- 18 มี.ค. 2560
ที่จีนมีแนวโน้มที่จะแสดงความโกรธที่ถูกสั่ง ให้ห้ามปรามเกาหลีเหนือในกรณีดำเนินการทดสอบขีปนาวุธ และทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ อย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานข่าว กรณีที่จีนมีแนวโน้มที่จะแสดงความโกรธที่ถูกสั่ง ให้ห้ามปรามเกาหลีเหนือในกรณีดำเนินการทดสอบขีปนาวุธ และทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทางด้าน เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง ในวันนี้ เป็นครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่ง โดยทางด้านจีนเรียกร้องให้สหรัฐฯนั้น ลดความตึงเครียดในภูมิภาคเกาหลี และ จีนยังได้แสดงออกอย่างชัดเจนในการต่อต้าน การติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในชั้นบรรยากาศระดับสูง หรือที่เรียกกันว่า THAAD ในเกาหลีใต้
เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวที่เกาหลีใต้ว่า การใช้กำลังทหารจัดการเกาหลีเหนือ ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ เป็นทางเลือกหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ หากภัยคุกคามยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ดูเหมือนจะเป็นการส่งสัญญาณจากสหรัฐฯ ไปยังเกาหลีเหนือ หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่าเป็นฝึกซ้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐฯในประเทศญี่ปุ่น
โดยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังได้กล่าวย้ำว่า นโยบายความอดทนทางยุทธศาสตร์ ของสหรัฐต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นจุดยืนของรัฐบาลชุดเก่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา สิ้นสุดลงแล้ว
ภายใต้นโยบายดังกล่าว สหรัฐฯ จะไม่ใช้กำลังทหารกับเกาหลีเหนือ จนกว่าเกาหลีเหนือจะแสดงให้เห็นชัดถึงการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และหวังว่าความกดดันภายในประเทศที่ถูกโดดเดี่ยวจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ปัจจุบันกองทัพสหรัฐฯ มีทหาร 28,000 นาย ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ เพื่อช่วยป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ แต่กรุงโซล เมืองหลวงเกาหลีใต้ อยู่ในระยะยิงถึงของกระสุนปืนใหญ่ของเกาหลีเหนือ และบรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่า ความขัดแย้งใดๆ เสี่ยงต่อการลุกลามรวดเร็วและเกิดความสูญเสียมหาศาล
ขณะที่ทางด้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวว่า พฤติกรรมของเกาหลีเหนือเลวร้ายอย่างยิ่งและจีนแทบไม่ช่วยอะไรเลย ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าวนั้น เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศประกาศว่านโยบายอดทนกับเกาหลีเหนือสิ้นสุดลงแล้วและบ่งชี้ว่าอาจตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางทหารชิงลงมือก่อน
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังเรียกร้องจีน บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเกาหลีเหนือ และบอกว่าไม่มีความจำเป็นที่จีนจะลงโทษเกาหลีใต้ต่อกรณีประจำการระบบต่อต้านขีปนาวุธล้ำสมัยของสหรัฐฯ เนื่องจากมันมีเป้าหมายปกป้องตนเองจากเกาหลีเหนือ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่าการเจรจาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาของคาบสมุทรเกาหลี
เกาหลีเหนือได้ดำเนินการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์สองครั้งและมีการเปิดตัวขีปนาวุธชุดหนึ่งนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นทางด้านเกาหลีเหนือยังได้ทดลองยิงขีปนาวุธอีก 4 ลูก และยอมรับวากำลังซ้อมเพื่อถล่มเป้าหมายคือฐานทัพสหรัฐฯ ในประเทศญี่ปุ่น
ทางด้านสหรัฐฯ ก็ได้กดดันจีน เพื่อทำอะไรมากขึ้นเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ จีนได้เรียกร้องให้ใช้แนวทางแบบคู่ขนานเพื่อกระตุ้นให้เกาหลีเหนือระงับการทดสอบและสหรัฐฯและเกาหลีใต้ระงับการฝึกซ้อมรบทางทหารเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถกลับไปเจรจาได้
ขณะที่หนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทม์ ได้เขียนบทบรรณาธิการว่า
ประเด็นปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเกิดจากการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับ เกาหลีเหนือ ประเทศจีนไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้
จีนมองว่าระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense - THAAD) เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของพวกเขา