บารมีพระแก้วมรกต! พระพุทธรูปที่เทวดามาร่วมสร้าง คำบอกเล่าจากหลวงปู่มั่น เมื่อพระแก้วประดิษฐานที่ใด บ้านเมืองนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยไฟสงคราม!!

ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ http://www.tnews.co.th

คำบอกเล่าของหลวงปู่มั่น

เรื่องประวัติความเป็นมาของพระแก้วมรกต

บารมีพระแก้วมรกต! พระพุทธรูปที่เทวดามาร่วมสร้าง คำบอกเล่าจากหลวงปู่มั่น เมื่อพระแก้วประดิษฐานที่ใด บ้านเมืองนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยไฟสงคราม!!

เรื่องนี้อัตถุปปัตติเหตุเกิดขึ้นเมื่อครั้งพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พักอยู่วัดป่าบ้านหนองผือ พระอุปัชฌาย์อุ่น (พระครูบริบาลสังฆกิจ (อุ่น อุตฺตโม) วัดอุดมรัตนาราม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร) ได้ไปกราบนมัสการฟังเทศน์

หลังจากท่านอุปัชฌาย์อุ่นลาลงกุฏิไปแล้ว ท่านพระอาจารย์ได้ทำความสะอาด โดยนำผ้าสรงน้ำของท่านฯ มาเช็ดถู ผู้เล่า (หลวงตาทองคำ จารุวณฺโณ) เอาผ้าเช็ดพื้นเข้าไปช่วยทำความสะอาดด้วย เพราะเห็นว่าผ้ายังสะอาดอยู่ ท่านหันมาเห็นเข้า พูดว่า

“อะไรกัน นั่นรูปพระพุทธเจ้าแท้ๆ ยังเอาผ้าเช็ดพื้นมาถูได้”

ผู้เล่าสะดุ้งไปทั้งตัว เพราะความโง่เขลาปัญญาอ่อน ท่านฯ ก็เลยทำความสะอาดเอง เสร็จแล้วก็มีเพื่อนภิกษุทยอยกันขึ้นไป รวมทั้งท่านอาจารย์วิริยังค์ด้วย ท่านเลยเทศน์ถึงความมหัศจรรย์ของพระแก้วมรกต ท่านว่า

 

“พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ว่างจากพระอริยบุคคล พระอริยบุคคลมีอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยภัยแห่งสงคราม”

บารมีพระแก้วมรกต! พระพุทธรูปที่เทวดามาร่วมสร้าง คำบอกเล่าจากหลวงปู่มั่น เมื่อพระแก้วประดิษฐานที่ใด บ้านเมืองนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยไฟสงคราม!!

ท่านพระอาจารย์มั่นเล่าว่า พระแก้วมรกตหล่อที่ลังกาทวีป ผู้เป็นประธานหล่อคือ พระจุลนาคเถระ เป็นชาวลังกา หล่อเมื่อศาสนาล่วงมาได้ 300 ปี ส่วนแก้วนั้น ท่านเล่าเชิงปาฏิหาริย์ พอเริ่มจะหล่อไม่ได้ตั้งใจจะเอาแก้วมรกตเพราะเป็นของหายาก บอกบุญตามแต่ศรัทธา จะเป็นแก้วอะไรก็ได้

ร้อนถึงพระอินทร์อยู่บนสวรรค์ มาอาสาเป็นช่างหล่อ และพระองค์มีแก้วอยู่ดวงหนึ่ง ขออนุโมทนาเป็นกุศลด้วย พระอินทร์ไม่ได้เป็นช่าง แต่ช่างคือเทพบุตรชื่อ วิษณุกรรม ส่วนแก้วก็ไม่ใช่ของพระอินทร์ แต่เป็นแก้วอยู่ในถ้ำจิตรกูฏหรืออินทสารนี้ละ- ผู้เล่าไม่มั่นใจ

 

*ร้อนถึงพระอินทร์อยู่บนสวรรค์ พระองค์มีแก้วอยู่ดวงหนึ่ง ขออนุโมทนาเป็นกุศลด้วย ช่างหล่อ คือเทพบุตรชื่อ วิษณุกรรม

(*ถอดความจากเนื้อหาเดิมเพื่อให้เข้าใจง่าย)

 

ท่านพระอาจารย์ท่านเล่าว่า เป็น “แก้วหน่อเนื้อพุทธางกูรประจำภัทรกัป” เหลืออยู่ 2 ลูก มียักษ์รักษา พระอินทร์ไปขอแก้วดวงใหญ่ ซึ่งสุกใสกว่าจากยักษ์ตนนั้น แต่ยักษ์ไม่ให้ บอกว่าไม่ใช่ของเจ้า จึงให้แก้วดวงเล็กมา

วิษณุกรรมนำมาหล่อเป็นผลสำเร็จ แต่ยังมีแก้วเหลือค้างอยู่ที่เรียกว่าแก้วก้นเตา เผาอย่างไรก็ไม่ละลาย พระจุลนาคเถระจึงอธิษฐานบรรจุไว้ใต้ฐาน ปรากฏว่าเป็นกระปุกระปะ ไม่เรียบ หล่อเสร็จมีการสมโภช ท่านจุลนาคเถระ ได้อธิษฐานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน 5 แห่ง คือระหว่างพระขนง 1 แห่ง พระอังสาทั้งสอง 2 แห่ง พระเมาลี 1 แห่ง และพระนาภี 1 แห่ง ท่านฯ ว่าอย่างนี้

 

การเสด็จไปสู่สถานที่ต่างๆ ของพระแก้วมรกตนั้นมีปัจจัย 3 อย่าง คือ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา เกิดกลียุคในประเทศนั้น และด้วยความรัก

วิษณุกรรมนำมาหล่อเป็นผลสำเร็จ แต่ยังมีแก้วเหลือค้างอยู่ที่เรียกว่าแก้วก้นเตา เผาอย่างไรก็ไม่ละลาย พระจุลนาคเถระจึงอธิษฐานบรรจุไว้ใต้ฐาน ปรากฏว่าเป็นกระปุกระปะ ไม่เรียบ หล่อเสร็จมีการสมโภช ท่านจุลนาคเถระ ได้อธิษฐานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน 5 แห่ง คือระหว่างพระขนง 1 แห่ง พระอังสาทั้งสอง 2 แห่ง พระเมาลี 1 แห่ง และพระนาภี 1 แห่ง ท่านฯ ว่าอย่างนี้

 

บารมีพระแก้วมรกต! พระพุทธรูปที่เทวดามาร่วมสร้าง คำบอกเล่าจากหลวงปู่มั่น เมื่อพระแก้วประดิษฐานที่ใด บ้านเมืองนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยไฟสงคราม!!

 

เนื้อหาจาก หนังสือ “รำลึกวันวาน” ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 หัวข้อพระแก้วมรกต

เขียนบันทึกโดย หลวงตาทองคำ จารุวณฺโณ 
เกี่ยวกับเกร็ดประวัติและปกิณกธรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต