วัดหรือซ่องโจรกันแน่!! เพจดัง “แฉ” ธรรมกายขุดค่ายคู เป็นยุทธวิธีทางทหาร “พระมหาทศพร ” หลุดปากเอง ขุดสนามเพลาะ อาคารบุญรักษามีอะไร?

แฟนเพจเฟซบุ๊ค Siriwanna Jill - New ได้โพสข้อความ เอาไว้ในวันที่ 7 มีนาคม 2560 อย่างน่าสนใจ ความว่า ...

ยอมรับแล้ว ว่าค่ายคู ประตูหอรบ เป็นไปตามยุทธวิธีทางทหาร มหาทศพร ผช.ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร อ้างคณะลูกศิษย์หลายคน เคยเป็นทหารเก่า แนวกั้นของวัด ขุดสนามเพลาะ มีถังน้ำมัน ทุกประตูวัดมี "หอสังเกตการณ์ ติดตั้ง CCTV ทั่วทุกจุด อุปการณ์ชั้นเลิศ ชัดแจ๋ว สนามเพลาะไม่ใช่แค่กั้นรถ เป็นที่ซุ่มยิง นะจ๊ะ


 

นอกจากนั้น เพจเฟซบุ๊คดังกล่าวไ ด้โพสข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ...

จุดขุดสนามเพลาะ และบังเกอร์ อยู่ติดกับที่เอกชน เพื่อกันไม่ให้ทหารบุกเข้ามา ยังตึก อาคารบุญรักษา ซึ่งเป็นอาคารที่ นส.พัฒนา เสียชีวิต สูง 6 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองแอน เชื่อมกับถนนเลียบคลองสาม บนพื้นที่ 130 ไร่ เลยประตู 5 และ 6 ขึ้นไปประมาณ 500 เมตร ติดกับพื้นที่ 196 ไร่ ตรงข้ามสภาธรรมกายสากล อยู่บริเวณโซน D ที่ DSI กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม

ก่อนหน้านี้ กกล.ทหารจากกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ เคยพยายามรุกเข้าไป แต่ก็ถูก”ยัน” จนต้อง “ถอย” ถูกพระภิกษุจำนวนหนึ่ง พยายามปิดกั้นไม่ให้เข้าพื้นที่

หากไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็จะพบว่า สนามเพลาะ นั้นมันคือ แนวกั้นที่ขุดขึ้นเพื่อหลบภัย หรือสำหรับใช้ซุ่มยิง ซึ่งเป็นการดำเนินการตามยุทธวิธีทางทหาร เป็นแนวทั้งรับในการทำสงคราม ซึ่งทหารจะใช้สำหรับหลบแนวข้าศึก หรือจะใช้เป็นสถานที่เป็นแนวสกัด เวลาข้าศึกจุรุกเข้ามา ซึ่งยุทธวิธีแบบนี้ จะถูกใช้ตอนทำสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และก็มีการประยุกต์ใช้ในยุทธวิธีทางทหารมาโดยตลอด


 

ขณะที่ทางด้านทางด้าน คำชี้แจงวัดพระธรรมกาย วันที่ 7 มีนาคม 2560 เวลา 09 : 00 น.

วันที่ 20 ของการที่วัดพระธรรมกาย ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและรัฐใช้งบประมาณไปแล้วไม่ต่ำกว่า 60 – 100 ล้านบาท

 

1.กรณีเจ้าหน้าที่ DSI พบร่องน้ำและถังน้ำมันเปล่า 200 ลิตร โซนอาคารบุญรักษา คาดสกัดกำลังเจ้าหน้าที่นั้น วัดพระธรรมกายขอชี้แจงว่าไม่ได้มีเจตนาขัดขวางเจ้าหน้าที่แต่ประการใด ส่วนถังน้ำมันที่พบนั้น เป็นถังน้ำมันเปล่า ที่นำมาเป็นหลักในการขึงซาแลน เพื่อกันแดด กันฝุ่น และลมร้อนเท่านั้น

 

2. กรณีผู้กล่าวหาว่าวัดพระธรรมกาย เป็นกบฏต่อแผ่นดินและพระธรรมวินัย วัดพระธรรมกายขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ดังนี้

2.1 ด้านพระธรรมวินัย ที่ผ่านมาวัดพระธรรมกายส่งเสริมการศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง มีพระภิกษุ สามเณรบวชเรียนศึกษาพระธรรมวินัยกว่า 3,000 รูป สำนักเรียนพระปริยัติธรรมวัดพระธรรมกาย มีผู้สอบผ่านบาลี ป.ธ.9 จำนวน 70 รูป พระภิกษุที่จบการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต (ด็อกเตอร์) จำนวน 12 รูป ที่เป็นบุคลากรทางการศึกษาในสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ

2.2 ด้านกฎหมาย เมื่อวันที่ 16 – 18 ก.พ. ที่ผ่านมา ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าทางวัดได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยตรวจค้นบริเวณพื้นที่โซน A และ โซน B อย่างละเอียดถี่ถ้วนถึง 3 ครั้ง และทางเจ้าหน้าที่ยังได้บันทึกสรุปการปฏิบัติหน้าที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่า ไม่พบบุคคลเป้าหมายและไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หลังจากวันตรวจค้นผ่านมาแล้ว 18 วัน เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่กลับและยังคงบังคับใช้ ม.44 อีกด้วย

 

3. กรณีกล้องวงจรปิดที่ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐทุบทำลาย ตามประตูต่างๆ รอบวัด กว่า 17 ตัว ซึ่งเป็นกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้เพื่อรักษาความปลอดภัย เฝ้าระวังมือที่ 3 ที่จะเข้ามาก่อกวนความสงบ และป้องกันผู้ไม่หวังดีที่อาจจะเข้ามาลักขโมยทรัพย์สมบัติของวัดเท่านั้น และสำหรับเรื่องนี้ทางวัดจะดำเนินการติดตั้งกล้องใหม่ที่จุดเดิมอีกครั้ง พร้อมกับเชิญพี่น้องสื่อมวลชนร่วมทำข่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบว่า เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจซึ่งกันและกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เจ้าหน้าที่จะไม่มาทำลายสมบัติพระพุทธศาสนาอีก








Sathaporn Tnews.