รอดแล้ว!! ปปช. แย้มพิจารณาตน.ยื่นทรัพย์สินเพิ่ม ส่อหวยออกที่ตำรวจ แจง 13 ผู้บริหารมหิดลไม่เข้าข่ายต้องยื่น เหตุลาก่อน 

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

 

วันนี้ ( 4 เม.ย.)   พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.)  ได้ออกมาชี้แจงกรณีการกำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเพิ่มเติมในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.  โดยรวมถึงตำแหน่งรองอธิการบดี  จนเป็นเหตุให้รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล 13 คน ลาอกจากตำแหน่ง ว่า  เจตนารมณ์เพื่อทำให้ระบบการทำงานของรัฐและราชการมีความโปร่งใส ให้ประชาชนชื่อถือศรัทธา ไม่ได้จ้องจับผิด กลั่นแกล้ง หรือ ต้องการละเมิดสิทธิใคร ถือเป็นภารกิจป้องปรามการทุจริต โดยการยื่นบัญชีตามตำแหน่งนั้น  ส่วนใหญ่ยื่นไว้เป็นหลักฐาน จะมีการตรวจสอบความมีอยู่จริงของทรัพย์สินในระดับหนึ่ง โดยไม่ได้เปิดเผยให้ประชาชนทราบ เพราะไม่ใช่ผู้ดำตำแหน่งทางการเมือง

ทั้งนี้ยอมรับว่า ประกาศของ ป.ป.ช. อาจจะสร้างความเกรงกลัวให้กับผู้ที่ไม่เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินมาก่อน ซึ่ง ป.ป.ช.ไม่ได้เคร่งครัดจนเกินกับผู้ที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินตามที่ประกาศตำแหน่งใหม่หากไม่สามารถยื่นได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ใน 30 วัน ขณะเดียวกันพร้อมให้คำแนะนำกับบุคคลต่างๆในการยื่นบัญชี แต่หากพบว่าจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย

 

 

สำหรับรองอธิการดีทั้ง 13 คนที่พ้นตำแหน่งก่อนที่กฎหมายจะประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา จึงไม่เข้าข่ายที่ต้องยื่นบัญชี แต่หากผู้ใดลาออกตั้งแต่วันที่ประกาศใช้ แม้จะดำรงตำแหน่งเพียง 1 วันก็เข้าข่ายที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ทั้งนี้กรณีดังกล่าวส่วนตัวเข้าใจได้เพราะอาจารย์ส่วนใหญ่จะไม่ชินต่อการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน และบริสุทธิ์ใจ ที่อาจเห็นว่า ป.ป.ช.กำหนดออกมากลางวาระการดำรงตำแหน่ง 

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวด้วยว่า กรณีที่ทางเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.)  เรียกร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบทรัพย์สินของอดีตรองอธิการบดีทั้ง 13 คนนั้น กรณีนี้ต้องมีผู้กล่าวหาและต้องพิจารณาว่ามีเหตุอันควรสงสัยหรือไม่ ที่ต้องไปแสวงหาข้อเท็จจริง  เพราะการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. อาจจะไปกระทบสิทธิส่วนบุคคลได้  

 

" ที่ผ่านมา ป.ป.ช.รับเรื่องกล่าวหาที่เกี่ยวกับอธิการบดีและรองอธิการบดี ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ 311 เรื่อง แบ่งเป็นชั้นแสวงหาข้อเท็จจริง 259 เรื่อง ไต่สวน 16 เรื่อง และจากประกาศล่าสุดจะทำให้มีรองอธิบดีต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน 564 คน จาก 84 มหาวิทยาลัย" 

 ประธาน ป.ป.ช. ยังกล่าวอีกว่า  ขณะนี้ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะกำหนดเพิ่มตำแหน่งที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. อีกกี่ตำแหน่ง  โดยจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการและตำรวจ  สำหรับตำแหน่งที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินนั้น ป.ป.ช. เคยยกเลิกการยื่นบัญชีทรัพย์สินบางตำแหน่งไป  หลังจากที่เห็นว่าตำแหน่งดังกล่าวไม่มีบทบาทสำคัญในการก่อการทุจริตได้ ซึ่งการกำหนดตำแหน่งที่ต้องยื่นเพิ่มนั้น  ป.ป.ช.จะวิเคราะห์ตามสถานการณ์