คดียาวเป็นหางว่าว?? ธรรมกายกระอักเลือด!! เจออีก127หมาย กรรมการมูลนิธิหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงฯโดนคดีอ่วม!! บีบธัมมชโยมอบตัว??

คดียาวเป็นหางว่าว?? ธรรมกายกระอักเลือด!! เจออีก127หมาย กรรมการมูลนิธิหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงฯโดนคดีอ่วม!! บีบธัมมชโยมอบตัว??

จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ประกาศยุติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังเข้าปิดล้อมค้นวัด 24 วัน แต่ไร้เงาพระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์วัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น แต่ยังคงคำสั่งมาตรา 44 คุมวัดไว้ป้องกันมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ พร้อมจัดชุดสืบสวนติดตามพระธัมมชโย ที่ถูกถอดสมณศักดิ์ และร่วมกับอัยการตรวจสอบพระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เอาเงินของวัดไปเล่นหุ้น ขณะเดียวกัน สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้ส่งหนังสือแจ้งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีและเจ้าคณะอำเภอคลองหลวง เรื่องพิจารณาความผิดคดีอาญาในทางพระธรรมวินัย ตามกฎ มส.ฉบับที่ 21 ให้พระธัมมชโยสละสมณเพศ พร้อมกำชับให้เจ้าคณะผู้ปกครองปฏิบัติตามคำสั่ง ขณะที่วัดพระธรรมกายเตรียมคืนพัดยศของพระธัมมชโยและพระทัตตชีโว

คดียาวเป็นหางว่าว?? ธรรมกายกระอักเลือด!! เจออีก127หมาย กรรมการมูลนิธิหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงฯโดนคดีอ่วม!! บีบธัมมชโยมอบตัว??

ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร. ) กำกับดูแลสำนวนการสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับคดีวัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า คณะพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้ กรรมการมูลนิธิธรรมกาย มีพระธัมมชโย หรือ ไชยบูลย์ สุทธิผล เป็นประธานกรรมการ กับกรรมการมูลนิธิธรรมกาย 11 คน และกรรมการมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงฯ มีนางวรรณา จิรกิติ เป็นประธานกรรมการมูลนิธิ กับกรรมการมูลนิธิฯ รวม 7 คน มาพบคณะพนักงานสอบสวนที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่า กรรมการทั้งมูลนิธิฯ ทั้ง 2 แห่ง ไม่มารายงานตัว ดังนั้น วันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอออกหมายจับต่อศาลจังหวัดธัญบุรี และศาลอนุมัติหมายจับ 127 หมายจับโดยมีรายละเอียด ดังนี้ มูลนิธิธรรมกาย ใน ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ 8 คดี ออกหมายจับพระธัมมชโย ในฐานะนิติบุคคล 7 หมายจับ กรรมการมูลนิธิ จำนวน10คนๆละ 8 หมายจับ รวม 80 หมายจับ ความผิดฐาน บุกรุกฯ จำนวน 3 คดี ประธานมูลนิธิฯ และกรรมการมูลนิธิฯ รวม11คนๆละ 3 หมายจับ มูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงฯ ฐานบุกรุกฯ 1 คดี ออกหมายจับกรรมการมูลนิธิฯ7คนๆละ 1 หมายจับ ได้แก่ นางวรรณา จิรกิติ ประธานกรรมการมูลนิธิ นางพิศมัย แสงหิรัญ นางคำนวณ คงศุภลักษณ์ นางสาวเมตตา สุวชิตวงศ์ นางสาวอุบลทิพย์ สุพรรณานนท์ นางสาวเสาวนีย์ สิริพงศ์บุญสิทธิ นางสาวอารีพันธุ์ ตรีอนุสรณ์ กรรมการ

โดยประวัติเบื้องต้นที่มาที่ไปของมูลนิธิหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงฯ นั้นคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2452 เกิดในครอบครัวชาวนา ที่อำเภอนครไชยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นลูกคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้อง 9 คน ของพ่อพลอย และแม่พัน คุณยายเป็นคนขยันและอดทน ช่วยพ่อแม่ดูแลงานบ้านและเป็นเรี่ยวแรงหลักในการทำนา เมื่อคุณยายอายุได้ 26 ปี (พ.ศ. 2478) ท่านตัดสินใจออกจากบ้าน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาฝึกสมาธิ(Meditation)ที่วัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) จนได้พบและฝึกสมาธิกับคุณยายทองสุก สำแดงปั้น ซึ่งเป็นครูสอนสมาธิ จากวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) จนได้เข้าถึงพระธรรมกาย แล้วใช้วิชชาธรรมกายตามหาพ่อ ได้ขอขมาและช่วยพ่อขึ้นจากนรกได้

       จากนั้นคุณยายทองสุกได้พาคุณยาย ซึ่งตอนนั้นอายุได้ 29 ปี (พ.ศ. 2481) ไปกราบหลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) เมื่อหลวงพ่อพบคุณยายครั้งแรก ท่านก็รับคุณยายเป็นศิษย์ และให้เข้าศึกษาวิชชาธรรมกายชั้นสูงในโรงงานทำวิชชาทันที
 
     ด้วยความวิริยะอุตสาหะ และความเป็นคนทำอะไรทำจริงของคุณยาย ทำให้ท่านศึกษาวิชชาธรรมกายได้อย่างรวดเร็วและเชี่ยวชาญยิ่ง จนได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้าเวรในการทำวิชชา และได้รับคำชมจากหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญว่า “ลูกจันทร์นี่ หนึ่งไม่มีสอง”
 
        หลังจากหลวงพ่อปากน้ำมรณภาพไปแล้วคุณยายก็ไม่ได้ทิ้งเจตนารมณ์ในอันที่จะถ่ายทอดวิชาธรรมกายไปสู่ชาวโลกแม้จะรู้ตัวว่าไม่รู้หนังสือเลยจะไปสอนใครได้แต่ในความเชื่อมั่นในธรรมะของพระพุทธองค์คุณยายไม่ย่อท้อได้มั่นฝึกฝนตกเองและรับหน้าที่เผยแผ่วิชาธรรมกายเรื่อยมา มีลูกศิษย์ผู้ใฝ่ธรรมขอเข้ารับการศึกษาจากท่านจำนวนมากในที่นี้รวมถึง นักเรียนไชยบูรย์ สุทธิผล (พระเทพญาณมหามุนี หลวงพ่อธัมมชโย) จากโรงเรียนสวนกุหลาบ ในเวลาต่อมาก็พา รุ่นพี่ รุ่นเพื่อน รุ่นน้อง มาฝากตัวเป็นศิษย์มากมาย  ทำให้บ้านธรรมประสิทธิ์ที่ใช้ฝึกปฏิบัติธรรมในวัดปากน้ำคับแคบลงถนัดใจ

อ้างอิงโดย ธราวุฒิ ฤทธิอักษร