“สมณศักดิ์ เป็นเครื่องเตือนตนให้ตระหนักในหน้าที่ มิใช่มีไว้เพื่อเอื้อประโยชน์ส่วนตน” พระโอวาท สมเด็จพระสังฆราช ณ พิธีพระราชทานสัญญาบัตร

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

         ทางเพจเฟซบุ๊ค " กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ" ได้เผยแพร่ข้อความพร้อมทั้งภาพ เรื่องสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรง เป็นประธานประกอบพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร แก่พระสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้

ซึ่งมีข้อความดังนี้...

“สมณศักดิ์ เป็นเครื่องเตือนตนให้ตระหนักในหน้าที่ มิใช่มีไว้เพื่อเอื้อประโยชน์ส่วนตน” พระโอวาท สมเด็จพระสังฆราช ณ พิธีพระราชทานสัญญาบัตร

           "วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๓.๓๐ น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรง เป็นประธานประกอบพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร แก่พระสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๐ ณ วัดพัฒนาราม อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสาโรจน์ กาลศิริศิลป์ ผู้อำนวยการกลุ่มกิจการคณะสงฆ์ ขอประทานอนุญาตกราบอาราธนาพระเถระ และเรียนเชิญข้าราชการเข้าถวายสักการะตามลำดับ จากนั้นนายสมเกียรติ ธงศรี ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถวายรายงาน ดังนี้ สมณศักดิ์ คือบรรดาศักดิ์ หรือยศที่พระมหากษัตริย์พระราชทานแด่พระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย ดังนั้นในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๙ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานสมณศักดิ์ถวายพระสงฆ์เป็นพระราชาคณะในประเทศและต่างประเทศ จำนวน ๑๕๙ รูป เป็นพระครูสัญญาบัตรตั้งใหม่ในประเทศและต่างประเทศ จำนวน ๑,๑๔๔ รูป และได้มีพระราชานุญาตให้เลื่อนชั้นพระครูสัญญาบัตรในประเทศและต่างประเทศ จำนวน ๙๔๐ รูป และให้ทรงตั้งประทวนสมณศักดิ์ จำนวน ๑ รูป รวมพระสงฆ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในโอกาสนี้ ๒,๐๘๕ รูป พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระราชาคณะ จำนวน ๑๕๙ รูป สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้เข้ารับพระราชทานสุพรรณบัฏ หิรัญบัฏ สัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๙ เรียบร้อยแล้ว

 

            ส่วนพระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานเลื่อน และตั้งสมณศักดิ์ที่เป็นพระครูสัญญาบัตร ได้มีพระราชานุญาตถวายสมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานในพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศและผ้าไตร ในโอกาสอันสมควร วันนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้นิมนต์พระสงฆ์ในเขตการปกครองคณะสงฆ์หนใต้ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ตั้งใหม่ จำนวน ๘๘ รูป ได้รับการเลื่อนขั้นพระสังฆาธิการ จำนวน ๗๓ รูป และทรงตั้งประทวนสมณคักดิ์ จำนวน ๑ รูป รวม ๑๖๒ รูป มาเข้ารับสัญญาบัตร พัดยศฯ จากฝ่าพระบาท

           อนึ่ง มีพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และเจ้าอาวาส รวม ๑๔ รูป และมีพระสังฆาธิการได้รับพระบัญชา ฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด รองจ้าคณะจังหวัด เจ้าอาวาสและผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง มีความประสงค์ขอเข้ารับพัดยศให้ตรงกับตำแหน่ง และรับพระบัญชา ฯ ในพิธีนี้ด้วย

จากนั้น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประกอบพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศฯ แก่พระสงฆ์ พร้อมประทานโอวาทแก่พระสงฆ์ที่เข้ารับฯว่า ท่านพระครูโปรดอย่าลืมว่า สมณศักดิ์ เป็นเครื่องหมายกำกับเตือนตนให้ตระหนัก แน่วแน่และมีความวิริยอุตสาหะในหน้าที่ มิใช่มีไว้เพื่อเอื้อประโยชน์ส่วนปัจเจกบุคคลของท่านเองหรือของคนหนึ่งคนใด หน้าที่ที่พระมหากษัตริย์ทรงขอให้ท่านรับอาราธนาเป็นหลักไว้คือ

 

ข้อ ๑ รับเป็นธุระพระพุทธศาสนา หน้าที่นี้มีความหมายกว้างขวาง แต่สรุปรวมได้ไม่ยาก กล่าวคือ การอันใดที่จะรักษาพระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ยังเข็มแข็งมั่นคง ดำรงยั่งยืนอยู่บนโลกนี้ตลอดกาลนาน ท่านพระครูมีหน้าที่นั้น

 

ข้อ ๒ เป็นภาระสั่งสอน หน้าที่นี้ทำให้ท่านพระครู ได้ชื่อว่าเป็น พระครู เพราะท่านต้องมีสติปัญญาและมีความเมตตากรุณาอย่างยิ่ง ที่จะสั่งสอนพุทธบริษัทให้งอกงามในธรรม นอกจากนั้นความเป็นครูยังสะท้อนนัยว่า ท่านต้องวางตนเป็นแบบให้ผู้อื่นสามารถเจริญรอยตามได้ในทางดีงาม

 

ข้อ ๓ ช่วยระงับอธิกรณ์ ซึ่งหมายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วต้องดำเนินการในความหมายอย่างแคบก็หมายถึงคดีความโทษ ซึ่งถ้าปล่อยให้ค้างคาย่อมสร้างปัญหาลุกลามต่อไป ท่านพระครูมีหน้าที่ต้องช่วยระงับอธิกรณ์ทั้งปวง

 

ข้อ ๔ อนุเคราะห์พระภิกษุสามเณรในอารามโดยสมควร ท่านพระครูรับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศไปแล้ว เป็นที่เบิกบานยินดีทั่วหน้า อย่าลืมว่าในวัดของท่านอาจมีพระภิกษุสามเณร ที่ท่านยังดูแลคุ้มครองเขาได้ไม่เต็มที่ หรือโดยไม่สมควร ท่านต้องไม่ลืมว่า พระภิกษุสามเณรทั้งนั้นคือกำลังสนับสนุนภารกิจของพระสังฆาธิการ ท่านต้องไม่เพิกเฉยดูดาย ต้องอนุเคราะห์ดูแลเพื่อนสพรหมจารี ผู้อยู่ในปกครองของท่านให้ผาสุกโดยสมควร

หากท่านพระสังฆาธิการทุกรูปทำได้ครบถ้วนทั้ง ๔ ข้อ ดังที่ทรงอาราธนา พรที่ทรงพระมหากรุณาพระราชทานไว้ว่า จงเจริญสุขสวัสดีในพระพุทธศาสนา เทอญ นั้น ย่อมสัมฤทธิ์ผลทุกประการ

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ / ข่าว

วนิช บุญมี นักประชาสัมพันธ์