- 04 เม.ย. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th
จากกณี นายจำลอง พุ่มมาลัย คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง น.ส.วาสนา บุราคร เจ้าหน้าที่ระดับ 4 ฝ่ายทะเบียนคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) เสียชีวิต บริเวณสนามหญ้าหน้าสำนักงานคุรุสภา ภายในกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปหลบซ่อนอยู่ที่บ้านญาติของภรรยาที่จังหวัดอ่างทอง ก่อนติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 เมื่อวานนี้ จากนั้นถูกคุมตัวมาสอบปากคำต่อที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
ล่าสุด วันนี้ ( 4 เม.ย.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเวลา 9.30 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ได้คุมตัว นายจำลอง ผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกเป็นบริเวณจุดที่นายจำลอง ปล่อยลมรถ น.ส.วาสนา ก่อนไปนั่งรอที่ป้อม รปภ. และจุดต่อมาบริเวณสนามหญ้า ด้านหน้าอาคาร สกสค. ซึ่งเป็นจุดที่นายจำลอง มีปากเสียงกับ น.ส.วาสนา ก่อนใช้ปืนขนาด 9 มม. ยิงเสียชีวิต
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้นำชี้จุดเกิดเหตุเริ่มตั้งแต่จุดปล่อยลมรถ ใน เวลา 14.00 น. เพื่อต้องการให้ น.ส.วาสนา หยุดพูดคุยด้วย ก่อนมาดักรอจนประมาณ 16.00 น. น.ส.ลงมาพบรถถูกปล่อยลมยาง จึงเจรจากับนายจำลอง โดยมีญาติของ น.ส.วาสนา ยืนยันว่ามีการโต้เถียงเกี่ยวกับการคบหาคนใหม่ แต่นายจำลอง อ้างว่าเป็นการเจรจาเรื่องรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ก่อนใช้ปืนยิงไป 3 นัดหลังจากเจรจาไม่สำเร็จ ต่อจากนั้นได้ไปพบกับนายสมชาย ศรจิ้น ผู้ต้องหาที่ให้การช่วยเหลือ โดยขับรถไปส่งนายจำลองก่อนที่จะหลบหนีไป ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญอยู่ระหว่างตรวจสอบกระสุนและอาวุธปืนที่ผู้ต้องหานำมามอบให้ เบื้องต้นเชื่อว่ามูลเหตุเกิดจากเรื่องส่วนตัว อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต ตำรวจต้องทำคดีด้วยความรัดกุม ขอญาติอย่ากังวล โดยในวันพรุ่งนี้ ( 5 เม.ย.) จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลอาญา รัชดาภิเษก โดยตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาร่วมดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพพร้อมตะโกนด่าทอ นายจำลอง ผู้ต้องหา ขอให้ตำรวจคัดค้านการประกันตัวดำเนินคดีถึงที่สุด ขอให้ประหารชีวิต ขณะที่ บิดาผู้ตายได้ตะโกนถามว่า "ฆ่าบุตรสาวทำไม" ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามากันตัวออกไป
ทางด้าน นายกิตติพันธ์ บุระคร พี่ชายคนโต กล่าวว่า รู้สึกมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม พร้อมอโหสิกรรมให้นายจำลอง เนื่องจากถูกดำเนินคดีแล้ว ที่ผ่านมาทราบว่าน้องสาสว คบกับนายจำลอง ก่อนมาทราบภายหลังว่านายจำลอง มีครอบครัวอยู่แล้ว จึงอยากเลิกคบ
ขณะที่ นายพงษ์รัตน์ พี่ชายคนรอง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทราบว่าน้องสาว มีปัญหากับนายจำลอง และเคยถูกนายจำลองข่มขู่ด้วย ส่วนเรื่องรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่นายจำลอง อ้างว่าเป็นของตัวเองนั้น เรื่องได้จบไปแล้ว และก่อนเกิดเหตุ 3 วัน น้องสาวได้บอกกับหลานสาวว่าทรัพย์สิน รวมถึงเอกสารสำคัญต่างๆ เก็บไว้ที่ใดบ้าง เหมือนเป็นลางบอกเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศขณะทำแผนฯ ว่า มีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน จำนวนมาก เดินทางมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมตะโกนด่า ผู้ต้องหาเป็นระยะๆ ทั้งนี้ ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 20 นายคอยดูแลความเรียบร้อย