ถอยแล้ว!! ตร.ยอมให้นั่งในแคปรถกระบะได้ แต่ฝ่าฝืนนั่งกระบะท้าย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ยันจับปรับจริงเริ่มขั้นต่ำให้ปชช.ปรับตัว

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

 

วันนี้ ( 5 เม.ย.)  พล.ต.ท. วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนท์ เพื่อวางมาตรการดูแลประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่าตำรวจเน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็ดขัดนิรภัยขณะขับขี่ ไม่มีใบอนุญาติขับขี่ เมาแล้วขับ และ ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยให้กวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งรถส่วนบุคคลและรถของหน่วยงานราชการ รวมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาลงตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย 

 

หากพบผู้ฝ่าฝืนไม่คาดเข็มขัดถือมีโทษปรับตามกฎหมายไม่เกิน 500 บาท แต่เจ้าหน้าที่จะเริ่มต้นปรับ 100-200 บาท ในเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนได้ปรับตัวกับข้อบังคับใช้ที่เข้มงวดขึ้น ส่วนในรถโดยสารสาธารณะ จะเน้นการบังคับใช้กับผู้โดยสารที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ขับขี่ เพราะถือเป็นเจตนาของผู้โดยสารในการละเมิดกฎหมาย พร้อมขอความร่วมมือผู้รถใช้ถนนในการคาดเข็มขัดนิรภัย และ สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เพื่อให้เป็นมาตรฐานสากล ลดการสูญเสีย

ด้าน พล.ต.อ. สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษาสัญญาบัติ 10 กล่าวถึงการใช้รถผิดประเภท หรือ การบรรทุกคนบริเวณท้ายกระบะ ว่า การบรรทุกคนในกระท้ายรถนั้นไม่สามารถทำได้  แต่กรณีมีคนนั่งในหรือมีผู้โดยสารภายในแคปของรถนั้น เจ้าหน้าที่จะผ่อนปรนให้ โดยหากพิจารณาจากความจำเป็นและเดินทางไม่ไกล โดยจะตักเตือน แต่หากพบว่าเป็นการบรรทุกในเชิงรับจ้าง  จะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย  พร้อมกันนี้ได้เชิญชวนให้ประชาชนใช้รถขนส่งสาธารณะในการเดินทางกลับภูมิลำเนาแทนการเดินทางไปภายในแคปของกระบะเพื่อความปลอดภัย

 

สำหรับการเล่นน้ำสงกรานต์นั้น พล.ต.ท. วิทยา กล่าวย้ำ ห้ามเล่นน้ำบนท้ายรถกระบะขณะรถเคลื่อนที่โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะบนถนนสายหลัก แต่สามารถขึ้นไปเล่นสาดน้ำบนรถกระบะในขณะรถจอดหรือในบริเวณที่จัดไว้สำหรับเล่นน้ำ  หากฝ่าฝืนถือมีโทษใช้รถผิดประเภท และขับรถโดยอาจเป็นอันตรายกับผู้อื่น

นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำเรื่องการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเยาวชน  ห้ามจำหน่ายสุรานอกเวลาที่กำหนด  ห้ามดื่มและจำหน่ายสุราในที่สาธารณะในช่วงเทศกาลโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

อย่างไรก็ตาม มาตรการคาดเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถสาธารณะ(รถเมล์) ไม่ได้มีการบังคับครอบคลุมถึงรถประจำทาง แต่จะบังคับใช้ในรถโดยสารระหว่างจังหวัดเท่านั้น