ซวยมาถึงลูก-กรรมมาถึงแล้ว!!!“วิษณุ”เผยหากทรัพย์สิน“ทักษิณ”ซุกตปท.ก็เก็บที่โอนให้ลูก พบ30นักการเมืองยุค“อภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์”ไม่จ่ายภาษี??

จากกรณีที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งการให้กรมสรรพากรตามเก็บภาษีจากการขายหุ้นชินคอร์ปของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจำนวน1.6หมื่นล้านบาท โดยอาจต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาล รวมทั้งกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. แจ้งหนังสือไปยังกรมสรรพากรให้ตรวจสอบและตามเรียกเก็บภาษีนักการเมืองในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำนวน60คนนั้น

       ล่าสุดในวันนี้ (17 มีค.60) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แจ้งให้กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากอดีตนักการเมือง ทั้งในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เสียภาษีไม่ถูกต้อง เข้าข่ายการหลีกเลี่ยงภาษีว่า เท่าที่ทราบขณะนี้มีนักการเมืองที่เข้าขายเลี่ยงภาษีประมาณ 20-30 คน ไม่ใช่ 60 คน แต่ยังไม่ทราบรายชื่อ พร้อมระบุว่า การดำเนินการเรียกเก็บภาษี จะต้องเป็นไปในมาตรฐานเดียวกันกับกรณีการเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งรัฐบาล จะใช้กรณีดังกล่าวนี้ เป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาคดีอื่น ๆ ด้วย และดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมปกติ ด้วยการตัดสินของศาล

       ทั้งนี้รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า หากศาลพิพากษาแล้วว่าอดีตนายกรัฐมนตรีจะต้องจ่ายภาษี แต่ทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศก็ต้องไปพิสูจน์ว่าทรัพย์สินที่โอนให้บุตร หากพิสูจน์ได้ ก็สามารถนำกลับมาเพื่อจ่ายภาษีให้กรมสรรพากรได้ “ยังยืนยันถึงช่องทางการเรียกเก็บภาษีว่า นอกจากกระบวนการของสรรพากรแล้ว ยังมีกระบวนการของหน่วยงานอื่น ๆ ที่ดำเนินการควบคู่กันไปได้ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะเกรงจะเสียรูปคดี พร้อมขอให้สังคม อย่านำกรณีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังนี้ ไปเชื่อมโยงกับกระบวนการสร้างความปรองดอง ที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพราะถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน และหากรัฐบาลเพิกเฉยไม่ดำเนินการก็อาจถูกกล่าวหาได้ว่าปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ”