนมาตายแทน!!แบบนี้เป็นผู้นำได้หรอ??

ยิ่งนานวัน..กบฏผีบุญก็ยิ่งเป็นที่เอือมระอาของคนไทย"พุทธะอิสระ"ลากไส้ อลัชชีธัมมชโย"ทำตัวขี้ขลาด..เอาประชาชนมาตายแทน!!แบบนี้เป็นผู้นำได้หรอ??

โดยจากกรณีที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาร ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.)กล่าว ถึงการดำเนินการกับวัดพระธรรมกายว่า สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้สังคมก็ควรต้องพิจารณาด้วยเหตุผลว่าอะไรเกิดขึ้นอยู่ข้างหน้า กฎหมายถือว่าเป็นเรื่องสำคัญและเป็นหลักของบ้านเมือง อย่าเอาความเชื่อมาอยู่เหนือกฎหมาย และรัฐต้องดำรงเจตนารมณ์ในการบังคับใช้กฎหมาย ไม่อยากเห็นคน 3-4 พันคน ต้องมาทนทุกข์ทรมานลำบากเพราะคนๆเดียว สิ่งที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันถึงแม้ว่าทุกคนจะบอกว่าเต็มใจที่จะมา ทั้งพระ เณร ลูกศิษย์
“ผมคิดว่าพระธัมมชโย เป็นผู้นำธรรมกาย ซึ่งท่านเคยไปเทศน์และไปสั่งสอนคนอื่นมาหลายสิบปีท่านน่าจะมีจิตสำนึก ยอมเสียสละ เพื่อให้ตรงนี้ สงบสุข สิ่งที่ผมขออ้อนวอนขอให้ท่านเสียสละอย่าเอาความทุกข์ยากของประชาชนมากดดันรัฐบาลเสียสละคนเดียวจบ อย่าไปนั่งเสวยสุขอยู่ บ้านเมืองวุ่นวายอยู่ขณะนี้เพราะคนเพียงคนเดียว แค่ก้าวออกมาก็จบแล้ว

โดยในวันนี้ในเฟซบุ๊ค หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องดังกล่าวว่า คนจำนวนมากต้องมาทุกข์ยากลำบากเพราะอลัชชีตัวเดียว
๕ มีนาคม ๒๕๖๐
ยิ่งนานวัน พฤติกรรมของพวกกบฏผีบุญก็ยิ่งเป็นที่เอือมระอาของคนไทยมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐ เช่น ท่าน ผบ.ทบ. ที่ปกติเป็นคนพูดน้อย แต่ต่อยหนัก
ด้วยพฤติกรรมขี้ขลาด เห็นแก่ตัว เอาเปรียบ ของเจ้าลัทธิกบฏผีบุญ ที่เป็นต้นเหตุให้ผู้คนจำนวนมากต้องมาลำบากลำบนทุกข์ยากกินนอนกลางถนน ตากแดดหัวแดงร้อนรนทรมาน
จนท่าน ผบ.ทบ. ซึ่งปกติเป็นคนพูดน้อย ต้องออกมาพูดว่า
“ผมคิดว่าพระธัมมชโยในฐานะผู้นำธรรมกาย ซึ่งตัวท่านเคยไปเทศน์และไปสั่งสอนคนอื่นมาหลายสิบปีท่านน่าจะมีจิตสำนึกยอมเสียสละเพื่อให้ตรงนี้สงบสุข สิ่งที่ผมขออ้อนวอนขอให้ท่านเสียสละอย่าเอาความทุกข์ยากของประชาชนมากดดันรัฐบาล เสียสละคนเดียวจบ อย่าไปนั่งเสวยสุขอยู่ บ้านเมืองวุ่นวายอยู่ขณะนี้เพราะคนเพียงคนเดียว แค่ก้าวออกมาก็จบแล้ว” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว
จริงอย่างที่ท่าน ผบ.ทบ.พูด สอนคนอื่นมาเป็นสิบปีให้คนอื่นเสียสละ บริจาค แต่พอมาถึงตนเองกลับเป็นคนตระหนี่ คับแคบ เอาเปรียบ เห็นแก่ตัว ขี้ขลาด
ใช้ชีวิตและความทุกข์ยากเดือดร้อนของผู้อื่นมาช่วยให้ตนเองอยู่รอด เสพสุขนั่งนอนกินอย่างสุขสบายในห้องแอร์เย็นฉ่ำ ขณะที่คนอื่นเสียสละเพื่อตนต้องทุกข์ทรมานอยู่กลางแดด
สันดานอย่างนี้ วัยรุ่นที่บ้านฉันเขาเรียกว่า “ไอ้หน้าตัวเมีย” ไม่เข้าใจว่าคนหน้าตัวเมียแบบนี้ทำไมยังมีคนงมงายยอมก้มหัวให้มันทั้งที่เห็นชัดๆ ว่ามันเอาเปรียบ
หรือคนพวกนี้จักสะสมความงมงายข้ามภพข้ามชาติมาจนยากเกินที่จะเยียวยา จึงไม่มีปัญญาแยกแยะเลยว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรดี อะไรชั่ว
เมื่อพวกลัทธิกบฏผีบุญไม่รู้ดีรู้ชั่วเช่นนี้ จึงกลายเป็นตัวประหลาดในสายตาของชาวโลก
อย่างที่นายอัยย์ เพชรทอง ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขารู้สึกอึดอัดที่ผู้คนในสังคมมองเขาและพวก ว่าเป็นเหมือนตัวประหลาดเหมือนพวกมนุษย์ต่างดาว
ขนาดพวกเดียวกันพวกเดียวเองยังรู้สึกรับรู้ได้ถึงความน่ารังเกียจที่คนอื่นมองพวกเขาขนาดนี้ แล้วทำไมพวกสาวกกบฏอีกหลายคนถึงมืดบอดไม่รู้สึกรู้สาถึงความวิปริตผิดแผกไปจากหลักธรรมวินัยของเจ้าลัทธิเลยหรือ หรือรู้สึกแต่ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง
แม้พักหลังนี้พวกลิ่วล้อกบฏผีบุญนี้จะไม่กล้าแต่งชุดขาวเดินตามถนน และไม่กล้าที่จะสู้หน้าชาวบ้านถึงขนาดต้องใช้ผ้าปิดบังใบหน้า ไม่กล้าที่จะสบตาชาวบ้าน แต่ก็ยังมีคนงมงายไม่รู้จักเลิก คิดแล้วน่าสังเวชนัก
คงคิดกันว่าการออกมาต่อต้านอำนาจรัฐครั้งนี้ จักส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้เหมือนกับพุทธะอิสระ ลุงกำนัน และพี่น้อง กปปส.ทำ
ขอบอกว่าใช้สมองมากๆ หน่อย สิ่งที่เวทีแจ้งวัฒนะและลุงกำนันต่อสู้มิได้สู้เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เหมือนอย่างพวกกบฏผีบุญทำ
แม้จะมีความพยายามจุดชนวนเรื่องภัยของศาสนา ถึงขนาดออกมาโพนทะนาว่า ล้มธรรมกายได้ก็เท่ากับล้มศาสนาพุทธในประเทศไทยได้ มุขนี้ดูจะเป็นที่น่าเชื่อถือเฉพาะพวกลิ่วล้อกบฏผีบุญเท่านั้น ยังมีคนไทยผู้มีปัญญาอยู่อีกมากที่เขาเข้าใจได้ดีว่าลัทธินี้มันไม่ใช่พุทธ มันเป็นได้แค่ผีบุญกบฏต่อพระธรรมวินัย มาอาศัยศรัทธาในยี่ห้อพระพุทธศาสนาหากินอยู่เท่านั้น
นอกจากมันเป็นกบฏต่อพระธรรมวินัยแล้ว มันยังเป็นกบฏต่อกฎหมายบ้านเมืองและ พรบ.ปกครองคณะสงฆ์อีกด้วย
ห้วงเวลาที่ผ่านมา ลัทธิกบฏผีบุญนี้คงจะรู้ตัวว่าเห็นท่าจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของกฎหมายไปไม่ได้ จึงพยายามปลุกระดมสาวกและผู้คนในสังคมให้เชื่อว่ารัฐบาลและพุทธะอิสระกำลังทำลายพระพุทธศาสนา แต่แท้จริงแล้วคือการปกป้องตัวเจ้าลัทธิและสำนักงานใหญ่ของกบฏผีบุญนั่นเอง
ฉะนั้นการที่ชาวบ้านชาวเมืองเขาไม่มาร่วมชุมนุมด้วยก็เพราะเขารู้เซ่นเห็นชาติชั่วของลัทธินี้เป็นอย่างดี ถึงขนาดมีโพลสำรวจความเห็นถึงการประกาศใช้มาตรา ๔๔ จัดการกับปัญหาธรรมกาย ซึ่งผลจากนิด้าโพลออกมาว่า
จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับคดีวัดพระธรรมกาย ว่าจะจบอย่างไรเมื่อใช้ มาตรา ๔๔ มาระยะหนึ่งแล้ว พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ ๔๘.๔๐ ระบุว่า พระธัมมชโยหลบหนีเพื่อรอให้คดีหมดอายุความ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสิ่งที่พระธัมมชโย ควรทำมากที่สุดในขณะนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ ๘๑.๗๖ ระบุว่า ควรออกมามอบตัว
จะเห็นได้ว่า นับวันหนทางแห่งการหลอกลวงขายสวรรค์และลัทธิกบฏผีบุญนี้นับวันยิ่งจะตีบตันลงไปทุกที คอยอีกไม่นานดอกพี่น้อง ที่ คสช.จะได้คืนความบริสุทธิ์บริบูรณ์กลับมาสู่วงการสงฆ์และพระพุทธศาสนา
พุทธะอิสระ

ภาพจาก FB หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)

โดยเอกสิทธิ์ สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณภาพจาก FB หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)