ยิ่งดูยิ่งคิดถึงพระองค์ เมื่อครั้งทรงพระผนวช ในหลวงร.9 ไม่ทรงสวมฉลองพระบาท เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระผนวชทำกิจของสงฆ์เช่นภิกษุทั่วไป(คลิป)

เฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงร.9 ทรงพระผนวช เมื่อปี 2499 ซึ่งนับเป็นภาพที่

เฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงร.9 ทรงพระผนวช เมื่อปี 2499 ซึ่งนับเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง โดยได้อธิบายคลิปไว้ว่า...

ยิ่งดูยิ่งคิดถึงพระองค์ เมื่อครั้งทรงพระผนวช ในหลวงร.9 ไม่ทรงสวมฉลองพระบาท เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระผนวชทำกิจของสงฆ์เช่นภิกษุทั่วไป(คลิป)

"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระผนวชที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๔๙๙ โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงชิรญาณวงศ์ ทรงเป็นพระราชอุปัชฌาย์ แล้วเสด็จฯ มาทรงปฏิบัติสมณวัตร ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงได้รับสมญานามว่า “ภูมิพโล” จนถึงวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ ทรงลาผนวชทั้งหมดอยู่ ๑๕ วัน
สมเด็จพระสังฆราชเจ้าได้รับมอบหมายให้ทรงเป็นพระพี่เลี้ยง ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนองพระเดชพระคุณ ตลอดเวลาที่ทรงปฏิบัติหน้าที่นี้ มีความรู้สึกว่า พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้ทรงผนวชตามราชประเพณีอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทรงผนวชด้วยพระราชศรัทธา ที่ตั้งมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง มิได้ทรงเป็นบุคคลจำพวกที่เรียกว่า “หัวใหม่” ไม่เห็นศาสนาเป็นสำคัญ
หากเป็นบุคคลธรรมดาสามัญก็กล่าวได้ว่า “บวชด้วยศรัทธา” เพราะทรงพระผนวชด้วยพระราชศรัทธา ประกอบด้วยพระปัญญา และได้ทรงปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด"

ยิ่งดูยิ่งคิดถึงพระองค์ เมื่อครั้งทรงพระผนวช ในหลวงร.9 ไม่ทรงสวมฉลองพระบาท เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระผนวชทำกิจของสงฆ์เช่นภิกษุทั่วไป(คลิป)

"เช้าวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ เป็นวันที่ ๑๔ แห่งการทรงพระผนวช ได้เสด็จพระราชดำเนินออกบิณฑบาตโดย "ไม่มีหมายกำหนดการ" โดยเสด็จพระราชดำเนินไปตามถนนสายบางลำพู แล้วเสด็จพระราชดำเนินประทับรถวิทยุ อ.ส. (ก.ท. ส่วนพระองค์) ที่ภายในบริเวณโรงเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร ออกไปทางสะพานเฉลิมวันชาติ ผ่านหน้าวังสวนกุหลาบ ถนนราชวิถี ถนนพระรามที่ ๖ อ้อมไปทางสะพานควาย กลับมาทางถนนพหลโยธินและถนนพญาไท บริเวณใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและสี่แยกราชเทวี ถนนเพชรบุรี
ทรงมีรับสั่งให้พลขับ จอดรถเป็นระยะๆ เพื่อทรงแวะรับบิณฑบาตรจากประชาชนทั่วไป ซึ่งมิได้ล่วงรู้มาก่อนเลยว่า จะได้ใส่บาตรกับพระภิกษุพระเจ้าแผ่นดินในเช้าวันนั้น ทั้งคนไทยและคนจีนที่ได้มีโอกาสถวายภัตตาหารบิณฑบาตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงรู้สึกตื่นเต้นที่มีบุญอย่างยิ่งโดยมิได้คาดฝัน และเมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับถึงวัดบวรนิเวศวิหาร ก็ยังมีคนมาถวายภัตตาหารหน้าวัดอีกหลายราย ซึ่งจะต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ต่อไปว่า พระมหากษัตริย์ที่ทรงพระผนวชได้เสด็จพระราชดำเนินออกทรงรับบิณฑบาตรจากประชาชน เช่นภิกษุสงฆ์ทั่วไป
“เมื่อเสด็จฯ ไปทั้งในและนอกวัดในสมัยทรงพระผนวช ในหลวงไม่ทรงสวมฉลองพระบาท และเสด็จฯ ไปด้วยพระบาทเปล่าทุกแห่ง ทรงปฏิบัติกิจวัตรต่าง ๆ อย่างสมบูรณ์และทรงรักษาเวลา เมื่อตีระฆังลงโบสถ์ในวันปกติทุกเช้าเย็นก็จะเสด็จ ฯ ลงโบสถ์ทันที ทำให้พระภิกษุสามเณรทั้งวัด พากันรักษาเวลาอย่างเคร่งครัด”
วันนี้ "วันพระ" วันอาทิตย์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๐ 
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสี่(๔) ปีวอก
ขอบคุณ Manee Prateep Na Talang"

ยิ่งดูยิ่งคิดถึงพระองค์ เมื่อครั้งทรงพระผนวช ในหลวงร.9 ไม่ทรงสวมฉลองพระบาท เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระผนวชทำกิจของสงฆ์เช่นภิกษุทั่วไป(คลิป)

ชมคลิป


ข้อมูล : Kanok Ratwongsakul
เรียบเรียง : สุกันยา ทีนิวส์