- 03 เม.ย. 2560
วันที่ 3 เม.ย. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่เปิดข้อเท็จจริงภาษี "นายวิษณุ"
วันนี้ (3 เม.ย.2560) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายจาก พรรคเพื่อไทยเดินทางมาที่ศูนย์รับเรื่องสำนักงาน กพร. เพื่อยื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่ ขอให้เปิดเผยข้อเท็จจริง เรื่องบัญชีทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น
และเงินที่ส่งลูกเรียน ต่างประเทศ ว่ามีการเสียภาษีครบถ้วนหรือไม่ และเงินที่ส่งลูกเรียนที่อเมริการวมทั้งสิ้นเป็นเงินเท่าไหร่ มีเงินมาจากแหล่งใดบ้าง และเงินที่ได้มานั้นนำไปรวมเสียภาษีแล้วหรือไม่
และช่วงที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งรองนายกฯสมัยทักษิณ ในข่วงวันที่ 24/6/2549 ถึง 24/6/2550
ปรากฏว่า ทรัพย์สินของนายวิษณุและคู่สมรสมีเพิ่มขึ้นกว่า 11 ล้านบาท และช่วงดังกล่าวอาจเป็นช่วงที่นายวิษณุ มีค่าใช้จ่ายในการส่งลูกเรียนต่อปริญญาโทและเอกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ย่อมมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก
โดยตามข่าวลูกชาย ของนายวิษณุ กล่าวไว้ว่า "ตั้งแต่ผมไปเรียนกฏหมาย ก็ไม่ได้สอบชิงทุนอะไรแต่ใช้ทุนของคุณพ่อ"
ซึ่งหากนำทุนของพ่อมารวมกับทรัพย์สินรวมที่เคยแจ้งไว้ในแต่ละครั้ง ก็ควรจะมีตัวเลขรายได้ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีตามมาด้วย รายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจึงมีประเด็นที่ควรเปิดเผยต่อไปว่าเป็นเงินที่ได้พึงประเมินที่มีการเสียภาษีครบถ้วนหรือไม่
ทั้งนี้เป็นไปตามข่าวของ นายวิษณุ ที่ว่า "เพราะเป็นเรื่องตามกฏหมายที่ทุกคนมีหน้าที่เสียภาษีอยู่แล้ว" ดังนั้น ในฐานะที่ท่านเป็นรองนายก อยู่ในขณะนี้ และรู้เรื่องกฏหมายภาษีอากรเป็นอย่างดี จึงควรเปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีอากรของท่านด้วย
เพื่อให้สังคมและสื่อมวลชนได้ทราบประวัติการเสียภาษีอย่างครบถ้วน โดยพิจารณาได้จากประวัติการยื่นบัญชีทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นมาเฉลี่ยต่อปีเป็นจำนวนมากพอสมควร.
ทั้งนี้นายเรืองไกรยังได้กล่าวต่อว่า เรื่องค่าใช้จ่ายการส่งลูกเรียนที่อเมริกานั้น ได้ทราบข้อมูลมาจากนายทักษิณ ชินวัตร บางส่วนว่า นายทักษิณ ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังรอข้อมูลดังกล่าวมาประกอบการพิจารณา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายวิษณุ คงจะมีข้อมูลที่สอดคล้องกันมาเปิดเผยว่าตลอดระยะเวลา9ปี ตั้งแต่เงินได้ปี 2548 ถึงปี2557 และเงินที่ส่งลูกเรียนต่างประเทศ ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นมาจากเงินได้อะไรบ้าง เสียภาษีครบถ้วนหรือไม่อย่างไร
ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการเกี่ยวกับหลักฐานข้อมูล เพื่อนำมาคำนวณหารายได้ที่เพิ่มขึ้นอีก และนำมาเปรียบเทียบกับยอดการเสียภาษี
อย่างไรก็ตาม นายเรืองไกร เรียกร้องให้นายวิษณุ เปิดเผยประวัติการเสียภาษี หากนายวิษณุ ได้ยื่นภาษีไว้ถูกต้องแล้ว ก็จะใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบนักการเมืองที่อาจยื่นไม่ถูกต้องต่อไป