สมเด็จพระสังฆราช เสด็จตรวจดูการบูรณะพระอุโบสถ วัดชินวราราม โปรดให้สร้างพิพิธภัณฑ์อนุรักษ์เศียรพระโบราณให้อนุชนรุ่นหลัง

ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ http://www.tnews.co.th

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 มี.ค.60 นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี นายวีรวัฒน์ วงศ์ศุปไทย ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอสามโคก ร่วมตรวจสอบเศียรพระพุทธรูปอายุ 400 ปี สมัยอาณาจักรอยุธยา ที่ขุดค้นพบบรรจุอยู่ภายใต้พระอุโบสถ ที่วัดชินวราราม วรวิหาร ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี พร้อมประสานกรมศิลปากร เข้าตรวจสอบอีกครั้ง

สมเด็จพระสังฆราช เสด็จตรวจดูการบูรณะพระอุโบสถ วัดชินวราราม โปรดให้สร้างพิพิธภัณฑ์อนุรักษ์เศียรพระโบราณให้อนุชนรุ่นหลัง

ด้าน พระมงคลวโรปการ (หลวงพ่อชำนาญ อุตฺตมปญฺโญ) เจ้าคณะตำบลบางขะแยง เจ้าอาวาสวัดชินวราราม วรวิหาร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 60 เวลา 16.00 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชได้เสด็จมาที่วัดชินวราราม วรวิหาร เพื่อตรวจดูพระอุโบสถที่กำลังบูรณะ และเขื่อนริมน้ำเจ้าพระยา รวมถึงพระตำหนักหลังใหม่ที่พึ่งจะสร้างขึ้น โดยสมเด็จพระสังฆราชได้ให้อนุรักษ์เศียรพระพุทธรูปที่พบมีไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ดูโดยทำเป็นพิพิธภัณฑ์

สมเด็จพระสังฆราช เสด็จตรวจดูการบูรณะพระอุโบสถ วัดชินวราราม โปรดให้สร้างพิพิธภัณฑ์อนุรักษ์เศียรพระโบราณให้อนุชนรุ่นหลัง

ส่วนนายวีรวัฒน์ วงศ์ศุปไทย ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอสามโคก กล่าวว่า เศียรพระพุทธรูปที่พบที่วัดชินวราราม พระอารามหลวงจังหวัดปทุมธานี เป็นเศียรพระพุทธรูปสมัยอยุธยาเพราะว่าตามประวัติพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า อดีตสมเด็จพระสังฆราชในสมัยรัตนโกสินทร์พระองค์ได้เสด็จมาบูรณะวัดมะขามใต้ซึ่งเกิดจากการร่วมวัดร้าง 2 วัดคือ วัดในและวัดคลองควายในอดีต ต่อมาเปลี่ยนชื่อวัดมะขามใต้เป็นวัดชินวรารามวรวิหารได้ทำนุบำรุงสร้างพระอุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ พระมณฑปและโรงเรียนชั้นประถม จนเจริญรุ่งเรือง ผ่านมาหลายยุคสมัย

สมเด็จพระสังฆราช เสด็จตรวจดูการบูรณะพระอุโบสถ วัดชินวราราม โปรดให้สร้างพิพิธภัณฑ์อนุรักษ์เศียรพระโบราณให้อนุชนรุ่นหลัง

ต่อมาเมื่อวัดชินวรารามได้ยกอุโบสถสูงขึ้นจึงพบเศียรพระพุทธรูปอายุ 400 ปีขึ้นไป จำนวนมากบริเวณใต้อุโบสถซึ่งแสดงให้เห็นว่าความเจริญรุ่งเรืองและความยิ่งใหญ่ของวัดคลองควายและวัดในในสมัยนั้น ซึ่งมีพระพุทธรูปมากมายโดยดูจากพุทธลักษณะแล้วเป็นศิลาทราย พระพุทธรูปสมัยอยุธยา โดยเจอชิ้นส่วนเศียรพระพุทธรูปที่เป็นสำริดก็มีแสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรอยุธยาในสมัยนั้นได้อย่างดี ส่วนใหญ่จะเป็นเศียรพระพุทธรูปเนื่องจากเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของพระพุทธรูปโดยการสร้างพระพุทธรูปในสมัยก่อนด้วยศิลาแลงนั้นจะแบ่งเป็นส่วนต่างๆแล้วมาประกอบเข้าด้วยกัน ดังนั้นในส่วนอื่นๆของพระพุทธรูปก็มีบ้างแต่น้อยกว่าส่วนของเศียรซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ

ทั้งนี้ จากการเสด็จดังกล่าว 

ข้อมูลจาก : ข่าวINN