- 13 มี.ค. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อเวลา 13.00 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วย นางอารีรัตน์ ชมโลก แม่ของนายธีรพงศ์ ฐิตะฐาน หรือน้องปอนด์ นักศึกษาม.ศิลปากร ชั้นปีที่ 4 ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น 18 คนรุมทำร้ายแทงด้วยไขควงที่ศีรษะจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ท้องที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เดินทางเข้ายื่นเรื่องขอความช่วยเหลือคุ้มครองพยาน รวมทั้งจัดหาทนายความ และเงินเยียวยาช่วยเหลือเหยื่อจากคดีอาญา โดยมี นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม นางนงภรณ์ รุ่งเพ็ชรวงศ์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ว่าที่ ร.ต.ธนกร สถานานนท์ ผอ.สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา มารับเรื่อง
นายสงกานต์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย พบว่าเป็นผู้ชาย 14 คน ผู้หญิง 4 คน เป็นคนในพื้นที่ จ.เพชรบุรี 15 คน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2 คน และ กรุงเทพฯ 1 คน ส่วนอายุนั้นมี อายุ 26 ปี 1 ราย อายุ 24 ปี 1 ราย อายุ 22 ปี 1 ราย อายุ 20 ปี 10 ราย และ อายุ 18 ปี 3 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของตำรวจ ทหาร และ นักการเมืองในพื้นที่ สำหรับพฤติการณ์ต่างๆ ขณะนี้ สภ.ชะอำ ได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่น ส่วนจะมีการเพิ่ม เป็นการไตร่ตรองไว้ก่อนแล้วหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จะพิจารณาอีกครั้ง
นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ ( 14 มี.ค.) จะมีพยานเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามอีก 4 ปาก ซึ่งพยานกลุ่มนี้ยังไม่เคยให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่มาก่อน ที่สำคัญผู้ก่อเหตุ 18 คน มี 6 คนที่เป็นลูกหลานของตำรวจ ทหาร และนักการเมืองท้องถิ่นที่ เข้าไปภายในหอพักลงมือทำร้ายน้องปอนด์ เสียชีวิต ดังนั้น การเข้ายื่นเรื่องในวันนี้ เนื่องจากมีเรื่องของผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเกรงว่าครอบครัวผู้เสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและหากได้รับการประกันตัวก็จะคัดค้านไม่ให้ประกันตัว
นายสงกานต์ กล่าวว่า สำหรับหลักฐานที่นำมายื่นในวันนี้ เป็นช่วงหนึ่งของบทสนทนาข้อความในเฟซบุ๊ก จากเพื่อนของหนึ่งในผู้ต้องหาที่แจ้งว่ามีบุคคลอ้างวิธีไม่ให้ถูกดำเนินคดี ด้วยการให้ผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ปฎิเสธข้อกล่าวหาในชั้นพนักงานสอบสวน และขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น จึงได้นำหลักฐานตรงนี้มายื่นให้กับกระทรวงยุติธรรมได้พิจารณาเรื่องของการคุ้มครองผู้เสียหายในฐานะพยาน
ด้าน นางอารีรัตน์ กล่าวว่า กังวลเรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากหลังจากเกิดเหตุ สังเกตเห็นว่ามีคนขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนอยู่ละแวกบ้าน แต่ตอนนี้ครอบครัวได้ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯแล้ว ทำให้รู้สึกปลอดภัยขึ้น แต่เป็นห่วงครอบครัวเพื่อนของลูกชายซึ่งยังอยู่ในพื้นที่ ขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวและให้กำลังใจมาตลอด
ขณะที่นายธวัชชัย กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมจะรับเรื่องดังกล่าวไว้ ซึ่งในวันที่ 28 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมพิจารณาการช่วยเหลือเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ซึ่งจะมีการพิจารณาว่าทางกระทรวงยุติธรรมจะมีการช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง ส่วนมาตรการคุ้มครองพยานนั้น จะเป็นหน้าที่ของกรมคุ้มครองสิทธิฯ ที่จะต้องพิจารณาว่าจะให้การช่วยเหลืออย่างไร ทั้งนี้ หากทางครอบครัวต้องการให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือในเรื่องของทนายความ ก็สามารถติดต่อมายังกองทุนยุติธรรมได้ ซึ่งทางเรายินดีออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ ทั้งค่าเดินทางและค่าทนายความ เพราะการดำเนินการดังกล่าว เป็นการช่วยเหลือผู้ยากจนและผู้ที่ไม่มีทนายความในการต่อสู้คดี
วิทย์ณเมธา สำนักข่าวทีนิวส์