สนธิญาณ ถาม!!คนที่เอาความตาย"ชัยภูมิ"มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองคิดได้ไง?วิเคราะห์ชัด!!พฤติกรรมคดีน่าสงสัย?คนดีทำเลวได้ถ้าทนกิเลสไม่ไหว ส่วน

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 24 มีนาคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) บรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ ถาม!!คนที่เอาความตาย"ชัยภูมิ"มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองคิดได้ไง?วิเคราะห์ชัด!!พฤติกรรมคดีน่าสงสัย?คนดีทำเลวได้ถ้าทนกิเลสไม่ไหว ส่วนวิสามัญให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม!!

                สนธิญาณ : การตายในวัยอันไม่สมควรเป็นเรื่องของความสูญเสียอันน่าเสียใจ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือสังคมโดยทั่วไปก็ตาม คุณยุคลฮะ ภายใต้ความตายของชัยภูมิ ป่าแส สิ่งที่กำลังกลายมาเป็นประเด็นนะครับ ที่สังคมกำลังพูดคุยและผมมาขอร่วมพูดคุยด้วยในวันนี้เนี่ยนะครับ เนื่องจากว่ารู้สึกไม่ดี หรือจะเรียกว่าหมั่นไส้ก็ได้นะฮะ กับคนที่เอาความตายของเด็กคนหนึ่งมาเป็นเครื่องมือในทางการเมือง เอามาขยายความ เหตุผลไม่มีอะไรหรอก เพราะว่าทหารเป็นคนยิงเด็กคนนี้ และตัวเองไม่ชอบทหาร เกลียดทหาร เพราะถ้าทหารทำอะไรก็เป็นเรื่องผิด เรื่องเลวหมดนะครับ เรื่องที่สองก็คือการดราม่าของนักกิจกรรมทั้งหลายนะครับ ความหมายของคำว่าดราม่าของนักกิจกรรมทั้งหลายเนี่ยนะฮะ คนเรานะครับ เมื่อมีภาพของความดี เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม แต่ไม่ได้หมายความว่ามนุษย์เนี่ยนะครับ ยังไม่ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลเนี่ยนะครับ จะทำในสิ่งที่ผิดไม่ได้ ในยามที่กิเลสมันเข้ามาหลอกล่อ มาหลอกลวง มาชักจูง มาดึงดูด ให้เกิดกิเลสขึ้น เพราะฉะนั้นกรณีของน้องชัยภูมิเนี่ยนะครับ เราต้องแยกออกเป็น 2 ประเด็นให้ชัดเจน ประเด็นแรก เด็กคนนี้มีพฤติกรรมอันเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ประเด็นที่ 2 ก็คือประเด็นของการตายว่าเป็นเรื่องที่ทำเกินกว่าเหตุ หรือจะมีใครในการที่จะฆ่า เพราะเด็กคนนี้เป็นเด็กที่ทำกิจกรรมหรือไม่ ผมคิดว่ามาดูเรื่องแรกก่อนนะครับ พฤติกรรมเบื้องต้นก่อน วันนั้นการไปในรถเนี่ยไป 2 คนถูกไหมครับ อีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนของเด็กชัยภูมิ และเป็นคนขับ ถูกไหมครับ ชัยภูมิไม่ได้ขับรถเอง แต่รถคันนี้เป็นรถของชัยภูมิ เรามาดูประเด็นแรกกันก่อนเลย เด็กอายุ 18 19 20 21 ตามที่คุณถกเถียงกันเนี่ยนะครับ ทำมาหากินอาชีพอะไร จะต้องกลับไปดูกัน ถึงมีรถเก๋งขับได้ อย่างน้อยจะเป็นรถมือสอง รถมือหนึ่งก็ตามแต่ ต้องผ่อนเดือนหนึ่งประมาณ 8,000-10,000 อันนี้ถ้าผ่อนก่อนนะครับ แต่ถ้าไม่ผ่อน ซื้อสดมา จะเป็นรถมือหนึ่งมือสอง ก็ต้องใช้เงินเป็นแสน เด็กคนนี้ทำอาชีพอะไร ถึงมีรถเก๋งขี่ได้ ก็ต้องไปตรวจสอบไล่เรียงกันดู ประการที่สองนะครับ รถขับมาในเส้นทางที่ทหาร ตำรวจ ตั้งด่านตรวจ เพราะเป็นเส้นทางที่ใช้ขนยาเสพติด เขาอาจจะบริสุทธิ์ก็ได้ แต่กลับมาดูพฤติกรรมต่อมา ว่าทำไมถึงให้เพื่อนขับรถ อำพรางหรือไม่ก็ต้องเอามาพิจารณา เมื่อตำรวจ ทหารเข้าตรวจค้น ทำไมเพื่อนถึงไม่วิ่งหนี ทำไมเพื่อนถึงไม่ต่อสู้ เด็กชัยภูมิเนี่ยต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ เพราะเพื่อนไม่รู้ว่าในรถมียาเสพติดใช่หรือไม่ แล้วรถเป็นรถของชัยภูมิเอง มันก็ต้องตั้งคำถามว่าชัยภูมิเนี่ยหลอกเพื่อนให้มาขับรถเพื่อที่จะอำพรางเจ้าหน้าที่ใช่หรือไม่ ทำไมชัยภูมิถึงต้องต่อสู้ และจะต้องวิ่งหนี แน่นอนครับ ถ้าโดนจับไอ้ภาพของเด็กที่ทำกิจกรรม คนที่ทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวมก็จะพังทลายในทันที การทำกิจกรรมอาจจะเป็นความตั้งใจดีมาตั้งแต่ต้น แต่จะโดนกิเลสยั่วยวนใช่หรือไม่ นี่เป็นประเด็น และเมื่อเอาเรื่องนี้ย้อนรอยกลับไปกับสิ่งที่ผู้บัญชาการภาค 5 แถลง ซึ่งบรรดาพวกที่เอาความตายของเด็กมาหากิน มาเคลื่อนไหว หรือพวกนักดราม่า สิทธิมนุษยชนทั้งหลายจะต้องกลับไปดูก็คือ เด็กคนนี้ได้มีประวัติค้ายา มีหลักฐานอันปรากฎการล่อซื้อ มีเงินเข้าบัญชีผ่านการตรวจสอบตลอดเวลา ว่าทำมาหากินอะไร ถึงมีเงินไหลเข้า รถซื้อได้อย่างไร ทะเบียนรถเป็นทะเบียนปลอม ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งทั่วๆไป คนสุจริตจะไม่ทำกัน ไม่ได้หมายความว่าใครทำความดีแล้วจะทำความเลวไม่ได้ น่ากลัวครับ โจรมันจะมาสร้างภาพทำความดีกัน ต่อไปไม่ต้องจับกุมกันหรอก มันก็กลายมาเป็นดราม่าแบบนี้ ประเด็นที่ 2 คุณยุคล ก็มาดูกันว่าการกระทำนี้เป็นความจงใจต้องการฆ่าชัยภูมิ หรือทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ผมย้ำนะครับ ประการแรก ตำรวจ ทหาร ไม่ได้ตามไปจับกุมเด็กชัยภูมิถึงบ้าน ไม่ได้ตามไล่ล่าในฐานะผู้ค้ายาเสพติด และล้อมจับ แล้วก็ยิงทิ้ง ไม่ได้เป็นแบบนั้น เป็นการตั้งด่านตรวจปกติ เด็กชัยภูมิ ขับรถ หรือนั่งรถที่มียาเสพติด รถของตัวเอง มาเจอด่านเอง นี่เป็นประการแรก ประการที่สองเมื่อตรวจค้นด้านหน้า ด้านหลัง เด็กชัยภูมิ ต่อสู้เจ้าหน้าที่ แล้วก็วิ่งหนี ระหว่างวิ่งหนีตาย เจ้าหน้าที่ทหารที่ยิง อ้างว่า ผมนี่ใช้คำว่าอ้างว่านะ จะขว้างระเบิด ซึ่งโดยหลักฐานเนี่ยพบระเบิดทำจากจีนแดงตกอยู่ข้างตัวผู้ตาย ทหารจึงยิงไป 1 นัด ย้ำนะยิงไป 1 นัด การยิงไป 1 นัดเนี่ยของพลทหารเนี่ยคุณยุคล มันต่างกันตรงไหนทราบไหมครับ ระหว่างพลทหารกับทหารชั้นประทวนเนี่ยมันต่างกัน พลทหารชั้นประทวนเนี่ยนะครับฝึกการรบจู่โจม ฝึกหลักสูตรผู้บังคับหมู่ หมายความว่าการต่อสู้เนี่ยนะครับหรือพฤติกรรมต่างๆเนี่ย หมายความว่ามีโอกาสจะยิงให้ตายได้นะครับถ้าตั้งใจจะยิง แต่ทหารเกณฑ์เนี่ยนะครับใช้เวลาฝึกไม่กี่เดือนหรอกครับ ก็ออกมาปฏิบัติหน้าที่ ใช้อาวุธเป็นนะครับ แต่ไม่ถึงแม่นจับวางเป็นหน่วยล่าสังหาร แล้วก็ยิงไป 1 นัด โดนแขน เพียงแต่ว่า แน่นอนครับกระสุนปืน M16 เป็นกระสุนหัวระเบิด แม้จะโดนแขนเนี่ยครับ ก็มีสิทธิ์ตายครับ ถ้าเส้นเลือดใหญ่ขาด ต้องไปติดตามดู เขาไม่ได้ยิงอัตโนมัติ นั่นหมายความว่า อนุมานว่า ป้องกันตัว บวกอารามตกใจ บวกประสบการณ์น้อย ซึ่งเรื่องมันก็เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ต้องแยกเป็นสองเรื่องครับ เรื่องกฎหมายทำเกินกว่าเหตุหรือไม่นะครับ ทหารเขาก็เข้ามอบตัวก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ไอ้ส่วนพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับคดีว่าเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ก็ต้องว่าต้องมาสอบสวน ต้องดูพยานหลักฐาน และก็ว่ากันในกระบวนการยุติธรรม ขอเข้ามาแจมในวันนี้เนี่ยนะครับก็ต้องการจะจำแนกแจกแจง หลายท่านนะครับคุณยุคลก็แยกไปแล้ว ขอร่วมด้วยอีก 1 คน เพื่อเป็นข้อมูลได้คิด พิจารณากัน